- 09 ก.ค. 2567
"ปู มัณฑนา" โชว์เงินติดบัญชี 14 บาท ให้ "ลิลลี่ เหงียน" หนึ่งในเจ้าหนี้ดู ก่อนร้องไห้ บอกไม่มีเงินจ่ายค่าอินเทอร์เน็ตให้ลูก
"ปู มัณฑนา" ยังมีให้ติดตามกันแบบดุเดือด สำหรับกรณีของ ปู มัณฑนา หิมะทองคำ ที่โดนแฉเรื่องการยืมเงินแล้วไม่ใช่คืน มีหนี้สินติดค้างหลักล้าน และไกล่เกลี่ยไม่สำเร็จ โดยพบว่าฝ่ายเจ้าหนี้ของ ปู มัณฑนา ไม่ได้มีเพียง ลูกหมี รัศมี แต่ยังมี ลิลลี่ เหงียน อีกราย ซึ่งเธอคนนี้ถึงกับออกปากบอกว่า ขี้เกียจทวงเงินแล้ว ทวงไปก็ไมได้ จะยกหนี้ให้ก็ได้ และย้ำว่าถ้าฟ้องมาก็จะฟ้องกลับ
ล่าสุด ลูกหมี รัศมี กับ ลิลลี่ เหงียน พร้อมทนายความฝั่ง ปู มัณฑนา ได้มาออกรายการโหนกระแส เพื่อพูดคุยถึงกรณีที่เกิดขึ้น และก็มีประเด็นที่น่าสนใจสุดๆ เมื่อ ลิลลี่ เหงียน สาวเชื้อชาติเวียดนาม สัญชาติลาว เล่าว่า เธอรู้จักกับ ปู มัณฑนา มาได้ 2 ปีแล้วผ่านรุ่นพี่ที่สนิทกัน โดยเจอกันครั้งแรกที่ร้านอาหารญี่ปุ่น
ลิลลี่ เหงียน เล่าต่อไปว่า ช่วงนั้นเธอเพิ่งถูก เอิร์ก เลเดอเรอร์ โกงเงินไป ซึ่งเมื่อได้รู้จักกับ ปู มัณฑนา อีกฝ่ายก็อ้างว่าจะช่วยพาเธอไปหาผู้ใหญ่ พาไปเจอให้ถูกคนเพื่อเข้าวงการ จะได้ไม่โดนหลอกอีก เพราะเธออยากเป็นดารา ยอมรับว่าเสียเงินไปเยอะมาก โดนหลอกมาเยอะมากเพื่อที่ตัวเองจะได้เข้าวงการ จนได้มาเจอ ปู มัณฑนา ที่เป็นนักแสดงระดับผู้ใหญ่ที่น่าเชื่อถือและมีชื่อเสียงมาก
หลังจากรู้จักกันได้เพียงวันเดียว วันรุ่งขึ้น ปู มัณฑนา ก็โทร. มาขอยืมเงินจำนวน 500,000 บาท บอกว่าขอยืมหน่อย จะเอาเงินไปทำธุรกิจ อ้างว่าคนที่ยืมคืนเพื่อนของเขา แต่เขาจะค้ำประกันให้ เราเห็นว่าเขาอยากได้เงิน ก็เลยให้ไปเลย ซึ่ง ลิลลี่ เหงียน ยอมรับตรงๆ ว่า เธออยากเป็นดารา ซึ่งในวันนี้เธอก็ได้มาออกรายการโหนกระแสแล้ว เป็นเหมือนความฝัน เรียกได้ว่า "5 แสนวันนั้น หนูได้มาออกวันนี้ หนูว่าคุ้มมาก"
หลังจากให้ยืมไปรอบแรก อีกไม่กี่วัน ปู มัณฑนา ก็มาขอยืมเพิ่มอีก 300,000 บาท รวมเป็น 800,000 บาท โดยอ้างว่าจะยืมให้เพื่อนเหมือนเดิม ซึ่งการโอนเงินให้รอบแรกนั้นเป็นการโอนเข้าบัญชีของ ปู มัณฑนา แต่รอบที่ 2 ไม่ใช่ ซึ่ง ในการขอยืมเงินนั้น ปู มัณฑนา จะเป็นฝ่ายเสนอดอกเบี้ยให้ บอกว่าเดี๋ยวจะให้ดอกเบี้ย จะเอาเท่าไหร่ก็ได้
นั่นทำให้ ลิลลี่ เหงียน บอกไปว่าเธอจะไม่เอาดอกเบี้ย เธอตั้งใจให้พี่ยืม ซึ่งต่อมาอีกฝ่ายก็พาเธอไปหานักแสดงช่อง 7 ที่กองถ่าย 1 ครั้ง แล้วก็ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวกับวงการอีก แต่เธอก็ดีใจมากแล้ว เพราะมองว่าแค่ได้พูดคุยรู้จักกับพี่เขา เราก็พอแล้ว
"เค้าจะโทร. มายืมเงินตลอด แต่หนูปฏิเสธ ทุกครั้งที่คุยกันกับลี่เรื่องเงินจะมาก่อนอันดับแรก จะยืมเงิน บอกว่าเดี๋ยวพี่ให้ดอกเบี้ย เดี๋ยวพี่ให้ดอกเบี้ย เหมือนเค้าต้องการ ยืมเงินแล้วให้ดอกเราเยอะๆ ตลอดเวลา เค้าจะเป็นคนเสนอตลอด แต่เราไม่ให้เพราะอันเก่ายังไม่ได้" ลิลลี่ เหงียน อธิบาย
ก่อนที่จุดแตกหักจะมาถึง ซึ่งมันอยู่ที่ 170,000 บาท ตอนนั้นเธอมีความลำบากมาก ๆ เธอเหลือเงินอยู่ 250,000 บาท เป็นเพราะเรื่องนี้ทำให้เธอต้องเสียเงิน 170,000 บาท จนเงินเราหมด แต่ ปู มัณฑนา คือบอกว่าจะคืนเงินตอนเย็น แต่จนวันนั้นยังวันนี้เรายังไม่ได้คืนเลย
"หนูลำบากขนาดนี้ พี่มาเอาเงินของคนลำบาก แล้วสุดท้ายเป็นยังไง กรรมตามทัน การกระทำของตน พี่ถึงได้นอนโรงพยาบาลแบบนี้เลย" ลิลลี่ เหงียน เล่า ซึ่ง หนุ่ม กรรชัย ก็ได้เตือนว่าระวังจะถูกฟ้องเอาได้ แต่เธอก็ยืนยันว่าอยากฟ้องก็ให้ฟ้อง
"ถ้าพี่เขาอยากได้เงินหนูจริงๆ จะฟ้องเพื่อเอาเงิน หนูบอกกับพี่ตรงนี้เลยว่าถ้าพี่จะฟ้องเพื่อเอาเงิน โทษฐานหมิ่นประมาท หนูไม่มีเงินให้ ถ้าเขาสามารถทำความถูกต้องของหนูกลายเป็นความผิดได้ แล้วหนูไม่มีปัญญาจ่ายเงินให้เขา เพราะตระกูลเค้าร่ำรวยอะไรก็แล้วแต่ หนูจะติดคุกให้พวกพี่ดูเลย ให้ประชาชนทั้งประเทศได้เห็น แต่ขออย่างเดียวดูแลลูกหนูด้วย"
ทั้งนี้ ลิลลี่ เหงียน ยังเผยว่าเธอเป็นคุณแม่เลี่้ยงเดี่ยว ลูกอายุ 10 ขวบแล้ว เธอลำบากขนาดนี้ยังจะมาฟ้องเธออีก ส่วนที่ประกาศจะไม่เอาเงิน 600,000 บาท เพราะเธอเบื่อ และยังเล่าว่า ปู มัณฑนา ไปออกรายการหนึ่ง อ้างว่าเธอพามิจฉาชีพไปทำให้เขาสูญเสียเงิน 500,000 บาท ซึ่งจริงๆ ไม่ได้เป็นแบบนั้น โดยตนรู้จักรุ่นพี่คนหนึ่ง ชื่อ นาง ก. จากร้านอาหารแห่งหนึ่ง เพราะเขาเคยดูข่าวว่าตนถูก เอิร์ก เลเดอเรอร์ โกงเงินไป 50 ล้านบาท
จากนั้นมีช่วงที่ ปู มัณฑนา บอกตนว่าโดนโกงที่ดิน ทำให้เกิดความเครียดจึงโทร. มาชวนตนไปดื่ม โดยอ้างว่าตัวเองอยากดื่มแต่ไม่มีเงิน ขอให้ตนพาไปเลี้ยงหน่อย เธอเลยบอกว่าตัวเองมีนัดกับรุ่นพี่ ซึ่งรุ่นพี่คนนี้อกหัก เขาจะมากินข้าวกับเธอ จะมาเป็นสปอนเซอร์ให้เธอด้วย ปู มัณฑนา เลยขอให้ช่วยพี่คนนี้มากินข้าวด้วยกันที่ร้านอาหาร
อย่างไรก็ตาม ลิลลี่ เหงียน ยังบอกอีกว่า ในตอนนั้น นาง ก. มาช้ากว่า ซึ่งทาง ปู มัณฑนา ก็ยังขอให้ตนโทร. ไปตามให้มาไวๆ เธอสังเกตว่าถ้าเป็นเรื่องเงิน ปู มัณฑนา จะมีความรีบร้อน จนมาเจอกันที่ร้านอาหาร ปูก็ร้องห่มร้องไห้ บอกว่าลูกชายขอให้จ่ายค่าอินเทอร์เน็ตให้หน่อย แต่เขาไม่มีเงิน และยังโชว์เงินในบัญชีให้ดูว่ามีเหลือ 14 บาท