"จตุพร" เตือนคสช.จับ "แม่นิว" ได้ไม่คุ้มเสีย ! อึ้งแค่ "จ้า" เป็นภัยมั่นคงเชียวหรือ ??

ติดตามข่าวสารข้อมูล www.tnews.co.th

 


"จตุพร" ย้ำ ทหารเล่นไม่ซื่อใช้วิธีการแบบโจรจับตัวประกันกับ "แม่จ่านิว"  ชี้ จะได้ไม่คุ้มเสีย -แนะไปดูหนัง "พันท้ายนรสิงห์"  ที่พระเจ้าเสือเสียท่า ปลอมตัวให้ชาวบ้านด่า เปรียบเหมือนการตอบไลน์ แค่คำว่า "จ้า" แล้วเป็นภัยเข้าตัว โดนรัฐเล่นงานม.116 ยัน ม.112   

 

 

 

วันนี้ ( 8 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า   นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวในรายการมองไกล ว่า การจับแม่ของจ่านิว หรือนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์กลุ่มประชาธิปไตยใหม่ เป็นการใช้วิธีการแบบโจรจับตัวประกัน ซึ่งไร้เกียรติยศของชายชาติทหาร โดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะได้ไม่คุ้มเสียกับการกระทำเช่นนี้ จ่านิวทั้งในสถานะนักศึกษา และแกนนำกลุ่มพลเมืองโต้กลับเคลื่อนไหวต่อต้านการใช้อำนาจของ คสช. ที่ไม่มีความชอบธรรม และอยุติธรรมมาอย่างต่อเนื่อง แต่ตำรวจ ทหารไม่สามารถดำเนินคดีได้ เพราะจ่านิวไม่มีความผิด จึงข่มขู่เล่นงานไม่ได้

 

 

 


                        โดยกล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจและทหารที่ปฏิบัติหน้าที่กรณีจับแม่จ่านิว ควรดูหนังเรื่องพันท้ายนรสิงห์ ฉบับของ มจ.ชาตรีเฉลิม ยุคล หรือ ท่านมุ้ย สร้างเพราะหนังเรื่องนี้ให้แง่คิดความสัมพันธ์ระหว่างพระเจ้าเสือกับประชาชนได้อย่างน่าสนใจ โดยพระเจ้าเสือปลอมเป็นคนธรรมดาไปพูดคุยกับชาวบ้าน แล้วถูกต่อว่าอย่างเสียหาย ถึงกับตกใจ ถ้าเจ้าหน้าที่ไปดูเรื่องนี้แล้ว จะเข้าใจว่า ควรปฏิบัติตัวอย่างไร วิธีการแฝงตัวเข้าสู่ไลน์เพื่อเจาะการแสดงความเห็น แล้วนำมาเป็นคดีกับผู้รับข้อความนั้น คงเปรียบได้กับโจรมาปล้นธนาคาร แต่เจ้าหน้าที่ธนาคารถูกดำเนินคดีในฐานไม่ห้ามปรามโจรหรือไม่ ดังนั้น การตอบไลน์ด้วยภาษาชาวบ้านว่า จ้า เป็นความผิดไม่ห้ามปราม ไม่รู้คิดไปได้อย่างไร เอาอะไรมาคิดกันหรือ

 

 

 


                          กล่าวอีกว่า การอยู่ยาวหรือไม่ของผู้มีอำนาจ ก็เป็นเรื่องของคุณ แต่เหตุการณ์วันนี้ ได้ไปถึงขั้นนำมาตรา 116 มาเล่นงานฝ่ายตรงข้าม เมื่อถูกวิจารณ์มากๆ เข้า กลับลากไปสู่มาตรา 112 ดังนั้นการใช้ดุลยพินิจต้องใช้ตามหลักนิติธรรมและนิติรัฐ การเอาลูก เมีย มาขู่นั้น ไม่ใช่วิสัยของชายชาติทหารที่จับลูก หรือแม่เป็นตัวประกัน รวมทั้งเคยจับคนที่ตัวเองเชิญไปประชุม ในห้องประชุมนั้นมันก็มากเกินไปแล้ว ตนเคยย้ำเสมอว่า คสช.อย่าได้สร้างความกลัวขึ้นในสังคม เพราะเมื่อประชาชนกลัวแล้วจะกล้าขึ้นมา ทำไมไม่สร้างความรักต่อกัน ต้องรู้จักอะไรควรหรือไม่ควรทำ และต้องมีเส้นแบ่งทางอำนาจด้วย เรื่องจับแม่จ่านิวจะลุกลามเมื่อคนรู้สึกถึงขั้นว่า ชักจะมากไปกับการกระทำของคนลุแก่อำนาจ อย่างบ้าอำนาจไปแล้ว

 

 

 


                   นายจตุพร กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ปฏิบัติหน้าที่ อย่าทำงานจนทำให้ประชาชนเกิดความรู้สึกว่า มันมากไป การปฏิบัติการต้องคิดทั้งสองด้านเสมอ ทั้งด้านได้เปรียบ และผลกระทบด้านลบในภายหลัง โดยหลักสำคัญคือ ต้องสร้างความเป็นธรรมขึ้น การจับแม่จ่านิวนั้น ตำรวจบอกมีการสนทนามากกว่าพูดว่า จ้า แล้วทำไมไม่แสดงออกมา และได้ข้อมูลมาอย่างไร ทำไมแถลงกันไม่ได้ จึงเชื่อว่า เป็นการปฏิบัติการไม่ตรงไปตรงมา และตนเชื่อว่า คสช. จะได้ไม่คุ้มกับเสียด้วย.