- 24 ก.ค. 2559
ติดตามรายละเอียด deep.tnews.co.th
ถือเป็นแนวคิดที่มีการถกเถียงมานาน กับข้อเสนอในเชิงสนับสนุนการขึ้นค่าแรง 300 บาทในรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ของนายธนินท์ เจียรวนนท์ มหาเศรษฐีเมืองไทย เจ้าของอาณาจักรซีพี และทฤษฎีสองสูง หรือ การอัดเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ เงินเดิอนข้าราชการต้องสูง และการปล่อยให้ราคาสินค้าเกษตรถีบตัวขึ้นไป เพื่อทำให้เศรษฐกิจประเทศขยายตัวเพิ่มขึ้น ล่าสุด นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความทางเฟสบุ๊ก ในประเด็นเกี่ยวกับ “โลกาภิวัฒน์ ไม่ได้ทำให้คนส่วนใหญ่มีชีวิตที่ดีขึ้น” ระบุว่า
“วันก่อนผมชวนคิดเรื่องช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนที่ถ่างมากขึ้นทุกที ได้ข้อมูลเพิ่มมา ขอคุยต่อครับ เริ่มจากคำพูดของคุณ Theresa May นายกรัฐมนตรีหญิงของอังกฤษกล่าวในวันแรกที่รับตำแหน่งว่า
“วันนี้คนอังกฤษไม่มั่นใจในทิศทางของโลกาภิวัฒน์ ( Globalization ไม่ได้ทำให้คนส่วนใหญ่ฐานะดีขึ้น ) ทำให้คนอังกฤษเริ่มหงุดหงิดกับคนชั้นปกครอง ( political class )” และยังมีงานวิจัยของ McKinsey & Company … “Poorer than their parents” ผลงานวิจัยพบว่า ระหว่างช่วงปี 2548 – 2557 คนรุ่นใหม่ทำมาหากิน มีรายได้น้อยกว่าคุณพ่อ คุณแม่ รายงานของ McKinsey ระบุจำนวนประชากรกว่า 540 ล้าน ที่รายได้นิ่งอยู่กับที่ ไม่เติบโต ที่สำคัญ คือประชากรที่มีปัญหานี้อยู่ในกลุ่มของประเทศที่พัฒนาแล้ว ไม่ใช่จากกลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนา
คำพูดของท่านนายกรัฐมนตรี Thersa May สอดคล้องกับงานวิจัยของ McKinsey ว่า โลกาภิวัฒน์ ไม่ได้ทำให้คนส่วนใหญ่มีชีวิตที่ดีขึ้น ถ้าประเทศที่พัฒนาแล้วเขาวิตกกันขนาดนี้ บ้านเราน่าจะอาการร่อแร่ครับผมว่าถึงเวลาแล้วที่เราต้องทบทวนหลักคิดในการพัฒนาประเทศเสียใหม่ หลักคิดที่ว่า ต้องช่วยให้คนรวยรวยขึ้น คนรวยจะช่วยดึงคนจนขึ้นมา คนจนจะรวยตาม หรือทฤษฎีสองสูงที่เคยมีคนชื่นชมบอกว่าสุดยอด ต้องโยนทิ้งแล้วครับ ใช้หลักคิดพลิกกลับกัน น่าจะดีกว่า รัฐฯสนับสนุน ช่วยคนมีรายได้น้อย รายได้ปานกลางโดยตรง ให้เขาทำมาหากินได้อย่างมีอนาคต ให้คนส่วนใหญ่ของประเทศเป็นพลังในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เป็นฐานที่แข็งแกร่งผลักดันให้คนที่มีฐานะดีเติบโตต่อไปได้อย่างมั่นคงถามว่า ทำได้จริงหรือ ทำได้ครับ ถ้ามีความกล้าหาญทางการเมือง
เพราะจะต้องกล้าเก็บภาษีคนรวย ต้องเลิกใช้เงินภาษี หรือกู้เงินเพื่อสนับสนุนธุรกิจยักษ์ทั้งหลาย ทั้งทางตรงและทางอ้อม ต้องขจัดการโกงของผู้กุมอำนาจ ต้องจัดลำดับความสำคัญในการใช้เงินใหม่หมด ที่ต้องมาก่อนคือ การศึกษาต้องเป็นเลิศ รวมไปถึงสุขภาพ สวัสดิการของผู้มีรายได้น้อย แหล่งน้ำเพื่อการเกษตรต้องบริบูรณ์ ฯลฯ จัดที่ดินทำกินเพื่อการเกษตรอย่างทั่วถึงใช้เงินมากไหม ? ถ้าเลิกคิดทำรถไฟความเร็วสูง ชลอการซื้อเรือดำนำ ไม่ให้มีการฮั้วประมูลโครงการใหญ่ๆ ฯลฯ เงินมีเหลือพอแน่ครับ
สำหรับคนระดับบนที่เขาทำมาหากินเสียภาษีมากอยู่ จะละเลยเขาเชียวหรือ? ผมว่าไม่ต้องกังวลกับพวกเขามากเกินไปหรอก แค่รัฐบาลเป็นกรรมการที่ดี ให้เขาได้ค้าขายแข่งขันตามกติกา รัฐฯ ไม่ปล่อยให้มีการครอบงำตลาดเอาเปรียบผู้บริโภค เลิกโกง เลิกเก็บหัวคิวใต้โต๊ะ เท่านี้เขาก็พอใจแล้ว
งานนี้เป็นงานหิน เป็นงานยาก เป็นเรื่องท้าทายมากสำหรับนักการเมือง หรือผู้มีอำนาจทั้งหลาย แต่ถ้าเราไม่ฉีกตัวออกมา ยังพัฒนาประเทศด้วยแนวคิดเดิมๆ ตามก้นฝรั่งบ้าง จีนบ้าง หายนะรออยู่ข้างหน้าแน่นอน บ้านเราจะมีผู้นำคนไหนกล้ารับอาสาไหม”