เป็นทหารต้องรับได้!!! "บ่าววี" ยกเคสคลิปครูฝึกทหารลงโทษโหด บอกคือความสมัครใจเพื่อเรียนตามหลักสูตร ตนเคยผ่านมาแล้ว!!!

จากกรณีที่โลกออนไลน์มีการแชร์คลิปครูฝึกทหารใช้ไม้ฟาดที่หลังและใช้เท้าที่สวมรองเท้าคอมแบทถีบใส่ทหารรายหนึ่งหลายครั้ง ท่ามกลางเพื่อนๆ ทหารและครูฝึก จนเกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากว่าเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการฝึกหลักสูตรจู่โจม ของศูนย์กลางทหารม้า จ.สระบุรี ตามที่ได้มีการเสนอข่าวไปแล้วนั้น (อ่านข่าว : พิษคลิปฉาว!!! กองทัพบก สั่ง "ศูนย์การทหารม้า" สอบ "ครูฝึกหลักสูตรจู่โจม" เหตุลงโทษทหารไม่เหมาะสม (มีคลิป))

ด้าน "บ่าววี" หรือ  พันจ่าอากาศเอก วีรยุทธิ์ นานช้า ก็ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กถึงกรณีดังกล่าวโดยระบุว่า หากสิ่งที่ปรากฎในคลิปนั้น เป็นหลักสูตรจู่โจมจริง ทหารต้องรับได้ หากเป็นการฝึกหลักสูตรจริง นั่นคือทหารอาชีพ และไม่ใช่พลทหารที่เกณฑ์เข้ามา เป็นการสมัครใจเพื่อเรียนตามหลักสูตร ตนเคยผ่านการฝึกสมัยเป็นนักเรียนจ่าอากาศเหล่าอากาศโยธินและสารวัตรทหาร เคยผ่านมาแล้วและรู้ว่าหากเข้าการฝึกจะต้องเจอกับอะไรบ้าง เพียงแค่สมัยนั้นไม่มีการอัดคลิปเท่านั้น

"ถ้าเป็นหลักสูตรจู่โจมจริง..!คำว่าทหารต้องรับได้ ..#ทหารทุกนายถ้าสมัครใจอะไรไปแล้วต้องรับได้ทุกอย่าง ถ้าเป็นการฝึกหลักสูตรจริง นั้นคือทหารอาชีพ.ไม่ใช่พลทหารที่เกณฑ์เข้ามา นั้นคือความสมัครใจ เพื่อการเรียนตามหลักสูตร และคุณต้องผ่านการเทสร่างกาย ตรวจสุขภาพ #ผมดูคลิปแล้วเข้าใจความรู้สึก ในฐานะที่เป็นทหารคนหนึ่งและผ่านการฝึกสมัยนักเรียนจ่าอากาศเหล่า อากาศโยธินและสารวัตรทหาร จบการศึกษาก็รับราชการ แต่ ใครที่จบ2เหล่านี้ใน ทอ. จะมีหลักสูตรให้เรียนต่อ ทั้งคอมมานโด พีเจ หรือลินคอนทหารเรือ หรือหลักสูตรต่างๆ ของทุกเหล่าทัพ #อายุตอนนั้น21ปี บอกตรงๆ บ้าพลังและเกือบทุกคน อยากเรียนหลักสูตรต่างๆ เพราะรู้ว่าร่างกายไหวและรูว่าต้องโดนอะไร ในการฝึก แต่ยุคนั้นไม่มีคลิปให้ใครเห็น ไม่ได้ชมว่าครูที่ใช้ไม้ตีทำถูก และไม่ได้เข้าข้างคนถูกตี เพราะถ้ามันคือหลักสูตรจริง ทุกอย่างคุณต้องรับมันได้ บางครั้งสิ่งที่คุณเห็นแค่นี้ยังน้อยไป ..ในคำว่าทหารอาชีพ โดยเฉพาะ หลักสูตรรบพิเศษต่างๆ นี่มันเป็นประเด็นเพราะคลิปแค่นั้นเอง ไม่ได้เข้าข้าง ไม่ได้โลกสวย แต่..ใครมาเป็นทหารจะรู้เอง และ ผมคิดว่าชีวิตผมได้ทุกวันนี้ เพราะ คำว่า ทหาร"

 

เรียบเรียง : อดิ สำนักข่าวทีนิวส์

ขอบคุณ : เดลินิวส์