- 05 ก.พ. 2560
ติดตามข่าวเพิ่มได้ที่ www.tnews.co.th
วันนี้ ( 5 ก.พ.) นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดีฯ วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ม.รังสิต และ ผอ.สถาบันปฏิรูปประเทศไทย (สปท.) กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองในขณะนี้ว่าขณะนี้ภาคส่วนต่างๆ เริ่มคาดหวังในบทบาทของคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติและการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) ในการปลดล็อกปัญหาของชาติตามคำประกาศของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. ทำให้ปัญหาต่างๆ สารพัดถูกโยนมาที่ ป.ย.ป. จนเสมือนว่า ป.ย.ป.เป็นยาวิเศษไปแล้ว การให้ความหวังประชาชนเป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องทำให้ได้จริงและต้องไม่ให้ความหวังมากเกิน เพราะอาจจะกลายเป็นการซื้อเวลาต่อไปไม่รู้จบ
นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า งานแรกที่ ป.ย.ป.ต้องตั้งหลักให้ได้ก่อนคิดเรื่องปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์และการสร้างความสามัคคีปรองดองตามเป้าหมายของ ป.ย.ป.นั้น คือต้องเริ่มที่การลงมือปฏิรูประบบราชการทั้งระบบอย่างจริงจัง เพราะปัญหาของระบบราชการคือใหญ่โต เทอทะ รวมศูนย์ ขาดธรรมาภิบาลและเกิดการทุจริตคอร์รัปชั่นทุกวงการ ทำให้เฉื่อยชาต่อการแก้ไขปัญหา ซ้ำร้ายยังสะสมเกิดปัญหาใหม่เป็นระลอกๆ อำนาจรัฐราชการที่รวมศูนย์ทำให้รัฐไทยปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงได้ช้า นโยบายประชารัฐที่หลักการดี แต่ระยะยาวจะไปต่อยาก ถ้าไม่เพิ่มพื้นที่ให้ภาคประชาสังคมมีบทบาทและมีอำนาจตัดสินใจมากขึ้น การผลักดันเรื่องปฏิรูปในหลายๆ ครั้งที่ผ่านมา จึงไม่ประสบความสำเร็จเพราะไม่ได้นับหนึ่งที่การปฏิรูประบบราชการอย่างจริงจัง
" จุดเริ่มต้นของงาน ป.ย.ป.จึงต้องปฏิรูประบบราชการ กระจายอำนาจ ปรับเปลี่ยนวิธีคิดข้าราชการ จากวัฒนธรรมอำนาจนิยม เลิกวิธีคิดรับเหมาทำแทนประชน เน้นรับฟังและดึงประชาสังคมเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น ถ้า ป.ย.ป.ไม่กล้าลงมือผ่าตัดระบบราชการอย่างจริงจัง งาน ป.ย.ป. ที่ออกแบบ ไว้สวยหรู จะถูกสภาวะเกียร์ว่างของระบบราชการถ่วงงานและข้าราชการบางคนจะซื้อเวลารอนายใหม่เข้ามาหลังเลือกตั้ง ทำให้ ป.ย.ป.ก็เหมือนกรรมการคณะต่างๆ ก่อนหน้านี้ที่ไม่สามารถปฏิรูปอะไรได้เลย" นายสุริยะใส กล่าวย้ำ
วิทย์ณเมธา สำนักข่าวทีนิวส์