- 14 ก.พ. 2560
ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th/
ถือเป็นคดีใหญ่ที่ต้องเกาะติดความชัดเจนถึงความเชื่อมโยงของเครือข่ายค้ายาบ้า “ไซซะนะ” (คลิกอ่าน: ถอดรหัสปฏิบัติการ "ชัยยะ สยบไพรี" โยงอุสมาน สะแลแมงวงจรยานรก) ล่าสุดนายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดี ว่า ป.ป.ส.จะเร่งตรวจสอบทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด โดยสัปดาห์นี้เจ้าหน้าที่จะเข้าสอบปากคำนายณัฐพล นาคคำ หรือบอย ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมและฝากขังอยู่ในเรือนจำอีกครั้ง เนื่องจากระบุว่าเป็นเจ้าของทรัพย์ ทั้งนี้เพื่อขยายผลความเชื่อมโยงถึงบุคคลและทรัพย์สินอื่นในเครือข่าย หากนายณัฐพลให้การพาดพิงบุคคลใดก็จะต้องเรียกบุคคลดังกล่าวเข้าให้ปากคำเพิ่มด้วย
ส่วนนายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง น่าจะเรียกเข้าให้ปากคำอีกครั้ง หลังเข้าสอบปากคำนายณัฐพล โดยเฉพาะประเด็นอ้างว่ามีการยืมเงินจากนายณัฐพลมากถึงนายอัคร 6 ล้านบาทไปดาวน์รถลัมโบกินี ซึ่งนายณัฐพลต้องชี้แจงที่มาและพยานหลักฐานให้ชัดเจน โดยหากเป็นการซื้อจริงต้องมีสัญญา ที่สามารถตรวจสอบการจ่ายเงินได้ ซึ่งทั้งหมดจะนำมาใช้พิจารณาว่าจะมีการแจ้งข้อกล่าวหากับนายอัครกิตติ์หรือไม่ เพราะพฤติการณ์ที่ผ่านมาอาจเข้าข่ายความผิดคือสมคบกันกระทำความผิด หรือช่วยเหลือหรือสนับสนุน แต่หากมีพยานหลักฐานยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องจริงก็อาจไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา
ขณะเดียวกันมีรายงานข่าวว่า ทางกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ( บช.ปส.) อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อนำมารวมเพิ่มเติมกับข้อมูลหลักฐานที่ได้จากการสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้อง และหลักฐานที่มีอยู่เดิมก่อนหน้านี้ เพื่อใช้ในการพิสูจน์ทราบว่าใครเป็นเจ้าของรถลัมโบกินี กัลลาโด สีเทา-ดำ มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงมุ่งไปที่ประเด็นการตรวจสอบที่ไปที่มาของของเม็ดเงินยืมจำนวน 6 ล้านบาทที่นายอัครกิตติ์ อ้างว่ามีการหยิบยืมจาก นายณัฐพล หรือบอย นาคคำ ผู้ต้องหาคดียาเสพติดเครือข่ายยาเสพติดของ นายไซซะนะ เนื่องจากพบว่านายณัฐพล ได้มีการโอนเงินเข้าสู่บัญชีของร้านแต่งรถของ เบนซ์ เรซซิ่ง จำนวน 3 แสนบาทเป็นประจำทุกเดือน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเงินดังกล่าวเป็นเงินที่ นายณัฐพล โอนให้กับ นายอัครกิตติ์ เบนซ์ เรซซิ่ง เพื่อวัตถุประสงค์อะไร เนื่องจากเป็นจำนวนเงินที่ใกล้เคียงกับจำนวนเงินที่ใช้ในการผ่อนรถลัมโบกินีคันดังกล่าวในแต่ละงวดเดือน
ขณะที่รถลัมโบกินีจากการตรวจสอบพบว่าเป็นรถที่มีการนำเข้ามาอย่างถูกต้อง และเป็นรถมือสองเคยผ่านการครอบครองมาแล้ว 3 คน โดยเจ้าของคนแรกอยู่ที่ จ.สงขลา ก่อนจะเปลี่ยนผู้ครอบครองเป็นบริษัทไฟแนนซ์แห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร และจอดขายอยู่ที่เต็นท์รถบลูโน่ ออโต้ คลีนิค ย่านพรพระราม 3 ก่อนจะมีอยู่ที่ เบนซ์ เรซซิ่ง ดังกล่าว
ด้าน พล.ต.ต.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส. กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินการสืบสวนขยายผลเครือข่ายนายอุสมาน สแลแมง นักค้ายาเสพติดข้ามชาติรายใหญ่ในพื้นที่ภาคใต้ว่า ขณะนี้มีความคืบหน้าไปมาก ซึ่งในเร็วๆนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มอีก 1 รายเนื่องจากทางบช.ปส. ได้รับความร่วมมือจากสปป.ลาว ในการให้ข้อมูลที่มากพอสมควร แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด
ส่วนคดีรถยนต์สปอร์ตหรู ลัมโบกินี่ ของนายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง ทางพนักงานสอบสวนจะมีการสรุปสำนวนให้เสร็จภายในสัปดาห์นี้โดยจะมีการเชิญนายอัครกิตต์ เข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติมในวันพฤหัสนี้ ส่วนในทางกฎหมายแล้ว มีความเป็นไปได้ว่า นายอัครกิตต์ จะถูกดำเนินคดีในข้อหาสมคบกันฟอกเงิน เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีหลักฐานตามข้อเท็จจริงว่า นายอัครกิตต์ ครอบครองรถลัมบอกินี่โดยผิดกฎหมาย อีกทั้งคำให้การของนายอัครกิตต์ยังขัดแย้งอยู่ อย่างไรก็ตามเชื่อว่ายังมีผู้เกี่ยวข้องในคดีนี้อีก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังอยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผล พร้อมรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อจับกุมผู้เกี่ยวข้องต่อไป (คลิกอ่าน: เปิดชื่อลูกนักการเมืองดัง พัน "เบนซ์ เรซซิ่ง" )
เรียบเรียง : มนันยา สนข.ทีนิวส์