"10 เมษายน ผ่านไป 7 ปี ... เหลืออีกกี่ปีจะได้เจอกัน" ภรรยาโพสต์อาลัยการจากไปของวีรบุรุษ "พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม " เหตุปะทะชุมนุมแดง ปี53

ผ่านไปเป็นเวลา7 ปี สำหรับการสูญเสียวีรบุรุษ อย่าง"พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม นายทหารที่เสียชีวิตจากการปะทะกับกลุ่มผู้ชุมนุมแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. แดงทั้งแผ่นดิน ที่แยกคอกวัว เมื่อคืนที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2553

โดยล่าสุดด้านนางนิชา หิรัญบูรณะ ธุวธรรม เป็นภรรยาของพล.อ.ร่มเกล้า ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟสบุ๊คส่วนตัว โดยระบุว่า...

"๑๐ เมษายน ผ่านไป 7 ปี... เหลืออีกกี่ปีจะได้เจอกัน"

 

ทั้งนี้การชุมนุมของกลุ่มนปช.คนเสื้อแดงได้เริ่มชุมนุมในวันที่ 12 มีนาคม 2553 ที่บริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศ เขตพระนคร มีข้อเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรียุบสภา ซึ่งในช่วงเวลานั้นรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และได้ขยายพื้นที่ ความรุนแรงในการชุมนุมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนนายอภิสิทธิ์ ได้เรียกประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ และประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และจังหวัดใกล้เคียง พร้อมตั้งศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ ศอฉ.

จนกระทั่งวันที่ 10 เม.ย. 53 เวลาประมาณ 12.00 น. แกนนำ นปช. ได้ปราศรัยที่สะพานผ่านฟ้าลีลาศ เตือนผู้ชุมนุมว่า ทหารจะสลายการชุมนุม ฝ่ายทางทหารก็ได้รับคำสั่งในการขอคืนพื้นที่จากผู้ชุมนุม

จากนั้นเมื่อเวลา 14.00 - 16.00 น. ได้เกิดการปะทะกันระหว่างทหาร กับกลุ่ม นปช. บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์และสะพานชมัยมรุเชฐ ทำให้ทั้งสองฝ่ายต่างได้รับบาดเจ็บ ประมาณ 100 คน จนกระทั่งเวลา 18.00 น. กลุ่ม นปช. ได้ผลักดันทหารให้ถอยร่นจากสะพานมัฆวานรังสรรค์ ไปถึงแยกมิสกวัน ส่วนที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ในเวลาประมาณ 17.00 น. กลุ่ม นปช. จำนวนมาก พยายามผลักดันทหารให้ถอยไปยังสะพานเฉลิมวันชาติ โดยใช้เด็ก สตรี พระสงฆ์ และผู้ร่วมชุมนุมทั่วไปอยู่ในแถวแรก แต่เมื่อมีการผลักดันกันประมาณ 10 นาที จึงให้กลุ่มชายฉกรรจ์ขยับขึ้นมาด้านหน้าพร้อมด้วยอาวุธหรือสิ่งเทียมอาวุธ เช่น ไม้ปลายแหลม ระเบิดเพลิง ประทัดยักษ์ ก้อนอิฐ หนังสติ๊กที่ใช้นอตเป็นกระสุน เป็นต้น รวมทั้งใช้กำลังทำร้ายทหารจนได้รับบาดเจ็บ ต่อมา มีเสียงระเบิดดังขึ้นหลายครั้ง พร้อมทั้งมีการปาระเบิดควัน รวมทั้ง นปช. ก็ได้แย่งอาวุธปืนไปจากทหารด้วย

จนกระทั่งเวลาประมาณ 18.00 น. สถานการณ์มีความรุนแรงและตึงเครียด ทหารได้ทิ้งแก๊สน้ำตาลงมาจากเฮลิคอปเตอร์ใส่ผู้ชุมนุมเป็นระยะ และมีการปะทะหลายจุด เช่น บริเวณสี่แยกคอกวัว หน้าโรงเรียนสตรีวิทยา  19.00 น. สถานการณ์บริเวณสี่แยกคอกวัวรุนแรงขึ้น ทหารเจรจาขอพื้นที่คืนแต่ไม่เป็นผล พร้อมปรากฏชายชุดดำติดอาวุธปะปนอยู่กับกลุ่ม นปช. และซุ่มอยู่บนอาคารระแวกนั้น

19.30 น. ทหารที่ประจำอยู่บริเวณถนนตะนาว สี่แยกคอกวัว ถูกยิงด้วยลูกระเบิดเอ็ม 79 จำนวนหลายลูก ทำให้ทหารได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมากและถอนกำลังออกจากพื้นที่ ซึ่งขณะนั้น ผู้บังคับบัญชาได้เรียกผู้บังคับหน่วยเข้าร่วมประชุมบริเวณหน้าโรงเรียนสตรีวิทยา ระหว่างการประชุมปรากฏว่า มีแสงเลเซอร์ชี้เป้ามายังจุดที่ผู้บังคับบัญชากำลังประชุมกัน หลังจากนั้น มีระเบิด จำนวน 1 ลูก ตกลงบริเวณที่ประชุมนายทหาร ทำให้ทหารเสียชีวิต 2 ราย ได้แก่ พันเอก ร่มเกล้า ธุวธรรม อดีตรองเสนาธิการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ และ สิบโท ภูริวัฒน์ ประพันธ์ และรับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้สำหรับชายชุดดำได้ถูก เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัว เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2557 และล่าสุดเมื่อ31 ม.ค. 60 -  ศาลนัดอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อ.4022/2557 ศาลพิพากษาจำคุก 2 ชายชุดดำคนละ 10 ปีได้แก่  นายกิตติศักดิ์ หรือ อ้วน สุ่มศรี อายุ 47 ปี และนายปรีชา หรือ ไก่เตี้ย อยู่เย็น อายุ 27 ปี  ยกฟ้อง 3 รายหลักฐานไม่ชัดเจน แต่ให้ขังไว้ระหว่างอุทธรณ์ ได้แก่นายรณฤทธิ์ หรือ นะ สุริชา อายุ 36 ปี  ,นายชำนาญ หรือ เล็ก ภาคีฉาย อายุ 48 ปี และ นางปุนิกา หรือ อร ชูศรี อายุ 42 ปี