ลุยให้จบอย่าโลเล.."แก้วสรร "ตอบ4คำถามนายก!!ฉะกำจัด"ขบวนการเผด็จการแฝดสองหัว"ยึดครองสังคมไทย..เติบโตผงาดออกมาจากหีบเลือกตั้ง!

ภายหลังจากที่นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เชิญชวนพี่น้องประชาชนส่งความคิดเห็นจากคำถาม 4 ข้อไปยังศูนย์ดำรงธรรมทุกจังหวัดเพื่อนำมาพิจารณาแนวทางการทำงานต่อไป   

 

 ทั้งนี้คำถามจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา 4 ข้อมีดังนี้

1.เลือกตั้งครั้งต่อไปจะได้รัฐบาลที่มีธรรมาภิบาลหรือไม่ 

2.หากไม่ได้จะทำอย่างไร 

3.การเลือกตั้ง โดยไม่คำนึงถึงเรื่องอนาคตประเทศและเรื่องอื่นๆ นั้น ถูกต้องหรือไม่ 

4.ท่านคิดว่ากลุ่มนักการเมืองที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ควรมีโอกาสเข้ามาสู่การเลือกตั้งอีกหรือไม่

 

ด้านแฟนเพจ BLUESKY Channel ได้เผยแพร่บทความของ อ.แก้วสรร อติโพธิ แสดงความคิดเห็นตอบคำถามของพล.อ.ประยุทธ์ โดยข้อความระบุว่า..

หนึ่งคำตอบสำหรับสี่คำถามในสามปี คสช.
แก้วสรร อติโพธิ

​จดหมายเปิดผนึกต่อไปนี้ ผมเขียนถึง คสช.หนึ่งปีมาแล้ว เขียนแล้วก็เก็บไว้ในคอมพ์ฯเพราะไม่แน่ใจว่าภาพที่มองเห็นนั้นถูกหรือไม่ มาบัดนี้หนึ่งปีผ่านไป..ก็มาได้ฟังคำถามสี่ข้อของลุงตู่ จนทำให้ชัดเลยว่าทัศนะคติของท่านผู้นำเป็นตัวปัญหาจริงๆ
จึงขอส่งจดหมายนี้มาเป็นคำตอบสำหรับสี่คำถามนั้น ขออย่าผลักไสปฏิเสธไม่ฟังคำตอบนี้โดยอ้างว่าผมเป็นนักวิชาการเลย เพราะผมเป็นเพียงประชาชนเต็มขั้นที่พยายามใช้ความคิดบ้างเท่านั้นครับ

 

- จดหมายเปิดผนึก –
พฤษภาคม ๒๕๕๙
เรียน ท่าน คสช.
เรื่อง ขอให้ปรับทัศนะคติ

​ด้วยครบ ๒ ปีแล้วที่ท่านได้รัฐประหารยึดอำนาจสูงสุดไว้ในกำมือ แต่ท่านก็ยังไม่สามารถยึดกุมสถานการณ์ให้ผู้คนเชื่อมั่นในอนาคตได้เลย เหตุทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะท่านพยายามจะทำตัวเป็นกลาง อ้างว่าโผล่มาระงับการทะเลาะวิวาทในสังคม ทั้งๆที่ต้นตอความไม่สงบทั้งหมดเกิดมาจาก “ขบวนการเผด็จการแฝดสองหัว ” ที่พยายามเข้ายึดครองสังคมไทยมา กว่า๑๐ ปีจนฝังรากเป็นตัวตนแล้ว ภาพการเมืองไทยในทศวรรษที่ผ่านมาจึงเป็นสงครามแห่งการเข้ายึดครอง มีกระแสต่อต้านบานปลายถึงขั้นต้อง ยึดทำเนียบ ยึดกรุงเทพมาสองระลอกแล้ว แม้จนทุกวันนี้สงครามก็ยังไม่สิ้น เริ่มเปิดศึกกองโจรกับท่าน จนชูป้าย “โกรธผุดๆ”แล้ว ไม่ใช่หรือ?  
เพื่อปรับทัศนะคติที่ผิดพลาดข้างต้นของท่าน ผมจึงขอส่งจดหมายเปิดผนึกให้ท่านเข้าใจถึงสงครามยึดครองข้างต้น ดังนี้
ขบวนการเผด็จการแฝดสองหัว
​ท่านรู้และยอมรับหรือไม่ว่า ๑๐ ปีที่ผ่านมา..บรรดาผู้กระหายอำนาจทั้งนายทุนใหม่ที่ละโมบโลภมากและนักจัดตั้งมวลชน ได้รวมตัวจัดตั้ง “ขบวนการเผด็จการแฝด”ขึ้นจนเป็นตัวเป็นตนแล้ว เป็นแฝดตัวเดียวมีสองหัว หัวหนึ่งเป็นพรรคเผด็จการนายทุน หัวหนึ่งเป็นขบวนการมวลชนนักทำลายล้าง ทั้งสองหัวมีการจัดตั้งชัดเจน เริ่มจากชูธงแห่งความเกลียดชังต่อต้านอำมาตย์ ถือเสียงข้างมากจากหีบเลือกตั้งที่ได้มาเป็นอำนาจสูงสุด หว่านเพาะแกนนำฝังตัวลงไปในพื้นที่ มีสื่อในอาณัติพร้อมทุนชุบเลี้ยงอุดหนุนให้กระจายความคิดและกิจกรรมไปทั่ว ไม่เว้นทั้งสื่อมวลชนตัวหลักๆและโซเชียลมีเดีย
ด้วยโครงสร้างข้างต้น เผด็จการแฝดสามารถหลอมปัจจัยแห่งอิทธิพลในสังคมไทย ทั้งเงิน อำนาจรัฐ และความคลั่งไคล้ศรัทธา มาเป็นอำนาจทางการเมืองที่โตวันโตคืน เอาเงินซื้ออำนาจแล้วเอาอำนาจสร้างเงิน เอาอำนาจสร้างพวกแล้วเอาพวกสร้างอำนาจ เอาความจงเกลียดจงชังสร้างหมู่เหล่า เอาหมู่เหล่าสุมความจงเกลียดจงชัง ฯลฯ หมุนวนเกื้อหนุนกันอย่างนี้จนกลายเป็นขบวนการต่อสู้ที่ทรงพลัง ใช้พรรคการเมืองชนะเลือกตั้งได้ทุกครั้ง ใช้ขบวนการมวลชนยึดเมืองเผาเมืองขับไล่รัฐบาลได้ทุกรัฐบาล มีกองกำลังอาวุธจะฆ่าใครที่ไหนเมื่อไหร่ ไม่ว่าขุนทหารหรือชาวบ้านมือเปล่าลูกเด็กเล็กแดงก็ฆ่าได้ทั้งสิ้น ทำได้ทุกอย่างไม่ต่างไปจากแฝดเผด็จการสองหัวของนาซีเยอรมัน ที่เติบโตผงาดออกมาจากหีบเลือกตั้งเหมือนกัน  

“ขบวนการเผด็จการแฝดสองหัว” เป็นภัยตรงที่ตัวกระบวนการ มีความชั่วตรงที่เล่นการเมืองด้วยครรลองที่ผิดรัฐธรรมนูญพาบ้านเมืองแตกแยกล่มสลายลงไปทุกวัน แม้ประชาชนได้ใช้สิทธิพิทักษ์รัฐธรรมนูญตามรัฐธรรมนูญ’๔๐ และ’๕๐ เข้าต่อต้านจนบาดเจ็บล้มตายมาหลายชีวิตแล้ว ก็ยังไม่ลุล่วง ขบวนการนี้ไม่อาจทำลายล้างได้ด้วยการรัฐประหาร แต่งเพลง แล้วออกทีวี ฝันฝอยฟุ้งเรื่องปฏิรูปให้ฟังทุกอาทิตย์ หากแต่จะต้องเปิดโปงต่อสู้ทางความคิดและข้อมูลให้ผู้คนและนานาชาติเห็นภัยร้ายแรงก่อนเป็นข้อแรก ซึ่งท่านก็พลาดโอกาสไปครั้งหนึ่งตั้งแต่คราวขอนแก่นโมเดลโน่นแล้ว งานส่วนที่สองคือการจัดการทางกฎหมายให้ถึงรากโคน “กฎหมายป้องกันการกระทำอันเป็นการแสวงหาอำนาจโดยผิดครรลองรัฐธรรมนูญ” คือเครื่องมือที่ต้องใช้ กฎหมายนี้จะชี้บ่งถือขบวนการเผด็จการแฝดให้ตกเป็นเป้าที่ต้องจัดการก่อน แล้วให้อำนาจจัดการได้อย่างครบถ้วน ทั้งสื่อที่เป็นเครื่องมือ ทั้งนายทุนที่สนับสนุน ทั้งแกนนำคุมทิศทางขบวนการ ทั้งสายจัดตั้งขยายสมาชิก ทั้งเจ้าของสถานที่ที่ให้พักพิง ทั้งเจ้าหน้าที่ที่ฝักใฝ่ใช้อำนาจหน้าที่สนับสนุนฯ

อำนาจรัฐประหารในมือของท่านต้องจัดการตรากฎหมายนี้ออกมาให้ได้ เอาออกมาจัดการกับตัวขบวนการ ให้เหมือนกับจัดการอั้งยี่หรือซ่องโจรหรือขบวนการคอมมิวนิสต์เลยทีเดียว หากทำได้เมื่อใดท่านก็ไม่ต้องหลงไปยุ่งกับความผิดอาญาเฉพาะอย่างเฉพาะบุคคล เช่น ๑๑๒ หรือ ๑๑๖ หรือกฎหมายคอมพิวเตอร์เลยก็ได้ ทัศนะคติใครเป็นยังไงก็ไม่ต้องไปเสียเวลาปรับ โทษอาญาก็ใช้เท่าที่จำเป็น เสริมด้วยอำนาจสั่งการทางปกครองจนครบถ้วน
ทุกวันนี้ก็ชัดเจนว่า ท่านมีข้อมูลแผนผังความเชื่อมโยงของผู้คนในขบวนการเหล่านี้อยู่มากแล้ว เห็นจับกุมใครเมื่อใดก็มักจะโชว์แผนผังเหล่านี้อยู่บ่อยครั้ง ขาดแต่กฎหมายเอาผิดตรงที่ตัวขบวนการเท่านั้นเอง พอกันทีกับแนวทางปรองดองที่ไม่รู้จักแยกแยะถูกผิด เห็นเจ้าของบ้านสู้กับโจรก็โผล่มาถือปืนแล้วบอกว่าอย่าทะเลาะกัน ถึงวันนี้ท่านได้อดทนให้โอกาสพวกโจรมาพอแล้ว บัดนี้ชอบธรรมแล้วสมควรแล้ว.....ที่ท่านจะลงมือสลายขบวนการนี้อย่างเฉียบขาดตรงตัว เอาให้เข้าใจ..ให้ชัดเจนให้ได้ว่า นี่ไม่ใช่การลุแก่อำนาจของเผด็จการทหาร หากแต่เป็น การใช้สิทธิพิทักษ์รัฐธรรมนูญแทนปวงชนชาวไทย ขับไล่ความคิดความเคลื่อนไหวของเผด็จการแฝดสองหัวที่แฝงฝังอยู่ออกไป เพื่อเปิดโอกาสให้เมืองไทยกลับมาใช้ระบอบประชาธิปไตยต่อไปได้โดยสงบอีกครั้งหนึ่ง  
กฎหมายนี้ผมเสนอให้ใช้ไปตามอายุของท่าน อายุอำนาจของท่านไม่ต้องยาว ไม่ต้องยืด ไม่ต้องแฝงในนามของคำว่าเปลี่ยนผ่าน ไม่ต้องอ้างการปฏิรูป ๓๔ วาระ, ๔ แผนหลัก,๕ ขั้นตอนรวม ๒๐ ปี! อะไรต่อมิอะไรอีกต่อไป..ทั้งหมดนี้เลิกได้แล้ว ส่วนท่านจะใช้เวลาสั้นสักเท่าใดก็ให้อยู่ในกรอบงานปฏิรูปทางการเมือง คือขุดรากทำลายขบวนการเผด็จการแฝด และอุดรูรั่วในระบบของระบอบผู้แทนไทยเท่านั้น งานปฏิรูปอื่นใดนั้น ก็ให้คิดและทำให้สำเร็จเท่าที่มีเวลาและความพร้อม แล้วรวมภารกิจทั้งหมดพร้อมแผนงานแผนเวลา ประกาศออกมาให้ชัดเจน  
แนวทางที่เรียนเสนอมานี้จะเป็นไปได้และชอบธรรมได้ ก็ต่อเมื่อท่านต้องยอมรับเสียก่อนว่า ประเทศไทยนี้ต้องอยู่และเดินด้วยประชาธิปไตย ไม่ใช่ด้วยโปลิตบูโรทั่งที่ไหน ท่านเข้ามาเพียงเพื่อขับไล่เผด็จการที่ใส่เสื้อคลุมประชาธิปไตยออกไปจากสังคมการเมืองไทยเท่านั้น คำประกาศนี้ นอกจากจะมุ่งโดดเดี่ยวเผด็จการแฝดสองหัวออกจากแนวร่วมประชาธิปไตยอื่นๆแล้ว ก็ยังจะช่วยให้ท่านอยู่ในจุดยืนที่ชอบธรรมและมั่นคงได้อีกด้วย
ประกาศแล้ว..กำหนดชัยชนะให้แม่นยำชัดเจนเป็นจริงได้แล้ว..ก็ลุยให้จบอย่าโลเลส่งต่อบ้านเมืองให้ประชาชนรับผิดชอบดูแลตนเองด้วยรัฐธรรมนูญฉบับที่ร่างแบบธรรมดาๆต่อไปได้
เมืองไทยทุกวันนี้..เปรียบเหมือนเครื่องบินที่กำลังฝ่ามรสุม ถ้ายังฝืนบินไป..เปิดเรดาร์คลำทางปรับโร๊ดแม๊พไป..ก็ยิ่งจะลำบากเข้าทุกที จำต้องหาทางลงสนามบินให้จงได้ จดหมายนี้ คือสัญญาณนำทางจากภาคพื้นดินที่ส่งมายังท่าน คสช.ผู้เป็นกัปตัน  
ใจถึงอีกนิด..พึ่งสมองมากขึ้นอีกหน่อย..วางแผนสักพัก ก็ร่อนลงมาได้เลย

ด้วยความหวังที่ยังพอมีและยังรู้สึกขอบคุณที่เสียสละ
นายแก้วสรร อติโพธิ

 

ที่มา BLUESKY Channel