ด่วน!!!อัยการสูงสุด”ให้ฟ้อง“วิจิตรภัณฑ์ก่อสร้างพวกอีก7”ฐานฟอกเงินโยงนักการเมืองปล้นปท.# ค่าโง่คลองด่าน 9 พันล้าน

จากกรณีสำนักงานอัยการสูงสุดได้ส่งหนังสือเรื่องชี้ขาดความเห็นแย้ง ให้กับอธิบดีบกรมสอบสวนคดีพิเศษ เมื่อวันที่14 กรฏกาคม2560 ที่ผ่านมา ตามหนังสือที่อ้างถึงส่งสำนวนคดีอาญา ส.1 เลขรับที่ 57/2559 ของสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ1 คดีบริษัทวิจิตรภัณฑ์ก่อสร้างจำกัดกับพวกรวม8คน ผู้ต้องหาฐานร่วมกันฟอกเงินพร้อมความเห็นแย้งคำสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาทั้งแปด ไปยังอัยการสูงสุดเพื่อพิจารณาชี้ขาดนั้น

 

อัยการสูงสุดพิจารณาแล้วชี้ขาดให้ฟ้องบริษัทวิจิตรภัณฑ์ก่อสร้างจำกัด ผู้ต้องหาที่1 บริษัท ประยูรวิศว์ จำกัด ผู้ต้องหาที่2 บริษัท สี่แสงการโยธา (1979) จำกัด  ผู้ต้องหาที่3  บริษัท กรุงธนเอนยิเนียร์ จำกัด ผู้ต้องหาที่4  บริษัท เกตเวย์ ดิเวลลอปเมนท์ จำกัด ผู้ต้องหาที่5 บริษัทสมุทรปราการ ออพเปอร์เรทติ้ง จำกัด ผู้ต้องหาที่6 นายสิโรจน์ วงศ์สิโรจน์กุล จำกัด ผู้ต้องหาที่7 และบริษัทเอ็มดีเอ็กซ์ จำกัด(มหาชน) ผู้ต้องหาที่8 ฐานร่วมกันฟอกเงิน ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน  พ.ศ.2542 มาตรา 3 (5),5(3),60,61 พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ฉบับที่5)พ.ศ.2558 มาตรา10 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ทั้งนี้ได้ส่งสำนวนคดีอาญาดังกล่าวไปให้พนักงานอัยการเพื่อดำเนินการต่อไปแล้ว

       ก่อนหน้านี้นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า กรมควบคุมมลพิษ ได้มอบหมายให้พนักงานอัยการยื่นคำร้องขอให้ศาลปกครองพิจารณาพิพากษาคดีหรือมีคำชี้ขาดคดีปกครองกรณีคลองด่านใหม่ โดยอาศัยคำวินิจฉัยของศาลอาญาที่ตัดสินลงโทษจำคุก 20 ปี ข้าราชการระดับสูงที่เกี่ยวข้อง 3 ราย เมื่อปี 2558 คือนายประกิต กิระวานิช อดีตอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ นายศิริธัญ ไพโรจน์บริบูรณ์ อดีตรองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ นางยุวรี อินนา อดีตผอ.กองจัดการคุณภาพน้ำ ขณะดำรงตำแหน่งนักวิชาการสิ่งแวดล้อม 7 ประกอบกับข้อมูลการพิจารณาคดีของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และคณะกรรมป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่พิจารณาว่าสัญญาไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองกลาง

 

       ทั้งนี้หากศาลปกครองพิจารณาออกมาเป็นบวกต่อ คพ. ก็จะทำให้ไม่ต้องจ่ายเงินค่าชดใช้ความเสียหาย 9,000 ล้านบาทให้กับเอกชน โดยที่ผ่านมากรมได้จ่ายค่าชดใช้ความเสียหายงวดแรกไปแล้ว เหลืออีก 2 งวดที่ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ป.ป.ง.)อายัดไว้ยังไม่ต้องจ่าย ทั้งนี้ยังจะสามารถฟ้องร้องเรียกเงินค่าชดใช้ความเสียหายงวดแรกที่จ่ายไปแล้วคืนได้ด้วย นอกจากนั้นยังสามารถนำผลการพิจารณาคดีไปเรียกเงินค่าก่อสร้างคืนได้ทั้งหมด 1.9 หมื่นล้านบาท รวมทั้งให้ตัวโครงการคลองด่านกลับไปอยู่ในความรับผิดชอบของเอกชนซึ่งต้องรับผิดชอบความเสียหายทั้งหมด เพราะขณะนี้โครงการอยู่ในความรับผิดชอบของกรมควบคุมมลพิษ ซึ่งต้องมีค่าใช้จ่ายในการดูแลถึงปีละ 6.6 ล้านบาท

       อย่างไรก็ตามศาลปกครองสูงสุดเคยตัดสินให้กรมควบคุมมลพิษ จ่ายค่าก่อสร้างโรงบำบัดน้ำเสียคลองด่าน จังหวัดสมุทรปราการ ให้บริษัทเอกชนรวมเกือบ 1 หมื่นล้านบาท ภายในเวลา 90 วัน  ตามที่ บริษัท วิจิตรภัณฑ์ก่อสร้างกับพวก 6 คน ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองกลาง ขอให้ศาลบังคับตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ ที่เคยชี้ขาดให้กรมควบคุมมลพิษ  ชำระเงินค่าจ้าง ค่าเสียหาย รวมดอกเบี้ยตามข้อเรียกร้อง เป็นเงินกว่า 4,900 ล้านบาทและ 31 ล้านเหรียญสหรัฐให้ผู้ร้อง พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2546 เป็นต้นไปซึ่งโครงการดังกล่าวออกแบบรวมก่อสร้างระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสียเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดสมุทรปราการ  เป็นโครงการระบบบำบัดน้ำเสียรวมแห่งแรกของไทย ที่จะมีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ มีมูลค่าก่อสร้างกว่า 23,700 ล้านบาท ตั้งอยู่พื้นที่ตำบลคลองด่าน อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ