- 07 ก.ย. 2560
ติดตามรายละเอียดที่นี่ http://www.tnews.co.th
จากกรณี สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ชื่อว่า คุณ ก้านตองน้องครีม ได้มีการตั้งกระทู้ บ้านนกพิราบกับคนเก็บของเก่าขาย สกปรกและส่งกลิ่นเหม็นมาก มีหน่วยงานไหนดูแลตรงนี้ได้บ้างคะ โดยในเนื้อหากระทู้นั้น ได้มีการโพสต์ภาพบ้านหลังหนึ่งที่มีแต่เก็บซากขยะไว้ที่บ้าน รวมถึงมีฝูงนกพิราบมาอยู่อาศัยจำนวนมาก สร้างความเดือดร้อนแก่ข้างบ้านในเรื่องของกลิ่น อีกทั้งถนนยังแคบ เวลาเดินผ่านทำให้เลี่ยงลำบาก จนกระทั่งสำนักงานเขตเข้าไปดูแล
ล่าสุด ทีมข่าวอัมรินทร์ ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้าน ว่าบ้านของนายวีระศักดิ์ สุนทรจามร หรือ ลุงปุ๋ย ภายในซอยอุดมสุข ถนนสุทธิสารวินิจฉัย สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้อีกครั้ง โดย นายเอ(นามสมมติ) ชาวบ้านที่ร้องเรียน เปิดเผยว่า รู้สึกดีใจ หลังจากที่มีหน่วยงานเข้ามาทำความสะอาดบ้านนายวีระศักดิ์ เมื่อเวลาผ่านไป บ้านของนายวีระสักดิ์ก็สะอาดขึ้น แต่ก็ยังคงเลี้ยงนกเหมือนเดิม พบว่าจำนวนอาจเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่า ซึ่งนายวีระศักดิ์ได้สร้างชั้นลอย 2 ชั้น เพื่อนำอาหารไปวางไว้ให้นก กลายเป็นการเพิ่มพื้นที่เข้าไปอีก
นายหนึ่งมองว่า ประเด็นหลักที่สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับชาวบ้าน คือเรื่องการเลี้ยงนกพิราบ เพราะอาจเป็นพาหะนำเชื้อโรค ซึ่งเป็นอันตรายต่อเพื่อนบ้าน นายหนึ่งบอกด้วยว่า คนอยู่ร่วมกันต้องไม่เห็นแก่ตัว ประเทศที่พัฒนาแล้วจะต้องไม่มีแบบนี้ อยากให้หน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบเข้ามาแก้ไขโดยด่วน
จากนั้น เมื่อทีมข่าวอัมรินทร์เดินทางไปยังบ้านของลุงปุ๋ย พบว่าบริเวณหน้าบ้านยังคงมีนกพิราบมากกว่า 50 ตัว กำลังกินอาหารที่ใส่ถาดวางไว้บริเวณชั้นที่ต่อเติม ด้วยการนำแผ่นไม้ และแผ่นสังกะสีวางเป็นชั้นๆ นอกจากนี้ หน้าบ้านยังคงส่งกลิ่นเหม็นคล้ายข้าวบูด และมีเศษอาหารที่ตกหล่นลงบนพื้นส่งกลิ่นเหม็น ภายในบ้านยังคงรก มีของวางทั่วบริเวณบ้านแต่นับว่าลดน้อยลง หลังจากได้ทำความสะอาดไปเมื่อ 2 เดือนก่อน โดยยังคงมีกลิ่นเหม็นชื้น และยังพบแมลงสาบอยู่ตามซอกกองสิ่งของที่ถูกวางทับถมอยู่พื้นบ้าน และนายวีระศักดิ์ยังคงเลี้ยงแมวอยู่มากกว่า 10 ตัว
โดย ลุงปุ๋ย เล่าว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานครเข้ามาทำความสะอาดพื้นที่ บ้านก็สะอาดขึ้น โดยได้นำสิ่งของไปทิ้งมากกว่าครึ่งหนึ่ง ซึ่งตนมองว่าดีเพราะทำให้แมวได้มีพื้นที่เล่นได้ แต่ยอมรับว่าปริมาณนกพิราบนั้นค่อนข้างเยอะ แต่ไม่ได้เพิ่มขึ้นกว่าเดิม อีกทั้งนกพวกนี้จะไม่นอนที่บ้านตน แต่จะไปอยู่ตามซอกตึกภายในซอย จะบินมาเฉพาะตอนให้อาหาร
ลุงปุ๋ย เล่าอีกว่า ทุกวันนี้ยังคงให้อาหารนกพิราบเหมือนเดิม เพราะกฎหมายไม่ได้ห้าม ถึงแม้ทางสำนักงานเขตจะขอร้องให้เลิก แต่ยืนยันว่าตนนั้นทำตามจารีตประเพณี การทำบุญทำทานมีมาก่อนกฎหมาย ส่วนเรื่องกลิ่นเหม็นนั้น หากชาวบ้านไปฟ้องร้องตนในกรณีนี้ ตนก็ยินดี แต่คิดว่ามันต้องมีหน่วยวัด หรือเจ้าหน้าที่มาตรวจว่ากลิ่นเหม็นเกินหลักเกณฑ์ไหม ยืนยันว่าจะเลี้ยงต่อไป เพราะรู้สึกผูกพันจากการให้อาหารมานาน 20-30 ปี หากนกมันไม่หิว มันก็คงไม่มา ยอมรับว่ามีพื้นที่ให้อาหารนกมากขึ้น แต่ปริมาณอาหารก็ยังคงเท่าเดิม
ส่วนเรื่องความสะอาด ตนพยายามทำความสะอาดมากขึ้น ถึงแม้ว่าวันหนึ่งตนจะต้องติดคุกเพราะสร้างความรำคาญให้กับชาวบ้านก็ยอม เพราะไม่มีเงินจ่ายค่าปรับ เมื่อออกมาจากคุก ก็ยังยืนยันที่จะเลี้ยงนกพิราบเช่นเดิม คิดเสียว่าได้ไปพักตากอากาศที่ฮ่องกง (ห้องขัง) อย่างไรก็ตาม ลุงปุ๋ยยังย้ำอีกว่า การที่ตนทำแบบนี้เป็นการลดเศษอาหารให้กับทางการ ช่วยลดภาระการเก็บเศษอาหาร.
ชมคลิปรายการที่นี่