- 05 ต.ค. 2560
ติดตามรายละเอียด : http://www.tnews.co.th
ถือเป็นเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น แบบสดๆ ร้อนๆ หลังจากที่ธนาคารโลก ได้คาดหมายเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกในปีนี้ ซึ่งพบว่าเศรษฐกิจไทยขยายตัวต่ำที่สุดในอาเซียน และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอัตราการเติบโตของทั้งกลุ่มอาเซียน นาน 3 ปี ติดกัน นับจากปีนี้ ก็กลายเป็นเรื่องราวที่ถูกนำมาวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง ซึ่งคนบางกลุ่มก็มองเรื่องราวเกี่ยวกับประเด็นนี้อย่างมีข้อครหา ว่าเหตุใดเศรษฐกิจไทยจึงได้ตกต่ำ และรั้งท้ายในอาเซียน ซ้ำยังพูดจาเหยียดการทำงานของรัฐ เหยียดชาติบ้านเมืองตัวเอง แต่หากลองมองตรงกันข้าม ในท่ามกลางเรื่องราวแย่ๆ ประเทศไทยเราก็ยังมีความโดดเด่นและได้รับรางวัลการันตีระดับโลก ที่สะท้อนให้เห็นว่าชาติไทยยังมีดี ไม่ได้ลดถอยระดับลงแต่อย่างใด
ล่าสุดเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว ด้านนักแต่งเพลงชื่อดังอย่าง "ดี้" นิติพงษ์ ห่อนาค ก็ได้แสดงความคิดเห็นผ่านทางเฟซบุ๊ก Nitipong Honark ระบุว่า "ช่วงนี้นะ...มีข่าวสารซ้ำซากที่พยายามจะทำให้รู้สึกว่า เราชาวไทยช่างเดือดร้อนเหลือเกิน... โดยเฉพาะอย่างยิ่ง...ในช่วงเดือนตุลาคมนี้ แม่ประไพ..
บางข่าวก็โจมตีเรื่องแว็ท เก้าเปอร์เซนต์ในปีหน้า ซึ่งก็พูดกันมาทุกปี... บางข่าวก็เอาข่าวฝรั่งจัดอันดับห่าเหว เมื่อไหร่ฝรั่งจัดอันดับเมืองไทยต่ำต้อย สื่อหลักบางสื่อ หรือ เพจบางเพจจะรีบเอามาแพร่ให้คนไทยได้รู้ว่า ประเทศไทยมันต่ำต้อยเพียงใด... แต่ในมุมดี ๆ มันไม่เคยเผยแพร่...
มันบอกว่า ฝรั่งว่า ธนาคารโลก บอกว่า เมืองไทยเติบโตเศรษฐกิจต่ำสุดในอาเซี่ยน แพ้กัมพูชา แพ้ลาว เวียตนาม...วัดด้วยเปอร์เซนต์การเติบโต...
การใช้เปอร์เซนต์วัดการเติบโตทางเศรษฐกิจ มันหลอกตา...หลอกคนโง่ได้... คนหนึ่ง มีเงินสิบบาท...หาเงินเพิ่มได้ในปีหน้าเป็นยี่สิบบาท... แม่งกลายเป็นคนเติบโตทางเศรษฐกิจ ร้อยเปอร์เซนต์หรูมาก อีกคนหนึ่ง มีเงินล้านบาท หาเงินเพิ่มได้เก้าแสนบาทในปีต่อไป...กลายเป็นคนติดลบการเติบโต ตกต่ำลงสิบเปอร์เซนต์...ทั้งๆ ที่ ตัวเลขการเงิน ห่างกันเยอะ.... แล้วก็เอามาเย้ยบ้านตัวเอง ระบบเศรษฐศาสตร์...วัดด้วยเปอร์เซนเตจ อย่างเดียวไม่ได้...ต้องดูเม็ดเงินด้วย.. มันมีทั้งมาร์จิ้น และ วอลลุ่ม...ภาษายากไปไหมอ่ะ
มาร์จิ้น คือ ต้องการกำไรต่อชิ้น ต้นทุนสิบบาท แต่อยากขายห้าสิบบาท...ได้มาร์จิ้น สี่สิบบาท....แต่จะขายวอลลุ่มได้เยอะหรือเปล่า ไม่รู้่..
วอลลุ่ม คือ ต้องการคนซื้อมากๆ ต้นทุนสิบบาท ขายแค่ยี่สิบบาทก็ได้...คนจะได้อยากซื้อเยอะๆ ได้กำไรมาร์จิ้น สิบบาท แต่วอลลุ่มเยอะ คือคนซื้อมาก
เป็นการตลาดแบบธรรมชาตินี่เอง....ไม่ได้ยากเย็นอะไร เช่น ถ้ามั่นใจว่า มีคนซื้อแน่ ของเราดี ไม่ต้องขายเยอะก็ได้ แต่มาร์จิ้นบวกเยอะมาก เช่น พวกของแบรนด์เนมก็รวยได้ กับอีกแบบ คือของที่ไม่ต้องการมาร์จิ้น(กำไร) ต่อชิ้นมาก....แต่สามารถเอาไปขายคนจำนวนมาก เช่น ไปขายเมืองจีนได้....กำไรต่อชิ้นนิดเดียว แต่ขายคนได้เป็นพันล้าน...รวยกว่า...
ข่าวสารทางด้านเศรษฐกิจ มักจะมีคนชอบเอามาเป็นประเด็นโจมตี โดยชี้นำไปทางด้านที่ตัวเองต้องการ..ให้ชื่นชมรัฐ หรือ ให้เหยียดหยามรัฐ..
เป็นงี้ทุกประเทศแหละ...แล้วแต่ผลประโยชน์ใคร สงครามเศรษฐกิจระหว่างชาติ อย่าได้เชื่อใครเลย มันแซะกันทั้งนั้น...
ผลประโยชน์จ้ะ แม่ประไพ... ไม่อยากจะบอ ว่าสหรัฐ ขาดดุลเมืองไทยเราเท่าไหร่.. มากจนไม่น่าเชื่อ... เมืองไทยเราเป็นเป้าหมายที่น่าหมั่นไส้อิจฉามากสำหรับฝรั่ง ทั้งสหรัฐ และอียู และพวกที่เพิ่งหนีจากอียู มีข้อมูลมากมายที่เพื่อนส่งมาให้ความรู้ว่า... เมืองไทยเรานี่...มันเจ๋งโคตร เป็นข้อเท็จจริงด้วย ไม่ใช่พล่อยๆ แบบพวกที่ชอบเหยียดหยามบ้านตัวเอง...ไว้จะเล่าให้ฟังอีกนะ แม่ประไพ แม่พลอย..หลวงประดิดประดอย... ดูชาร์ตนี้ไว้เล่นๆ ละกันนะ... คนในอยากออก คนนอกอยากเข้า...
ต่อมาได้มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นในโพสต์ดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ว่าจากประสบการณ์ที่พูดคุยกับคนต่างชาติ ใครๆ ก็หลงรักเสน่ห์เมืองไทย และประทับใจกับสถานที่ท่องเที่ยว เรียกว่ามาแล้วก็ต้องมาซ้ำอีก และยังมีบางคอมเม้นต์บอกไว้แบบนี้ด้วยว่า "แจ้งพ่อทิดเอิบผัวแม่ประไพ ฉันไปเที่ยวญี่ปุ่นมา...ฉันชื่นชมญี่ปุ่นเสียมากมาย แต่ฉันก็ปากหนักนักทำไมไม่บอกว่า
ถึงอย่างไรฉันก็รักประเทศไทยไปด้วยก็ไม่รู้ เชื่อไหมพอพวกญี่ปุ่นเขารู้ว่าฉันมาจากเมืองไทยไปกินปลาดิบที่บ้านเขา เขากลับพูดว่า “ต้มยำกุ้ง ผัดไทย โออิชิ“ พร้อมยกนิ้วโป้งให้ ฉันได้ยินแล้วถึงกับพูดไม่ออก คนญี่ปุ่นเขารักบ้านเมืองเขามาก ไม่เคยกล่าวว่าประเทศของเขาเลย แต่บ้านเราชอบเอาแต่ข่าวไม่ดีต่อว่าบ้านตัวเอง แปลกจริงๆ นะทิดเอิบ... คนหมู่บ้านเรา ไม่ค่อยค้นหาความจริง สื่อเลือกข้างจ้างได้ละเชื่อกันได้เป็นวักเป็นเวร อย่างสื่อฝรั่งบีบีซีนั่นก็ลงข่าวมั่วกี่ครั้งแล้ว ก็ยังงมงายเชื่อมันอยู่อีก สื่อไทยบางสำนักนั่นก็ตัวดี ชอบตัดตอนข่าวเอาบางส่วนมาพาดหัว เรียกเสียงด่าหัวหน้าหมู่บ้าน แล้วก็ได้ผลทุกครั้ง ฉันละเหนื่อยใจจริงๆ พ่อทิดเอิบเอ้ย...หรือเป็นเพราะว่าคนในหมู่บ้านเรา อ่านหนังสือกันน้อยเกินไปก็ไม่รู้นะ"
ขอบคุณเฟซบุ๊ก : Nitipong Honark