- 13 ม.ค. 2561
ติดตามรายละเอียด FB: DEEPS NEWS
โดยนักวิจัยนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ สนับสุนโดยสำนักงานกองทุนสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า ประเทศไทยถูกจัดลำดับที่ มีเวลาเรียนที่เยอะที่สุดในโลก เมื่อรองมาจากประเทศญี่ปุ่น เหตุที่เรียนหนักจึงส่งผลทำให้มี เด็กไทย ต้องออกกลางคันจำนวนปีละ 900.000 คน ต่อปีและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี และมีปัญหา ตั้งครรภ์ ก่อนวัยอันควรจำนวน 1.500.000 คน ใน 2 ปีที่ผ่านมา และยังมีเยาวชนติดโรคเอดส จำนวน 1.358.000 คน ใน 3 ปี และจะเพิ่มขึ้นทุกปี และมีค่าเรียนที่แพง จนมีเด็กไทยหลายคน เลือกทำอาชีพที่ผิดกฎหมายกันมากขึ้น จำนวน 386.250 คน ต่อปี เด็กที่ประกอบอาชีพที่ผิดกฎหมาย เช่น ข่ายตัว ค้าขายเสพติด เป็นต้น สาเหตุที่เด็กทำผิด เฉพาะ ต้องการหาเงินเป็นค่าเรียน และ การเรียนพบว่า เด็กไทยมีเวลาเรียนวันละ 8-10 คาบ ต่อวัน แต่มีเด็กจำนวนไม่น้อยไม่อยากเรียนหนังสือเพราะเบื่อหน่วย และที่น่าเป็นห่วงที่สุด เด็กจำนวน ร้อยละ 87 มีเวลา พูดคุยกับ พ่อแม่ วันละ 10 นาที จึงทำให้เด็กไม่มีเวลาได้บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ
จึงทำให้ พ่อแม่ไม่รู้ชีวิตความเป็นอยู่ในโงเรียนของเด็กเลย หรือ น้อยมาก และเมื่อพบอีกว่า เนื้อหารายวิชาต่างๆ มีแต่เนื้อหาที่มีความรู้ แต่ไม่มีศิลธรรม จึงทำให้เด็กกลายเป็นคน ขาดศิลธรรม ไม่รู้จัก เสียสละ ไม่รู้จัก ทำเพื่อส่วนรวมเพื่อผู้อื่น และกลายเป็นคนเห็นแก่ตัวในที่สุด เมื่อเด็กจบไป เด็กอาจใช้ความรู้ที่มีมาก่อน นำไปใช้ในทางที่ผิดศิลธรรม ในที่สุดได้เช่นกัน
และมี เด็กไทย ตั้งแต่ 7 -20 ปี ที่ต้องฆ่าตัวตาย ด้วยผลการเรียนตกตํ่า หรือ สอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ ที่น่าตกใจมีจำนวนที่เด็กไทย ที่ฆ่าตัวตาย ปีละ 300.000 คนต่อ อีกปัญหาหนึ่ง คือ จำนวนนักเรียนในห้องเรียนมากเกินไป ตามมาตรฐานการศึกษาจำนวนนักเรียนต่อห้องไม่ควรเกิน 30 คน
"คำพูดที่สรุปภาพของการศึกษาไทยได้อย่างเจ็บแสบว่าเป็นแบบ "ลู่วิ่งเดี่ยวปลายตีบ" เด็กทั้งประเทศเหมือนกำลังวิ่งอยู่บนลู่วิ่งที่แข่งขันด้านความเป็นเลิศทาง วิชาการ แต่ยิ่งวิ่ง ปลายลู่ยิ่งตีบ เด็กส่วนใหญ่พ่ายแพ้ ต้องหล่นออกจากลู่ มีน้อยคนเท่านั้นที่วิ่งชนะ สภาพเช่นนี้บั่นทอนคุณภาพชีวิตของเด็กๆ ทุกคน ถ้าวันนี้ถ้าระบบการศึกษาไทยยังไม่เปลี่ยน ก็เดินหน้าต่อไปไม่ได้"