"อดุลย์" จ่อขยายเครือข่ายแก้ค้ามนุษย์ ยันต้องปรับเพื่อให้การดำเนินการเกิดประสิทธิภาพ

 

วันนี้ (15 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.แรงงาน ให้การต้อนรับ นาง เดรียเดร บอยด์ ผู้ประสานงานสหประชาชาติ (UNRC) และผู้แทนโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) เข้าเยี่ยมคารวะและหารือข้อราชการด้านแรงงาน โดยพล.ต.อ. อดุลย์ กล่าวว่า ได้มีการพูดคุยในหลายเรื่อง เช่น การปรับปรุงพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 ซึ่งจะต้องมีการมองให้ครบถ้วนทุกมิติ อาทิ การกำหนดโซนนิ่งของแรงงานต่างด้าว ที่ตนเห็นว่าไม่ควรจะมีอีกต่อไป เพราะเป็นเรื่องของการจำกัดสิทธิ รวมถึงมาตรการลงโทษผู้ประกอบการที่ไม่ทำตามกฎหมาย และในส่วนของลูกจ้างก็ต้องมีการกำหนดกฎหมายให้สอดคล้องเหมาะสม สำหรับสวัสดิการและการให้ความคุ้มครองแก่แรงงานโยกย้ายถิ่นฐานทั้งชาย หญิง และเด็กที่ตามมาด้วยนั้นจะดูแลอย่างไรให้ครอบคลุมทุกด้าน

 

 

“การหารือดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ในการกระชับความร่วมมือระหว่างกระทรวงแรงงานและสหประชาชาติ ทั้งยังเป็นโอกาสอันดีที่กระทรวงแรงงานจะได้สร้างความเข้าใจถึงการดำเนินงานที่ผ่านมาเพื่อพัฒนาความก้าวหน้าในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ ปัญหาแรงงานบังคับ ตลอดจนการขยายสิทธิคุ้มครองและดูแลแรงงานต่างด้าวด้วย” รมว.แรงงานกล่าว

 

พล.ต.อ.อดุลย์ ยังกล่าวถึง กรณีนายจักร บุญ-หลง เอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา เข้าพบเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ว่า มีการพูดคุยถึงการจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงการคุ้มครองดูแลแรงงานให้ได้รับสิทธิตามกฎหมาย ซึ่งกระทรวงแรงงานจะหารือกับรมว.แรงงานประเทศเมียนมาต่อไป ทั้งนี้จะดำเนินการพิสูจน์สัญชาติเสร็จภายในวันที่ 30 มิ.ย. ทั้งนี้ประเทศต้นทางและประเทศไทยจะต้องมีการปรับปรุงเพื่อให้การดำเนินการที่เหลือเกิดประสิทธิภาพ ลดขั้นตอน และขจัดการรีดไถจากนายหน้าให้ได้ เพื่อให้แรงงานต่างด้าวเมียนมาเข้าสู่ระบบตามกฎหมายอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ สำหรับการปรับปรุงพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 คาดว่าจะนำกลับเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาในเร็วๆ นี้ โดยอยู่ระหว่างการพิจารณาแก้ไขปรับปรุงของคณะกรรมการกฤษฎีกา