แหกหมอไม่รับเย็บ"พิชัย-ผู้อวดรู้เป็นกูรูเศรษฐกิจ"โคตรน่าอาย หลังบอก"แจ็คหม่า"เมินไทย สุดท้ายเป็น"เด็กเลี้ยงแกะ"ไม่นับตอนเป็นรมว.ผลงานสุดห่วย

หน้าแหกหมอไม่รับเย็บ?! "พิชัย นริทพันธุ์ แห่งพรรคเพื่อไทย ผู้อุปโลกน์ตนเป็นกูรูเศรษฐกิจแบบข้าเก่งคนเดียวในประเทศนี้" โคตรน่าอายอย่างมาก หลังเคยออกมาบอกว่า "แจ็ค หม่า" เมินไทย หนีไปตั้งศูนย์กระจายสินค้าในมาเลเซียแทนเมื่อต้นเดือนเมษายน 2560 หรือเมื่อกว่า 1 ปีก่อน สุดท้ายเป็น "ผู้ใหญ่เลี้ยงแกะ" ไม่นับตอนเป็น รมว.พลังงานยุค "หญิงปู" ผลงานสุดห่วยมีแค่แจก "บัตรเครดิตพลังงาน" ให้กับพวกแท็กซี่...ซึ่งถือเป็นฐานเสียงของพรรคตนเองในเมืองหลวง....แล้วเจ๊งมาจนวันนี้  เหตุเพราะแท็กซี่ที่เป็นพวกเดียวกันนั้น...หักหลังพิชัย....รูดบัตรเครดิตพลังงานแล้วเบี้ยว...ไม่ยอมจ่ายกระทั่งกลายเป็นหนี้เสีย...แล้วประเทศชาติก็รับภาระไป...(ไม่ต่างอะไรกับโครงการจำนำข้าวสักนิด และหลังจากนั้นพิชัยก็ถูกดีดออกจาก รมว.พลังงาน เพราะถือว่าตอบแทนฐานเสียงในกรุงเทพฯ เรียบร้อยแล้ว และเก้าอี้ รมว.พลังงานก็กลายเป็นเก้าอี้ดนตรีรอบใหม่ในพรรค-ผู้เขียน)

 

 

เรื่องความหน้าแหกของ "อดีต รมว.เพื่อไทย-ผู้อุปโลกน์ตนเป็นกูรูเศรษฐกิจแบบข้าเก่งคนเดียวในประเทศ" รายนี้ เริ่มจากการที่เขาออกมาโจมตีรัฐบาล คสช. เมื่อต้นเดือนเมษายน 2560 อย่างที่กล่าว โดยอ้างไม่มีฝีมือในการแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจ (ที่หลงเชื่อว่าตนคือกูรู) ในครั้งนั้นนายพิชัยถึงกับฟันธงว่า  "อาลีบาบาตัดสินใจจะไปตั้งศูนย์กระจายสินค้าในมาเลเซีย แทนการเลือกประเทศไทย ทั้งๆ ที่ประเทศไทยมีที่ตั้งทางภูมิศาสตร์เหมาะสมกว่า   เป็นเหตุผลที่ชี้ให้เห็นถึงผลกระทบทางการเมืองภายในประเทศไทย"

 

ไม่เพียงแต่เท่านี้ "นายพิชัย"  ยังไปไกลถึงขนาดให้ข้อมูลแดกดันรัฐบาล คสช. ทำนองว่า "แจ๊ค หม่า" เคยมาเยือนไทยถึง 2 ครั้งก่อนหน้า และรัฐบาล คสช. ก็อ้างว่าสนิทสนมกับ "นายแจ๊ค หม่า" แต่กลับไม่สามารถชักชวนให้อาลีบาบามาลงทุนในประเทศไทยได้  ยาวไปถึงการตีนโยบายรัฐบาล  ก่อนสรุปเอาเองเสร็จสรรพว่า ที่ไทยเสียโอกาสในครั้งนั้น นับเป็นความเสื่อมถอยของประเทศ....และไทยกำลังจะกลายเป็น "กบถูกต้ม"...ตามที่นักวิชาธรรมศาสตร์ปีกร่าน ๆ ซึ่งก็พวกเดียวกับเขาออกมาป่าวประกาศก่อนหน้า...เพราะมีรัฐบาล คสช. เป็นต้นเหตุ

ถ้อยคำของ "นายพิชัย" ไม่ต้องคิดให้ลึกซึ้งก็มองออกได้ไม่ยากว่า...จงใจโจมตีรัฐบาล คสช. แบบกุข้อมูลเท็จขึ้นมาเพื่อรองรับสมมุติฐานของตนเอง เพราะหลังจากนั้นได้ไม่นาน "นายอุตตม สาวนายน" รมว.อุตสาหกรรม ได้ออกมายันหน้านายพิชัยอย่างจังจัง โดยยืนยันว่า สิ่งที่นายพิชัยพูดไม่เป็นความจริง "อาลีบาบา" ยังมีนโยบายที่จะลงทุนในไทย และมีเป้าหมายจะใช้ไทยเป็นฐานการค้าอี-คอมเมิร์ช หรือ “ศูนย์การค้าทางอิเล็กทรอนิกส์และระบบโลจิสติกส์ของภูมิภาค” (E-Commerce Park) อีกด้วย

 

“ยืนยันว่าอาลีบาบายังแสดงความพร้อมลงทุนในไทยและใช้ไทยเป็นศูนย์กลางอี-คอมเมิร์ซในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งโครงการนี้ถือเป็นการลงทุนขนาดใหญ่ ต้องใช้เวลานานในการดำเนินงาน แต่คาดว่าจะเห็นภาพชัดภายในปีนี้ ส่วนโครงการลงทุนในมาเลเซียของอาลีบาบานั้นเป็นโครงการที่เชื่อมการค้าระหว่างมาเลเซียกับจีนเท่านั้น” นายอุตตม กล่าวในคราวนั้น (วันที่ 27 มีนาคม 2560)

 

คำกล่าวของนายอุตตม ไม่ผิดความจริงเลยสักนิด ขณะเดียวกันก็นับเป็นการยันหน้าจับมดเท็จของผู้หลงละเมอคิดว่า  "ตนเองเป็นกูรูเศรษฐกิจอย่างนายพิชัย" ไปในคราวเดียวกันด้วย เพราะล่าสุดวันนี้ (19 เม.ย.2561) "นายแจ็ค หม่า" ได้ยกคณะใหญ่เดินทางมาเยือนประเทศไทย เพื่อเข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รวมทั้งเข้าหารือกับ "นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์" รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ เพี่อประกาศแผนการลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) รวมถึงโครงการความร่วมมือเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมดิจิทัลและส่งเสริมบุคลากรไทยในการพัฒนาทักษะและขีดความสามารถด้านดิจิทัลอีคอมเมิร์ซ โดยนายใหญ่ของอาลีบาบากรุ๊ป ยังชมเปราะว่า นโยบาย "ไทยแลนด์ 4.0" ของรัฐบาล คสช. นับว่าเป็นการช่วยยกระดับชีวิตคนไทยอีกด้วย

 

พร้อมกันนี้...นายใหญ่ของอาลีบาบายัง ระบุด้วยว่า เขาพร้อมจะช่วยเกษตรกรรายย่อยของไทย ที่แข่งขันไม่ได้ให้มีความสามารถมากขึ้น โดยจะดึงสินค้าเข้ามาสู่การค้าทางออนไลน์ที่ตนถนัด และอย่าห่วงว่าเขาจะมุ่งหวังเรื่องของทางเศรษฐกิจ เพราะมีมากพอแล้ว

 

คำยืนยันพร้อมการปรากฎตัวของ "แจ็ค หม่า" ทำให้ผู้รู้บางคนถึงกับสมเพชสิ่งที่นายพิชัยเคยกล่าวเอาไว้อย่างเลื่อนลอยเมื่อปีก่อน และทำให้หลายคนมองย้อนไปว่า แท้จริงแล้ว  รมว.พลังงานยุค "หญิงปู" คนนี้ มีผลงานอันใดบ้าง หากไม่นับโปรเจ็คสุดห่วยอย่างการแจก"บัตรเครดิตพลังงาน" ให้กับพวกแท็กซี่...ซึ่งถือเป็นฐานเสียงของพรรคตนเองในเมืองหลวง....และเจ๊งมาจนวันนี้ ก็แทบมองหาผลงานเป็นชิ้นเป็นอันอันใดไม่พบ...นอกจากการประกาศยกเลิกการใช้น้ำมันเบนซิน 91 ทั้งที่น้ำมันชนิดดังกล่าวยังคงเป็นที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในขณะนั้น (ธันวาคม 2554) และมัดมือชกบีบบังคับให้ประชาชนหันไปใช้ "แก๊สโซฮอล์ 95" แทน....จนทำให้ชาวบ้านด่ากันกรมในช่วงนั้น แถมบางคนมองลึกไปว่า...รัฐบาลเพื่อไทย...มีนอกมีในกับบริษัทผลิตแอททาน่อล...ที่ใช้เป็นส่วนผสม "แก๊สโซฮอล์ 95" หรือไม่อย่างไร เพราะลำพังจะอ้างว่า เพื่อกระตุ้นยอดขาย  "แก๊สโซฮอล์ 95" และสนับสนุนพลังงานทดแทนที่กล่าวอ้างก็ยิ่งฟังไม่ขึ้น เพราะนั่นต้องให้ประชาชนผู้ใช้รถเป็นคนตัดสินใจเลือกเติม...ไม่ใช่มัดมือชก...แบบเผด็จการรัฐสภาเช่นนี้ (แปลกประเด็นเหล่านี้เสื้อแดงไม่สำเหนียก และลิร่านทั้งหลายกลับไม่มองว่าถูกละเมิดสิทธิ)

 

...นั่นเป็นแค่ตัวอย่างบางตอน...ของความมดเท็จที่ "นายพิชัย" เคยพ่นไว้ และมาถูกถลกเนื้อเถือหนังแบบจะจะในวันนี้...วันที่ "แจ็ค หม่า" เดินทางมาทำเนียบรัฐบาล...และบอกจะร่วมมือกับรัฐฯ ไทยทุกมิติ...ซึ่งตรงข้ามกับสิ่งที่นายพิชัย เคยกล่าวโจมตีไว้ทุกประโยค ขณะที่ "ขบวนการเสรีไทยเฟซบุ๊ค" เพจดังที่เกาะติดการเมืองของคนเสื้อแดง และระบอบทักษิณมานาน กล่าวถึงเรื่องเดียวกันนี้ด้วยประโยคสั้น ๆ แต่อธิบายทุกอย่างว่า "เงิบไหมล่ะมึง!!" พร้อมโพสต์ภาพประกอบ

 

ขอบคุณภาพ : "ขบวนการเสรีไทยเฟซบุ๊ค"

อ่าน ช่วยเต็มที่?! "แจ็ค หม่า" พบ "บิ๊กตู่" ออกปากชม"ไทยแลนด์ 4.0" ยกระดับทุกด้าน ลั่นพร้อมช่วยเต็มที่