- 09 พ.ค. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
พระมหาสมปอง ตาลปุตโต พระนักเทศน์ชื่อดัง ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน ที่ จ.ขอนแก่น ว่า วันนี้ประเทศไทยยังคงมีประชาธิปไตยที่ไม่เต็มใบ เราไม่สามารถนำไทยไปเปรียบกับเยอรมัน หรือสหรัฐอเมริกาได้ การที่จะมาแสดงความคิดเห็นใดได้อย่างเต็มที่ จนมีคำเปรียบเปรยว่า ประเทศพัฒนาและด้อยพัฒนานั้นต่างกันได้อย่างไร เพราะประเทศพัฒนานั้นพูดได้ทุกเรื่องไม่ว่าเรื่องนั้นจะจริงหรือไม่จริง ขณะที่กระแสการเมืองที่กำลังเกิดขึ้นวันนี้นั้นยอมรับว่า มีพรรคการเมืองเกิดขึ้นมาอย่างมากมาย ซึ่งจริงๆแล้วนักการเมืองควรเอาประชาชนเป็นเกณฑ์ พระก็คือประชาชน แม้จะไม่มีสิทธิ์เลือกตั้งก็คือประชาชนคนไทยคนหนึ่ง ซึ่งธรรมมะกับการเมือง พระพุทธองค์กับการเมืองนั้นอยู่ด้วยกันมาตลอด ถ้าดูในพุทธประวัติ ถ้าดูในซีรีย์พระพุทธเจ้าจะเห็นว่าหลายครั้ง จะเห็นว่าพระพุทธเจ้าตัดสินได้เลยว่าใครควรเป็นผู้นำ ใครมีธรรมาภิบาล พระองค์ก็จะช่วยคิด ช่วยแนะนำดังนั้นต้องเคลียร์ให้ชัดว่า พระมาเกี่ยวอะไรกับการเมือง จุดนี้คือสิ่งที่ทุกคนต้องเข้าใจ
“วันหนึ่งเมื่อถึงวันเลือกตั้ง นักการเมืองทำไมต้องมาด่ากัน มาว่ากัน มาสาดโคลนกันจนหมดนา สีหมดทุกร้าน เรื่องนี้แก้ไม่ยาก รัฐบาล ฝ่ายค้าน นักการเมือง ควรมาเล่นฟุตบอล ควรได้พบกัน ได้เจอกัน บางทีมีจังหวะไสลด์ เตะแข้งเตะขากันขอโทษกัน ให้อภัยกัน เรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญมาก อาตมาเองเคยค้านในใจในคำกล่าวของพระพะยอมว่าต้องแบ่งชัยชนะกันบ้าง คนเราจะไปชนะตลอดคนอื่นไม่อยากเล่นด้วย เรื่องนี้อาตมาค้านในใจเพราะไม่มีใครคนใดคนหนึ่งนั้นอยากแพ้ ใครจะมาแบ่งชัยชนะกันได้ วันหนึ่งบางคนบางกลุ่มชนะ มาตลอด มันก็จะไม่อยู่ในกติกา หรือไม่อยากอยู่ในกฎของสภา อยากเล่นเกมส์ข้างสภา เล่นเกมส์ข้างถนน จนเกิดปัญหาต่างๆมากมาย วันนี้การเมืองไทย ควรที่จะเฉลี่ยชัยชนะกันบ้าง ไม่ควรที่จะใหญ่เกินไปจนเกิดปัญหากันแบบทุกวันนี้ ดังนั้นไม่ว่าจะพรรคการเมืองใดที่จะเกิดขึ้นจากนี้ไปขอให้จริงใจ เอาประชาชนเป็นหลักจริงๆ ถ้าจะทำถนนสักสายให้ประชาชนสัญจรก็ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน จะทำอาคารให้เด็กๆได้เรียน ก็ต้องมีมาตรฐาน”
พระมหาสมปอง กล่าวต่ออีกว่า นักการเมืองขอให้มีความตั้งมั่น จริงใจ จริงๆ เราอยากเห็นจริงๆมานานมากแล้ว ที่ผ่านมาเราเห็นความตั้งใจแต่ไม่รู้ว่าจริงมั้ย เราเห็นถึงความมุ่งมั่นของนักการเมืองแต่ก็ไม่รู้ว่าจริงมั้ย ดังนั้นนักการเมืองจากนี้ไปประชาชนอยากเห็นถึงความมุ่งมุ่น ตั้งใจ จริงใจ และทำเพื่อประชาชนจริงๆ อาตมาเชื่อว่าไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมืองใด ใครจะลงพื้นที่อย่างไร จะใช้โซเชี่ยน จะใช้อะไรใน ทางที่เป็นประโยชน์ คนทำงานก็ใช้งานที่ทำในการหาเสียง สร้างความเจริญในด้านของวัตถุ ด้านอาชีพ ด้านรายได้ แม้กระทั่งจิตใจก็ต้องเดินไปพร้อมกัน ดังนั้นวันนี้ขอฝากให้กับผู้ที่จะเข้ามาเป็นผู้แทนของประชานนั้นได้ทำหน้าที่แทนประชาชน จริงๆรับรองว่าจะได้ใจ จะได้คะแนนเสียง จะได้ความไว้วางใจจากประชาชนแอย่างแน่นอน
“พล.อ.ประยุทธ์ จันโอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้า คสช. ลงพื้นที่ตรวจติดตามการบริหารราชการแล้วในหลายจังหวัดล่าสุดพบปะประชาชนที่ จ.บุรีรัมย์ โดยคุณเนวิน ชิดชอบ นำพาชมสนามกีฬาของสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และยังคงได้พบกับประชาชนที่สนามแห่งนี้ ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีที่ นายกรัฐมนตรี จะนำนักการเมืองทุกขั้วและทุกคนมาจัดการแข่งขันนัดกระชับมิตร มาพบกันหน่อย มาคุยกันหน่อย ยกตัวอย่างเช่นดารา นักแสดง นักร้อง หรือศิลปินชื่อดัง เวลาอยู่บนเวที จะมาดเยอะ ทั้งการแต่งตัว การรักษาความปลอดภัย ไม่มีใครเข้าใกล้ตัวได้ แต่เวลามาเล่นฟุตบอล มีความเป็นกันเอง ไม่มีหน้ากาก อะไรที่เราไม่เคยได้ยินเค้าพูด เราก็ได้ยิน การเล่นฟุตบอล หรือการเล่นกีฬาร่วมกันมันคือเนื้อแท้ และก็สอนจริงในเรื่องของการรู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย ดังนั้น ลุงตู่ ควรจัดนักการเมืองมาพบเจอกัน จัดแข่งฟุตบอลสักรอบ และทุกคน อาตมาเชื่อว่าทุกอย่างจะดีขึ้นเพราะ ได้พูดได้คุยกัน เมื่อลงสนามก็จะได้พูดได้คุยกัน วันหนึ่งเมื่อเรามีการเลือกตั้ง จัดเวลามาเตะบอลกันหน่อย มาพูดมาคุยกัน อย่างสหรัฐอเมริกา หลังเลือกตั้งเสร็จคนที่แพ้ ก็มาร่วมแสดงความยินดีและให้คนชนะนั้นบริหารประเทศ 4 ปี ไปเต็มๆจะได้ทำอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันในนโยบายด้านต่างๆ เพื่อประชาชน”
พระมหาสมปอง กล่าวในตอนท้ายว่า นักกาเมืองคนใด เล่นไม่ได้ก็มานั่งดู มาเป็นโค้ช มาเป็นส่วนหนึ่งของเกมส์ มาคุยกัน เชื่อว่าฟุตบอลจะทำให้นักการเมืองไทยนั้นมีความคิดที่เกิดขึ้นด้วยความจริงใจ และไม่ห่างเหินกัน วันนี้นักการเมืองไทยนั้นห่างเหินกัน มาลับหน้า ลับหลังใส่กัน ก็ทะเลาะกัน สุดท้ายคือไม่ได้คุยกันบ้านเมืองก็ถอยหลังเพราะพวกคุณทะเลาะกันแบบนี้ ดังนั้นมาเล่นกีฬา มาแข่งฟุตบอลให้รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย แล้วจะรู้ว่าพอไปเล่นการเมืองแล้วๆไม่ได้ไกลเกินเอื้อม นำกีฬามาใช้ในการเมืองประเทศชาติจะเจริญก้าวหน้าอย่างมากมาย.