- 12 ส.ค. 2561
เข้าสู่เดือน สิงหาคม กลิ่นไอของวันแม่เริ่มคละคลุ้ง และเมื่อพูดถึง "แม่" หลายคนรับรู้ดีถึงความยิ่งใหญ่ของคำนี้ แม่ทุกคนรักลูกและสามารถทำได้ทุกอย่างเพื่ออนาคตของลูก
เข้าสู่เดือน สิงหาคม กลิ่นไอของวันแม่เริ่มคละคลุ้ง และเมื่อพูดถึง "แม่" หลายคนรับรู้ดีถึงความยิ่งใหญ่ของคำนี้ แม่ทุกคนรักลูกและสามารถทำได้ทุกอย่างเพื่ออนาคตของลูก ในวันนี้สำนักข่าวทีนิวส์ จึงได้หยิบยกเรื่องราวประวัติแม่ผู้ยิ่งใหญ่ที่โด่งดังในภาคใต้ รวมถึงยังเป็นที่รักของอีกหลายๆ คน แม้ในวันนี้เธอได้จากโลกนี้ไปแล้ว แต่ความเป็นแม่ ความรัก ความสู้ชีวิต เรื่องราวแม่ตัวอย่างจะยังคงอยู่เป็นประวัติศาสตร์ให้จดจำ แน่นอนว่าเรากำลังพูดถึง "แม่ถ้วน หลีกภัย" มารดาของ "นายชวน หลีกภัย" อดีตนายกรัฐมนตรีสองสมัยชาวตรัง
“แม่ถ้วน” มีเชื้อสายจีนฮกเกี้ยน ใช้แซ่ตามบิดาที่อพยพมาจากเมืองจีน คือสกุล "จูห้อง" เป็นหนึ่งใน 35 สกุลเก่าแก่ของชาวฮกเกี้ยนในเมืองตรัง แต่เดิมมีชื่อว่า "กิมถ้วน" แต่ภายหลังเหลือเพียงว่า "ถ้วน" ตามคำเรียกของคนใต้ แม่ถ้วนในวัยเยาว์เธอมีความฝันอยากเป็นพยาบาลเพราะมีใจอยากช่วยเหลือคน แต่ด้วยความจนทำให้เธอไม่ได้เรียนหนังสือ และด้วยเป็นบุตรคนโตในบรรดาพี่น้องทั้งหมด 8 คน ต้องคอยดูแลมารดาและทำงานหาเงินให้น้องๆ ได้เรียนหนังสือ แม่ถ้วนเคยร้องไห้หลายครั้งเพราะความเสียใจฝันสลายแต่เธอแข็งแกร่งพอที่จะไม่ยอมให้พ่อแม่รับรู้
ชีวิตของ แม่ถ้วนเปลี่ยนไปเมื่ออายุได้ 18 ปี หลังจากที่ได้พบกับ ครูนิยม หลีกภัย ซึ่งเป็นครูในจังหวัดตรังที่ต่อมาได้กลายเป็นคู่ชีวิตที่เข้ามาเปลี่ยนความกังวลต่างๆ และร่วมสร้างตำนานความรักไปด้วยกัน ซึ่งในช่วงแรกแม่ถ้วนได้ปฏิเสธการสู่ขอถึง 4 ครั้ง เนื่องจากกลัวเรื่องที่ตนเองไม่มีการศึกษา กลัวว่าครูนิยม จะมาหลอกให้ไปเป็นคนรับใช้ ไม่ใช่ภรรยา เธอใช้เวลานานมากในการตัดสินใจ แต่ครูนิยมก็ยังยืนยันคำเดิม และสร้างความเชื่อมั่้นให้แม่ถ้วนว่าเธอจะเป็นภรรยาที่ดีได้ จนใจอ่อนและตอบตกลงในที่สุด
และนี่คือจุดเริ่มต้นของคำว่า "แม่" อย่างสมบูรณ์แบบหลังจากที่เธอตกลงแต่งงานใช้ชีวิตครอบครัวกับครูนิยม ชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะเธอมีลูกมากถึง 9 คน แม่ถ้วนจึงต้องทำงานทุกอย่าง ไม่ว่า เลี้ยงหมู ทอผ้า กรีดยาง ขายของ ทำให้ช่วงชีวิตวัยเด็กของนายชวน หลีกภัย บุตรชายคนที่ 3 ของครอบครัว ครั้งหนึ่งเคยคิดจะไม่ไปโรงเรียนเพราะอยากจะช่วย แม่ถ้วน ทำงานแต่ด้วยความเป็นแม่ที่เคยผิดหวังกับการได้ศึกษาเธอไม่ยอมเด็ดขาดโดยกล่าวว่า เธอไม่สามารถจะสอนให้ลูกอ่านและเขียนได้ แต่เธอสามารถสอนให้ลูกเป็นคนดีได้ความภูมิใจของแม่ถ้วน คือการที่ลูกทุกคนมีการศึกษาที่ดี
เธอเฝ้าส่งเสียให้ลูกๆ ทุกคนมีการศึกษาจนกระทั่งในปี พ.ศ.2512 เมื่อนายชวนตัดสินใจลงเล่นการเมืองแทนการเป็นผู้พิพากษา ในตอนนั้นแม่ถ้วนไม่เห็นด้วยเนื่องจากการเป็นนักการเมือง จำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมากแต่ด้วยความตั้งใจและคำยืนยันที่หนักแน่นของนายชวน ทำให้แม่ถ้วนต้องเปลี่ยนความคิดและหันมาสนับสนุนลูกชายคนนี้อย่างเต็มตัว จนในปีนั้นนายชวน ชนะเลือกตั้งและชนะต่อเนื่องกันมา 6 สมัย
นี่คือข้อยืนยันที่เห็นได้ชัดว่าทำไม นายชวน ถึงประสบความสำเร็จในชีวิตมากมาย เพราะเขามีบุคคลเบื้องหลังที่คอยสนับสนุนและสั่งสอนให้ดำเนินชีวิตปฏิบัติดีทำให้หลายๆ คนเชื่อมั่นได้ และหลังจากที่นายชวน ได้ก้าวเข้าสู่เวทีนักการเมืองอย่างเต็มรูปแบบครั้งหนึ่งเคยถูกกล่าวหาว่านายชวน เป็นเจ้าของบริษัทรถทัวร์และเป็นเจ้าของสวนลำไยทางภาคเหนือ แม่ถ้วน จะคอยชี้แจงให้ตลอดว่านายชวนไม่มีแม้แต่บ้านเป็นของตัวเอง และด้วยความที่แม่ถ้วนไม่มีโอกาสได้ศึกษาเล่าเรียนในวัยเด็ก ทำให้เมื่อเธอเมื่อมีโอกาสจึงได้ช่วยเหลือเด็กอีก 5 คนส่งเสียให้ได้เรียนหนังสือ
แม่ถ้วน หลีกภัย คือต้นแบบผู้เป็นแม่ในการสั่งสอนลูกๆ เพราะเธอเลี้ยงดูบุตรทั้ง 9 คนให้ได้ดีและผลักดันนายชวน จนได้ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และถือได้ว่าเป็นนายกรัฐมนตรีที่มีความซื่อสัตย์สุจริตที่สุด เป็นแบบอย่างแก่เยาวชนรุ่นหลังจนทำให้แม่ถ้วนได้รับรางวัลแม่ดีเด่นแห่งชาติในปีพ.ศ.2536 แม้ว่าลูกจะประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างไรแต่แม่ถ้วน ยังคงดำรงชีวิตเหมือนเดิมโดยยึดอาชีพแม่ค้าขายแกงพุงปลาในตลาดสด จนถึงวัยที่ลูกหลานต้องร้องขอให้หยุดพักเนื่องจากสังขารและวัยที่เพิ่มขึ้น
นางถ้วน หลีกภัย ถึงแก่กรรมอย่างสงบด้วยโรคชรา ขณะนอนหลับที่บ้านของนางสาวจงจิตต์ หลีกภัย ลูกสาวคนที่ 6 ที่ถนนเสรีไทย เมื่อวันพุธ ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2554 สิริอายุ 96 ปี