สรุป ข่าวเด่นรอบวัน 15 ส.ค. 2561

 

    สรุปข่าวเด่นรอบวัน พุธที่ 15 ส.ค. 2561 มีหลายประเด็นที่น่าสนใจทั้งประเด็นสังคม บันเทิงต่างๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ในวันนี้เราได้รวบรวม 5 ข่าวเด่นประเด็นร้อนมาไว้ที่นี่
  
  เริ่มกันที่ข่าวแรกกับดราม่าร้อน โน้ส อุดม แต้พานิช กับการแสดงเดี่ยว 12  เมื่อวันที่  12 สิงหาคม ที่ผ่านมา แต่ที่เป็นประเด็นให้ชาวเน็ตหยิบมาวิพากษ์ วิจารณ์นั้น เป็นการกระทำที่ชาวเน็ตมองว่าไม่สมควร ของโน้ส อุดม ขณะแสดงโชว์เดี่ยวอยู่เมื่อรู้ว่านักแสดงขวัญใจแม่หญิงการะเกด หรือเบลล่า ราณี แคมเปน มานั่งดูการแสดงด้วย ทำให้ระหว่างการแสดง โน้ส อุดม ได้ลงจากเวทีบุกเข้าถึงเนื้อ ถึงตัวเบลล่า ชนิดที่เรียกว่าแนบชิด เมื่อภาพดังกล่าวถูกแชร์ออกไปชาวเน็ตบางกลุ่มต่างเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์การกระทำนี้พร้อมบอกดูแล้วไม่อินตาม ทั้งยังขอให้ โน้ส อุดม 
มีความสุภาพและเกรงใจฝ่ายผู้หญิงบ้าง เพราะการกระทำเช่นนี้ถือว่าไม่ใช่เรื่องตลกนับเป็นการไม่ให้เกียรติผู้หญิง

 

    อย่างไรก็ตามการแสดงเดี่ยว 12 ของโน้ส อุดม รอบก่อนหน้านี้ก็เกิดดราม่าขอแต่งงานระหว่าง พลอย เดอะกิ๊ก กับแฟนหนุ่มที่ทำเซอร์ไพรส์ขอแต่งงานกลางโชว์เดี่ยว 12 จน ต้องมีการตัดช่วงเวลาออกไป ทำให้คนดูการแสดงบางส่วนเกิดความไม่พอใจ เนื่องจากอยากดูโชว์อย่างเต็มที่ ไม่อยากให้ขัดจังหวะ ทั้งบัตรการชมโชว์ของโน้ส อุดม ยังหาได้ยากจึงเกิดเป็นประเด็นดราม่าขึ้น

 

 

 

        ต่อมากับข่าวที่สอง เหตุการณ์สะเทือนขวัญต่างประเทศ ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 ส.ค. 61 กับสะพานบนทางมอเตอร์เวย์ ในเมืองเจนัว ทางภาคเหนือของอิตาลี พังถล่มลงมาเป็นเหตุให้รถที่อยู่บนสะพานพุ่งลงมาจากความสูงราว 100 เมตร  เมื่อเวลา 11.30 น.จากเหตุการณ์นี้ นายดานิโล โตนีเนลลี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมอิตาลี ได้ออกมากล่าวว่าถือเป็นเหตุการณ์โศกนาฎกรรมครั้งใหญ่ของอิตาลี มีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 35 คน 

 

 

 

        ก่อนเกิดเหตุมีพายุฝนฟ้าคะนองอย่างหนักจนแรงลมได้พัดเสาต้นหนึ่งที่ยึดสะพานแขวนให้ถล่มลงมาก่อนที่ทั้งสะพานจะหักโค่นลง สะพานดังกล่าวถูกสร้างขึ้นในช่วงยุค 60 เป็นที่รู้จักในชื่อสะพานโมรานดิ ที่สร้างข้ามผ่านแม่น้ำดพเชเวร   

       ถัดมากับข่าวที่สามกับเหตุการณ์เด็กชายวัย 7 ขวบ ถูกครูใช้ไม้บรรทัดฟุตเหล็กตีจนช้ำ เนื่องจากเด็กอ่านหนังสือไม่ออก จนแม่ต้องเข้าแจ้งความกับ สภ.เมืองระยอง ลงบันทึกประจำวัน ให้ดำเนินคดีครู ที่กระทำการรุนแรงต่อลูกของตน จนมีอาการเซื่องซึม ในตอนแรกแม่ของเด็กชายวัย 7 ขวบ สังเกตเห็นความผิดปกติของลูก ทั้งนี้ยังพบรอยช้ำบริเวณแขนและหัวไหล่ จนสอบถามได้ความว่าถูกครูใช้ไม้บรรทัดฟุตเหล็กตี ทั้งยังด่าหยาบ เสียงดัง สุดท้ายผู้เป็นแม่ต้องโทรไปหาครูประจำชั้นเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง ก่อนได้คำตอบว่า ครูนั้นได้พลั้งมือตีเด็กแรงเกินไป เนื่องจากเด็กชายนั้นดื้อไม่ยอมอ่านหนังสือ และอ่านหนังสือไม่ออก

 

      ล่าสุด 15 ส.ค. 61 ครูได้ออกมาชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กับกรณีใช้ไม้บรรทัดเหล็กตีเด็กชาย เนื่องจากเด็กชายรายนี้มีพัฒนาการที่ช้ากว่าเด็กคนอื่น ซึ่งในช่วงเที่ยงครูจะมีการสอนเสริมให้เด็กที่มีพัฒนาการช้ากว่าปกติมาเรียน จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกล่าวว่าเป็นเพราะความเอ็นดูเด็กระหว่างการสอน ถามอะไรเด็กก็ไม่ตอบจึงใช้ไม้บรรทัดฟุตเหล็กตีเบาๆ 5 - 6 ที แต่จังหวะนั้นตีไปโดนหัวไหล่พอดี ประกอบกับเด็กมีรูปร่างสมส่วนจึงทำให้เกิดรอยฟกช้ำ หลังจากการชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผู้ปกครองของเด็กไม่ติดใจเอาความถือว่าเรื่องจบไปด้วยดี

 

      สำหรับข่าวที่สี่ เป็นข่าวของนักแสดงรุ่นใหญ่ มากความสามารถ จุ๋ม อุทุมพร ศิลาพันธ์  ที่ออกมาเปิดเผยเรื่องราวชีวิตครั้งแรกผ่านรายการดัง รายการหนึ่งพร้อมเผยว่าตอนนี้นั้นชีวิตมีความสุขดีใช้ชีวิตอยู่กับลูก และคิดว่าตนไม่เหมาะกับชีวิตคู่เพราะการใช้ชีวิตคู่ต้องมีการอะลุ่มอล่วยกัน ซึ่งตนไม่ได้มีนิสัยแบบนั้น พร้อมทั้งแง้มเรื่องราวความรักครั้งใหม่ที่ไม่ธรรมดา กับหนุ่มฝรั่งตาน้ำข้าว ดีกรีนายแพทย์ หลังคุยกันมาได้ 2 เดือน หากคิดถึงขั้นแต่งงานขอใช้เวลาศึกษาดูใจอีก 3 -4 ปี 

 

และปิดท้ายด้วยข่าวสุดท้ายที่นักเสี่ยงโชคหลายคนกำลังจับตามองกันอยู่ในขณะนี้สำหรับพิธีบวงสรวงปู่ศรีสุทโธและแม่ย่าศรีปทุมมา เมื่อวันที่ 14 ส.ค. หลังผู้จัดละครชื่อดังแดง ธัญญา นำทีมนักแสดงพร้อมเครื่องไหว้จำนวนมากไป ทำพิธี หน้าลานบวงสรวงเกาะคำชะโนด วังนาคิณทร์ดินแดนพญานาคราช บ้านโนนเมือง ต.บ้านม่วง อ.บ้านดุจ  จ.อุดรธานี

   

     เมื่อพิธีเสร็จลง หลังจากน้องริต้า กรัญยกัลตา หรือธิดานาคี รำถวายเสร็จ ได้มีนักเสี่ยงโชคแห่เข้ามาดูขันน้ำมนต์พิธี เพื่อนำไปเสี่ยงโชคใน งวดประจำวันที่ 16 / 8 / 61 ที่จะถึงนี้ หลายคนต่างเห็นเลขแล้วแต่โชคของตัวเอง เช่น 652 , 692 , 2 , 9 , 6 , 5 ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเชื่อโปรดใช้วิจารณญาณ  
   
เอาเป็นว่าสรุปข่าวเด่นประจำวันไว้เพียงเท่านี้ สำหรับพรุ่งนี้จะมีประเด็นใดน่าสนใจก็ต้องติดตามกันต่อไป