- 21 ส.ค. 2561
ความไม่ธรรมดาของ “บิ๊กโจ๊ก..หวานเจี๊ยบ” ผู้ช่วยโฆษกประจำตัวรองนายกฯ
ความไม่ธรรมดาของ “บิ๊กโจ๊ก” ผู้ช่วยโฆษกประจำตัวรองนายกฯ
เมื่อวันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรับมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ลงนามในคำสั่ง รองนายกรัฐมนตรี ที่ 1/2561 เรื่องแต่งตั้งผู้ช่วยโฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี โดยมีเนื้อหาว่า
ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการแต่งตั้งโฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 13 มิถุนาย 2560 โดยแต่งตั้ง พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ หัวหน้าสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงกลาโหม เป็นโฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) นั้น
เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของโฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรีเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น จึงแต่งตั้งให้ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เป็นผู้ช่วยโฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) มีหน้าที่ช่วยปฎิบัติงานโฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรีตามที่รองนายกรัฐมนตรีหรือโฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรีมอบหมาย ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ดูเหมือนว่าเส้นทางในการรับราชการตำรวจของ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจท่องเที่ยว หรือที่รู้จักกันในนาม “โจ๊ก หวานเจี๊ยบ ” จะโรยด้วยกรีบกุหลาบมาโดยตลอด เพราะนายพลตำรวจหนุ่มคนนี้ เป็นผู้บังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ และเป็นทราบกันทั่วว่าเขาเป็นคนสนิทพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ถือได้ว่านายตำรวจที่พล.อ ประวิตร ไว้วางใจเป็นที่สุด
หากย้อนดูประวัติของ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ก็จะพบว่ามีประวัติที่ไม่ธรรมดากันเลยทีเดียว พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 47 และถือเป็นนายพลตำรวจคนหนึ่งที่มีการเติบโตในตำแหน่งหน้าที่แบบก้าวกระโดด จนถึงขั้นมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า ต้องจับตาเพราะเป็นนายพลตำรวจคนแรกที่มีอายุราชการน้อยที่สุดตั้งแต่มีการก่อตั้ง “สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” ด้วยวัยเพียง 42 ปีเท่านั้น
แถมยิ่งไปกว่านั้น ยังมีเสียงวิจารณ์กันให้แซ่ดว่าพล.ต.ต. สุรเชษฐ์ สามารถก้าวข้ามกฎกติกาว่าด้วยการขึ้นเป็นนายพลตำรวจได้อีกต่างหาก ทั้งๆที่พล.ต.ต. สุรเชษฐ์ มีตำแหน่งเป็นรองผบก.เพียง2ปี และไม่เคยผ่านรร.หลักสูตรผู้บังคับการ แต่สามารถก้าวกระโดดขึ้นมาเป็นนายพลได้ทั้งๆที่ตามระเบียบระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ผู้ที่จะเป็นนายพลตำรวจได้นั้นจะต้องมีตำแหน่งเป็นรองผบก.อย่างน้อย4ปี และต้องผ่านรร.หลักสูตรผู้บังคับการ แต่พล.ต.ต สุรเชษฐ สามารถฝ่าด่านเหล่านี้มาได้ เรียกว่า เป็นนายตำรวจที่ไม่ธรรมดา
และหากพูดถึงฝีไม้ลายมือ ต้องบอกว่าไม่เป็นสองรองใครเช่นกัน เคยผ่านการทำหน้าที่ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา ส่วนหน้า รับผิดชอบดูแลในพื้นที่ อ.จะนะ นาทวี สะบ้าย้อย และเทพา จ.สงขลา 4อำเภอพื้นที่สีแดงภัยความไม่สงบต่อเนื่องชายแดนใต้ และปัจจุบันกับผลงานสร้างชื่อ ปฏิบัติการกวาดล้าง ทั้งนอมินีนายทุนต่าง ลุยปราบทัวร์ศูนย์เหรียญ ทำปัญหาไกด์เถื่อนลดลงต่อเนื่อง บุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ร่วมถึงพวกพนันออนไลน์ข้ามชาติ ขยันสร้างผลงานจนหลายคนอาจลืมชื่อผู้บัญชาการตํารวจท่องเที่ยวตัวจริงไปเลยทีเดียว