- 23 ส.ค. 2561
เงียบๆ ก็ดีอยู่แล้ว...เพราะยิ่งออกมาแสดง...ยิ่งรู้ว่ากลวง และทำ "หนูปู" ซวยไปด้วย "ไพศาล พืชมงคล" ถลกหนัง "เรืองไกร เพื่อไทย" จำนำข้าวขาดทุนที่ ธกส. ไม่ใช่ที่กรมบัญชีกลางตามอ้าง อย่าแกล้งมึน-บิดเบือนข้อเท็จจริง
เงียบๆ ก็ดีอยู่แล้ว...เพราะยิ่งออกมาแสดง...ยิ่งรู้ว่ากลวง และทำ "หนูปู" ซวยไปด้วย "ไพศาล พืชมงคล" ถลกหนัง "เรืองไกร เพื่อไทย" จำนำข้าวขาดทุนที่ ธกส. ไม่ใช่ที่กรมบัญชีกลางตามอ้าง อย่าแกล้งมึน-บิดเบือนข้อเท็จจริง
วันนี้ (23 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า "นายไพศาล พืชมงคล" กรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก กรณี "นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ" สมาชิกพรรคเพื่อไทย ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลคืนทรัพย์สินของ "น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกรัฐบาลยึดอายัดไว้จากคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว โดยนายเรืองไกร อ้างว่า โครงการดังกล่าวไม่ได้ขาดทุน 5 แสนล้านจริงนั้น
ล่าสุดต่อกรณีนี้ นายไพศาล ได้ออกมาระบุข้อความแบบสวนทางกับสิ่งที่นายเรืองไกรพูด ดังรายละเอียด คือ
“หยุดสร้างความสับสนเรื่องผลขาดทุนจำนำข้าวเถิด
1.โครงการรับจำนำข้าวขาดทุนกว่า 500,000 ล้านบาท สิ้นสุดยุติแล้วทั้งโดยคำตัดสินของศาลและคณะกรรมการประเมินผลโครงการ
2.โครงการนี้ ธกส. เป็นเจ้าของเรื่องผลขาดทุนจึงอยู่ที่ ธกส ไม่ได้อยู่ที่กรมบัญชีกลาง การที่กรมบัญชีกลางไม่ได้ลงบัญชีผลขาดทุนจึงเป็นการถูกต้องตามมติคณะรัฐมนตรีแล้ว
3.กรมบัญชีกลาง มีหน้าที่ต้องตั้งงบประมาณชดเชยผลขาดทุนให้แก่ ธกส. เป็นรายปีตามมติคณะรัฐมนตรี การตั้งงบประมาณชดเชยดังกล่าว จึงไม่ใช่บัญชีแสดงผลขาดทุน และมีการตั้งไว้ที่ ธกส. แล้ว
4.จากการแถลงล่าสุดปรากฏว่า มิได้มีการตั้งยอดหนี้ที่จะต้องชำระแก่ ธกส. ตามจำนวนหนี้ทั้งหมดที่จะต้องชดเชยให้แก่ ธกส.
ตรงนี้จะต้องรีบดำเนินการให้ถูกต้อง
เพราะหนี้ที่เกิดจากนโยบายของรัฐบาล และมีมติคณะรัฐมนตรีให้ตั้งงบประมาณชำระหนี้ เป็นหนี้สาธารณะอย่างหนึ่ง
การไม่ตั้งยอดหนี้ไว้ จึงทำให้หนี้สาธารณะตามบัญชีหนี้สาธารณะต่ำกว่าความเป็นจริง อาจมีความผิด ตามกฎหมายหนี้สาธารณะ
แต่ทว่ากรมบัญชีกลางเพิ่งทำงบเสร็จสิ้นสุดในปีงบประมาณ 58 เท่านั้น ซึ่งอาจจะยังตั้งไม่ได้ในขณะนั้น
ดังนั้น จึงต้องรีบดำเนินการในปีถัดไป
สรุปคือโครงการรับจำนำข้าวมีผลขาดทุน 5 แสนกว่าล้านจริง ผลขาดทุนนั้นอยู่ในบัญชีของ ธกส ซึ่งรัฐบาลต้องตั้งงบประมาณชดเชยเป็นรายปี บัญชีขาดทุนจึงไม่ได้อยู่ที่กรมบัญชีกลาง”