- 26 ส.ค. 2561
สมศักดิ์ เจียมฯ ล้มเส้นเลือดสมองแตก ร่างกายทั้งซีกขยับไม่ได้ หมอเร่งให้ยาหยุดเลือดไหล
วันนี้(26สค.),มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า pavin chachavalpongpun ได้ออกมาโพสต์ข้อความ ถึงอาการป่วยอย่างกะทันหันของนายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อดีตอาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ได้ประสบอุบัติเหตุล้มและมีอาการบาดเจ็บ โดยระบุว่า
ผมได้รับแจ้งจากปารีสเช้าตรู่วันนี้ อาจารย์สมศักดิ์ เจียมธีระสกุล ล้ม อาการเบื้องต้น เส้นเลือดในสมองแตก ร่างกายซีกขวายังขยับไม่ได้ครับ แพทย์กำลังให้ยาเพื่อลดการหยุดไหลของเลือดในสมอง เอาใจช่วยอาจารย์ในยามนี้...
สำหรับ “ สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล” หรือ “อาจารย์หงอก” อดีตอาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หลายปีก่อนถูกไล่ออกจากเหตุละทิ้งราชการในช่วงของการลี้ภัย แม้ว่าสมศักด์ได้ยื่นใบลาออกก่อนหน้าก็ตาม ปัจจุบันคำสั่งไล่ออกจากราชการได้ถูกศาลปกครองยกฟ้อง ขณะนี้หลบหนีคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพไปใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศ เขา เป็นนักประวัติศาสตร์ชาวไทยที่มีความสนใจด้านประวัติศาสตร์และการเมืองร่วมสมัยโดยเฉพาะประวัติศาสตร์ไทยยุคใกล้ตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 เป็นต้นมา สมศักดิ์แ สดงตัวเป็นปฏิปักษ์กับสถาบันพระมหากษัตริย์ถึงขั้นร่วมกับเพื่อน ๆ ตั้งองค์กรชื่อ “นิติราษฎร์” ขึ้นมาเพื่อรณรงค์ให้แก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112
สมศักดิ์ ได้เป็นที่รู้จักในสาธารณะเป็นอย่างมาก ภายหลังที่สมศักดิ์ได้ร่วมเป็นผู้อภิปรายในรายงานเสวนาเรื่อง สถาบันกษัตริย์-รัฐธรรมนูญ-ประชาธิปไตย ที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2553 สมศักดิ์ได้มีข้อเสนอการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ทั้งหมด 8 ข้อ โดยให้เหตุผลว่าไม่ใช่การต้องการล้มสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่ต้องการให้สถาบันมีความทันสมัยเหมือนราชวงศ์ในยุโรป โดยมีใจความว่า
ยกเลิกรัฐธรรมนูญมาตรา 8 เพิ่มมาตราในลักษณะเดียวกับรัฐธรรมนูญ 27 มิถุนายน 2475 (สภาพิจารณาความผิดของกษัตริย์),ยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112,ยกเลิกองคมนตรี,ยกเลิก พ.ร.บ.จัดระเบียบทรัพย์สินฝ่ายพระมหากษัตริย์ พ.ศ. 2491,ยกเลิกการประชาสัมพันธ์ด้านเดียวทั้งหมด การให้การศึกษาแบบด้านเดียวเกี่ยวกับสถาบันทั้งหมด,ยกเลิกพระราชอำนาจ ในการแสดงความเห็นทางการเมืองทั้งหมด (4 ธันวา, 25 เมษา "ตุลาการภิวัฒน์" ฯลฯ),ยกเลิกพระราชอำนาจในเรื่องโครงการหลวงทั้งหมดและยกเลิกการบริจาค/รับบริจาคโดยเสด็จพระราชกุศลทั้งหมด
แต่อย่างไรก็ตามแม้ความเคลื่อนไหวทางการเมืองของ "ศักดิ์เจียม จะดูคล้ายเป็นแนวร่วมของระบอบทักษิณ ร่วมชุมนุมกับกลุ่มนปช. แต่เขาได้เคยแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกัน "ทักษิณ" ต้นตอรัฐประหาร-เสื้อแดงติดอาวุธฆ่าผู้บริสุทธิ์ เมื่อครั้งครบรอบ 1 ปีที่ "คสช." ยึดอำนาจ
บทความนี้เป็นการสรุปข้อเขียนที่ "สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล" นักวิชาการเสื้อแดง โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงต้นเหตุแห่งการรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พ.ค.2557 ซึ่งถือเป็นลากไส้ “ทักษิณ” ได้อย่างเจ็บแสบ เพราะเป็นการพูดแบบไม่ไว้หน้าคนกันเอง ขณะเดียวกันก็ตบหน้าคนเสื้อแดงอีกฉาดใหญ่ เพราะชี้ให้เห็นถึงความรุนแรง ที่เกิดจากฝีมือคนเสื้อแดงที่อ้างเป็นนักประชาธิปไตยเอง และที่สำคัญคือไม่เคยมีกลุ่มก้อนฝากฝั่ง "ผู้นิยมทักษิณ" คนไหนกล้าพูดแบบนี้มาก่อน โดยรายละเอียดทั้งหมดที่ ไทยโพสต์ ตีพิมพ์ในวันนั้น คือ
หลังมีการเผยแพร่คคลิปคำให้สัมภาษณ์ของ “ทักษิณ” ที่ประเทศเกาหลีใต้ โดยเนื้อหาคำให้สัมภาษณ์ได้พาดพิงคนในวังบางคน องคมนตรี ทหาร นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ร่วมมือกันยึดอำนาจรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ความเห็นที่น่าสนใจจากนายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ได้โพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว "Somsak Jeamteerasakul"
นายสมศักดิ์ ระบุว่าทักษิณ และเสื้อแดงอีกจำนวนมาก ยังมีทัศนะคับแคบ มองอะไรไม่ต่างจากอีลีตทั่วไปนัก คือ การที่มีอำมาตย์ จำนวนหนึ่งอยากล้มยิ่งลักษณ์ ไม่ได้แปลว่า จู่ๆเขาจะล้มได้ นอกจากว่า พวกนั้นไม่ใช่เทวดาทีจะเสกให้อะไรเกิดขึ้นตามใจชอบ ไม่ใช่เรื่องแค่คนไม่กี่คนวางแผน กันแล้วก็เกิดขึ้นได้ ทั้งนี้ตลอด 2 ปีกว่าของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ มีหลายกลุ่มพยายามก่อหวอดไม่รู้กี่ครั้ง แต่ก็ ไม่มีน้ำยาอะไร แม้แต่ม็อบ กปปส. และการรัฐประหาร 22 พฤษภา เองก็ต้องใช้เวลาถึงครึ่งปีกว่า จึงถึงจุดทีทหารรู้สึกว่าสามารถตัดสินใจยึดอำนาจได้และดังนั้น ปัญหาจังหวะก้าว ของฝ่ายทักษิณ-รัฐบาลยิ่งลักษณ์เอง จึงมีความสำคัญอย่างมาก
"ความจริงที่ทักษิณหรือยิ่งลักษณ์หรือคนในพรรคเพื่อไทย หรือเสื้อแดงเองจำนวนมาก พยายามหลับตา และทำเป็นลืม ไม่ยอมกล่าวถึงจนวินาทีนี้ คือความผิดพลาดอย่างมหันต์ของพรบ.เหมาเข่ง ที่เป็นจุดเริ่มต้น ที่เปิดทางให้มีการล้มรัฐบาลได้สำเร็จ"นายสมศักดิ์ ระบุและว่า "ผมมองว่า เสื้อแดงจำนวนมาก แม้แต่คนทีคัดค้านเหมาเข่ง ยังไม่ตระหนักถึงความผิดพลาดครั้งนั้นอย่างรอบด้านแท้จริง"
อดีตอาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ระบุว่ากรณีเหมาเข่ง นอกจากสะท้อนลักษณะคับแคบ เห็นแก่ตัว คำนึงถึงแต่ผลประโยชน์แคบๆของตน ของทักษิณ-แกนนำเพื่อไทย แล้ว ที่สำคัญที่สุดมันสะท้อนปัญหา ความไม่เป็นประชาธิปไตยหรือการเมืองแบบไมใช่ประชาธิปไตยของพลังส่วนนี้เองด้วย
เขา ระบุอีกว่ายังมีความผิดพลาดที่สำคัญอีกอย่าง ที่เพื่อไทย-เสื้อแดง ไม่เคยยอมเผชิญกับความจริง คือเรื่องการใช้อาวุธในหมู่คนเสื้อแดงส่วนหนึ่งตลอดช่วงวิกฤติ กปปส. ตามที่ตนเคยระบุไว้ว่า สักวัน เมื่อทุกฝ่ายพร้อมจะเผชิญความจริง จึงจะสามารถนำมาอภิปรายกันเต็มทีได้ ในทีนี้ตนอยากจะเสนอให้สำหรับเสื้อแดงได้คิด
"คิดแบบสามัญสำนึกง่ายๆเลย การใช้อาวุธ ในขณะมีรัฐบาลที่พวกคุณเชียร์อยู่ในอำนาจ มีแต่ทำให้รัฐบาลเสีย บางที ผมก็คิดแบบกึ่งขำ ส่ายหัว อะไรแบบนั้นเลยนะว่า ทำไมคนที่ใช้ ถึงคิดไม่เป็น พวกคุณเองเป็นรัฐบาล คุณใช้อาวุธ คนที่แย่คือรัฐบาลพวกคุณเอง ที่คุมสถานการณ์ไม่ได้มีคนเจ็บคนตายอยู่ตลอดเวลา และเป็นข้ออ้างอย่างดีให้ทหารเข้ายึดอำนาจ"
นายสมศักดิ์ ระบุด้วยว่าตนตระหนักดี เรื่องที่ว่า มีเสื้อแดงเอง เช่นทีรามฯ หรือตำรวจบางคน เสียชีวิต โดนทำร้าย แต่วิธีจัดการเรื่องนี้ ไมใช่ด้วยวิธีแบบนี้ และความจริงคือ ผลของความรุนแรงส่วนใหญ่ และเหยื่อส่วนใหญ่ ตลอดวิกฤตินั้น คือ กปปส. พูดอีกอย่างคือ ฝ่ายเสื้อแดงที่ติดอาวุธ เป็นฝ่ายลงมือใช้วิธีนี้มากกว่า และใช้อย่างชนิดมั่วซั่วไปหมดมากกว่า ที่ตนพูดนี้ในเชิงแทคติก ยังไม่ได้พูดถึงเรืองเชิงหลักการที่ว่า คนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ เช่น เด็ก หรือแม่แต่เป็นคนที่เป็นมวลชนกปปส. แต่เขาไม่ได้มีอะไรที่ผิดที่ถึงกับต้องมาตายกันแบบนั้น