- 31 ส.ค. 2561
เปิดโพสต์แรก "บูม จิรัชพิสิษฐ์" ขอบคุณทุกกำลังใจ หลังโดนจับคดีฟอกเงินบิตคอยน์
จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ ได้จับกุมตัว นายจิรัชพิสิษฐ์ จารวิจิต หรือ บูม อายุ 27 ปี ดาราและนายแบบ บริเวณชั้น 2 ห้างเมเจอร์รัชโยธิน ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ในข้อหาร่วมกันฟอกเงิน โดยผู้ต้องหาพร้อมกับพวกได้สมคบกันหลอกลวงและร่วมกันวางแผนชักชวนให้ชายชาวต่างชาติ ร่วมลงทุนประกอบธุรกิจซื้อ-ขาย สกุลเงินดิจิตอล ในชื่อ dragon coin (DRG) แต่พอถึงกำหนดเวลากลับไม่ได้รับส่วนแบ่งจากการลงทุน หรือเงินปันผล ก่อนพนักงานสอบสวนคุมตัวดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป (คลิกอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : อนาคตจบเห่ กองปราบบุกรวบ "บูม จิรัชพิสิษฐ์" ดาราหนุ่มกลางห้างดัง ตุ๋นเหยื่อต่างชาติลงทุนโกงเฉียด 800 ล้าน) (ชมคลิปวิดีโอด้านล่าง)
ล่าสุด บูม หรือนายจิรัชพิสิษฐ์ จารวิจิต ดาราและนายแบบ ก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความขอบคุณทุกคนที่เข้ามาให้กำลังใจผ่านไอจีสตอรี่ว่า "ตลอดเวลาที่ผ่านมา ผมขอบคุณพี่ๆ ทุกคนที่คอยส่งกำลังใจให้นะครับ ขอบคุณความรัก ความห่วงใย ความหวังดีจากทุกๆ คน ผมรู้สึกอบอุ่นมาก จากเรื่องราวที่เกิดขึ้นทำให้ผมได้เรียนรู้ว่า บางครั้งในการที่เราตกอยู่ในสถานการณ์แย่ๆ มันทำให้เราได้มองเห็นสิ่งดีๆ และผมก็เชื่อว่าสิ่งดีๆ เหล่านี้จะอยู่กับผมไปตลอดชีวิต ขอบคุณมากๆ ครับ"
ทั้งนี้ คดีดังกล่าวสืบเนื่องจากมีผู้เสียหายซึ่งเป็นชาวต่างชาติได้เข้าแจ้งความว่า ถูกผู้ต้องหาพร้อมกับพวกร่วมกันหลอกลวงและร่วมกันวางแผนชักชวนให้ลงทุนประกอบธุรกิจซื้อ-ขายสกุลเงินดิจิทัล ในชื่อ dragon coin (DRG) โดยหลอกลวงให้ซื้อหุ้นของบริษัท เอ็กซ์เปย์ ซอฟท์แวร์ จำกัด, NX Chain Inc. และหุ้นของบริษัท ดีเอ็นเอ 2002 จำกัด (มหาชน) โดยมีผู้เสียหายหลงเชื่อและร่วมลงทุนด้วยการโอนเหรียญบิตคอยน์ ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลจำนวนหนึ่งเข้าไปกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ในบัญชีของนายจิรัชพิสิษฐ์ ที่เปิดรับรองไว้ส่วนหนึ่ง และบัญชีของผู้ต้องหาอื่นๆ อีก รวมเป็นเงิน 5,564.44650956 เหรียญบิตคอยน์ คิดเป็นสกุลเงินบาทไทย 797,408,454.33 บาท
โดย บูม ถือเป็น 1 ใน 3 พี่น้องในครอบครัวนี้ที่ถูกออกหมายจับ เนื่องจากจากการสอบสวนพบว่านายบูมเปิดบัญชีรับโอนเงินจากผู้เสียหายชาวต่างชาติ แทนพี่ชาย ซึ่งเป็นตัวการหลักในขบวนการนี้ โดยเจ้าหน้าที่ออกหมายจับ 3 ราย รวมถึงนายปริญญา และสุพิชย์ฌา พี่ชายและพี่สาวของนายบูม ในข้อหาฟอกเงินด้วย โดยเงินที่ได้จากการหลอกร่วมลงทุนนี้กระจายไปในครอบครัวเครือข่ายหลายคน ซึ่งมีเงินหมุนเวียนออกนอกประเทศแล้วกว่า 30 ล้านบาท และยึดกลับมาได้ 200 ล้านบาท โดยเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม ที่ผ่านมา บูม พร้อมด้วย บิดา-มารดา ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนที่กองบังคับการปราบปราม หลังถูกออกหมายเรียกให้เข้าให้ปากคำในคดีดังกล่าวแล้ว.
cr.instagram bxxm_jj