- 04 ก.ย. 2561
ติดตามรายละเอียด FB : DEEPS NEWS
ตามติดต่อเนื่องจากเหตุกรณีการแชร์ภาพคลิปในโลกโซเชียล ปรากฏให้เห็นภาพผู้ชายคนกับผู้หญิงคู่หนึ่ง โดยฝ่ายหญิงเรียกตัวเองว่า "แตน" ส่วนฝ่ายชายตามรายงานข่าวระบุว่ารับราชการเป็นผู้พิพากษา โดยสภาพแวดล้อมที่ปรากฎในคลิปดังกล่าวมีลักษณะของการทะเลาะเบาะแว้งของบุคคลทั้งสอง และค่อนข้างชัดเจนว่าเป็นทางด้านฝ่ายหญิงที่ปฏิเสธจะคืนดี แม้ว่าอีกฝ่ายจะอ้างว่ามีคลิปสัมพันธ์รักมาข่มขู่ให้ยินยอมก็ตาม และที่สำคัญรายละเอียดดังกล่าวได้มีการนำลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางโพงพาง
ทั้งนี้ คลิปดังกล่าวเริ่มต้นจากภาพฝ่ายชายนั่งคุกเข่าอยู่บริเวณลานจอดรถ ระบุเหตุถึงการเข้ามาพบกับฝ่ายหญิงในลักษณะงอนง้อสุดขีด แต่กลับถูกปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใยจากคำพูดที่สื่อให้เห็นถึงความเหลืออดกับพฤติกรรรมของฝ่ายชาย ถึงขั้นเอ่ยปากว่าไม่ต้องการเรียกร้องอะไรใด ๆ ทั้งสิ้น ยกเว้นอิสรภาพและการหลุดพ้นจากการถูกกดดันให้จำต้องอยู่ภายใต้การกดขี่ ข่มเหงในทุกรูปแบบ
ขณะที่ฝ่ายชายเลือกจะใช้วิธีการกดดันฝ่ายหญิง โดยการอ้างถึงคลิปภาพการอยู่ด้วยกัน ไม่ต่างอะไรกับการแบล็คเมล์ให้ยอมคืนดี ทำให้ "แตน" ผู้หญิงที่ถูกกระทำเกิดอารมณ์โมโหและต่อว่ากลับด้วยถ้อยคำรุนแรง ยืนยันว่าจะอย่างไรก็ไม่มีทางกลับไปใช้ชีวิตร่วมกับฝ่ายชายได้อีกต่อไป จุดสำคัญในตอนท้ายของคลิปยังแสดงให้เห็นว่ามีความพยายามใช้กำลังในการฉุดลากผู้หญิง แม้ว่าจะมีผู้พบเห็นพยายามห้ามปรามแล้วก็ตาม
อย่างไรก็ตาม โลกโซเชียลต่างวิพากษ์วิจารณ์พฤติกรรมของชายคนดังกล่าวอย่างมากมาย โดยเฉพาะเมื่อรายงานข่าวอ้างว่าเป็นถึงผู้พิพากษา แต่กลับมีท่าทีไม่เหมาะสม รวมถึงมีการพูดถึงคลิปความสัมพันธ์เก่าที่ถ่ายไว้ด้วย อีกทั้งสถานที่เกิดเหตุยังเป็นที่สาธารณะและมีผู้คนร่วมอยู่ในเหตุการณ์เป็นจำนวนมาก
ล่าสุดกรณีดังกล่าว ทางด้าน ทนายรัชพล ศิริสาคร ประธานชมรมสนับสนุนการต่อสู้เพื่อความยุติธรรม ได้แสดงความเห็นว่า "จริงๆแล้วสำหรับหลักการปฏิบัติตัวของผู้พิพากษาจะมีพ.ร.บ.ข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม พ.ศ. 2543 คอยดูแลความประพฤติของท่านผู้พิพากษา เป็นระเบียบว่าด้วยข้อห้ามการทำกิจการใด ๆ ที่เสื่อมเสียถึงเกียรติศักดิ์แห่งตำแหน่งหน้าที่ข้าราชการ
รวมถึงไม่ให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ได้ว่าเป็นผู้ประพฤติชั่ว ตลอดจนการกระทำความผิดที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา ซึ่งกรณีดังกล่าวที่มีการพูดถึงคลิปลับและฝ่ายชายได้พูดขู่ถึงคลิปลับ ส่วนตัวมองว่าเข้าข่ายการประพฤติผิดทางอาญาว่าด้วยการกรรโชก รีดเอาทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 338 และอาจเข้าข่ายความผิดว่าด้วยการทำให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญอีกด้วย
อย่างไรก็ตามกับเคสดังกล่าวก็อยู่ในการวินิจฉัยของคณะกรรมการตุลาการ หรือ กต.เป็นผู้พิจารณาว่าจะลงโทษทางวินัยสถานใด ทั้งการไล่ออก ปลดออก ลดเลื่อนตำแหน่ง ลดเลื่อนเงินเดือน และการภาคทัณฑ์
ขณะที่ประมวลจริยธรรมข้าราชการตุลาการ หมวด 5 จริยธรรมเกี่ยวกับการดำรงตน ข้อ 35 มีข้อความปรากฎดังนี้ ผู้พิพากษาจักต้องเคารพและปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด อยู่ในกรอบของศีลธรรม และพึงมีความสันโดษ ครองตน อย่างเรียบง่าย สุภาพ สํารวม กิริยามารยาท มีอัธยาศัย ยึดถือ จริยธรรมและประเพณีอันดีงามของตุลาการ ทั้งพึงวางตนให้เป็นที่ เชื่อถือศรัทธาของบุคคลท่วไป
ส่วน พระราชบัญญัติ ระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม พ.ศ. 2543 มีสาระสำคัญดังนี้
มาตรา 60 ข้าราชการตุลาการต้องรักษาชื่อเสียงมิให้ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่ว ห้ามมิให้ประพฤติตนเป็นคนเสเพล มีหนี้สินรุงรัง เสพของมึนเมาจนไม่สามารถ ครองสติได้ เล่นการพนันเป็นอาจิณ กระทำความผิดอาญา หรือกระทำการอื่นใดซึ่งความประพฤติ หรือการกระทำดังกล่าวอาจทำให้เสียเกียรติศักดิ์แห่งตำแหน่งหน้าที่ราชการ
มาตรา 61 ข้าราชการตุลาการต้องสุภาพเรียบร้อยและช่วยเหลือซึ่งกันและกันใน หน้าที่ราชการ ห้ามมิให้ดูหมิ่นเหยียดหยามบุคคลใด ๆ
มาตรา 62 ข้าราชการตุลาการต้องถือและปฏิบัติตามระเบียบแบบแผนและ ประเพณีปฏิบัติของทางราชการ และจริยธรรมของข้าราชการตุลาการตามที่ ก.ต. กำหนด