- 05 ก.ย. 2561
สืบเนื่องจากกรณีข่าวโด่งดังของนายสุรสิทธิ์ พละศักดิ์ ชายพิการที่อ้างตัวเป็นฤาษีตาไฟ ทำการข่มขืนหญิงสาว วัย 17 ปี โดยมีผู้ปกครองของเด็กหญิงรายหนึ่งเดินทางเข้าแจ้งความ กับร.ต.ท.หญิง ศิรินทรา บุญธรรม พนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ
สืบเนื่องจากกรณีข่าวโด่งดังของนายสุรสิทธิ์ พละศักดิ์ ชายพิการที่อ้างตัวเป็นฤาษีตาไฟ ทำการข่มขืนหญิงสาว วัย 17 ปี โดยมีผู้ปกครองของเด็กหญิงรายหนึ่งเดินทางเข้าแจ้งความ กับร.ต.ท.หญิง ศิรินทรา บุญธรรม พนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ ว่าลูกสาวของตนนั้นถูกนายสุรสิทธิ์ ชายพิการผู้อ้างตัวเป็นฤาษีตาไฟ ข่มขืน หลังเด็กหญิงเดินทางไปสะเดาะเคราะห์ ยังรีสอร์ทแห่งหนึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่บริเวณถนนสายศรีสะเกษ - ขุขันธ์ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ซึ่งในวันเกิดเหตุเด็กหญิงให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า นายทวี ชายผู้เคยทำการสะเดาะเคราะห์กับนายสุรสิทธิ์ หรือฤาษีตาไฟ เดินทางมารับตนที่บ้านเพื่อพาไปทำพิธียังรีสอร์ต โดยบอกว่าจะใช้ระยะเวลาสะเดาะเคราะห์เป็นเวลา 2 วัน เมื่อไปถึงนายสุรสิทธิ์ชายผู้อ้างตัวเป็นฤาษีตาไฟได้ใช้คำพูดหว่านล้อมและข่มขืนเด็กหญิงถึง 4 ครั้ง
แต่ที่ทำให้กลายเป็นข่าวโด่งดังเห็นจะเป็นการที่นำตัวนายสุรสิทธิ์ชายผู้อ้างตัวเป็นฤาษีตาไฟ มายังสถานีตำรวจโดยมี นายปัญญา วงศ์เจริญ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 บ้านละทาย ต.ทาย อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมญาติพี่น้องของนายสุรสิทธิ์ได้พากันอุ้มตัว นายสุรสิทธิ์ พลศักดิ์ วัย 40 ปี ที่สภาพร่างกายป่วยพิการเป็นโรคโปลิโอ ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ตั้งแต่เกิด ขึ้นหลังมารับทราบข้อกล่าวหาพร้อมสู้คดี สร้างความสงสัยให้กับหลายคนที่ได้เห็นสภาพของนายสุรสิทธิ์ ว่าจะสามารถมีเพศสัมพันธ์หรือมีกำลังกระทำชำเราเด็กหญิงได้หรือไม่
โดยด้านนายสุรสิทธิ์ ได้ยอมรับว่าวันเกิดเหตุมีญาติของเด็กหญิงมาเชิญให้ตนไปทำพิธีสะเดาะเคราะห์ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งจริง ทั้งนายทวีชายผู้ไปรับเด็กหญิงยังมารับตนไปยังรีสอร์ตด้วย นายสุรสิทธิ์ยังกล่าวว่าที่ใช้เวลาถึง 2 วัน เนื่องจากต้องลงอักขระ เขียนคาถานาน พร้อมยืนยันว่าไม่ได้ข่มขืน เด็กหญิง ที่ร่างกายสมบูรณ์อย่างแน่นอน
ที่กระทำได้เนื่องจากเด็กหญิงมีการสมยอม ทั้งนายสุรสิทธิ์ยังบอกว่าตนได้พยายามห้ามแล้วแต่เด็กหญิงไม่ฟัง ส่วนนายทวี ผู้รับมาทำพิธีไม่ได้มีส่วนรู้เห็นเพียงแต่คอยช่วยเหลือลูกค้าผู้อยากสะเดาะเคราะห์เท่านั้น
ด้านนายปัญญา วงศ์เจริญ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 บ้านละทาย ได้ให้ความคิดเห็นต่อเรื่องนี้ว่าตนนั้นรู้จักกับนายสุรสิทธิ์ ตั้งแต่เด็กเห็นว่าเป็นโรคโปลีโอ ตั้งแต่เกิดไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ พออายุได้ 17 ปี นายสุรสิทธิ์มีอาการคล้ายอดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านละทายที่มรณะภาพไป มาอยู่ในร่างเพื่อให้นายสุรสิทธิ์ รับเป็นร่างทรงฤาษีตาไฟ มีผู้คนศรัทธาเดินทางมาทำการสะเดาะเคราะห์ ทั้งจาก จังหวัดยโสธร จังหวัดอุบลราชธานีจังหวัดศรีสะเกษ และจังหวัดร้อยเอ็ด เดินทางมารักษาหายเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหา 2 คดี คือ พรากผู้เยาว์เด็กอายุเกิน 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปีไปจากบิดามารดา และกระทำการข่มขืนชำเราไม่ว่าจะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม ในตอนนี้นายสุรสิทธิ์ ได้ให้การปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา
อย่างไรนั้นทางสำนักข่าวทีนิวส์ได้โทรศัพท์สอบถามไปยังหมอปลา หรือนายจีระพันธ์ เพชรขาว มือปราบสัมภเวสี ในกรณีของฤาษีตาไฟ โดยหมอปลากล่าวว่าตนไม่ได้รู้จักแต่ทราบเรื่องราวของฤาษีตาไฟรายนี้จากข่าวว่ามีการกล่าวอ้างให้ประชาชนเชื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เอารูปลักษณ์อันพิการมาแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตน ให้ประชาชนเชื่อศรัทธา หมอปลายังกล่าวอีกว่าตัวฤาษีตาไฟนั้นไม่มีจริงเป็นเพียงประวัติ แถมปัจจุบันเศรษฐกิจแย่ทำให้คนหันมาประกอบอาชีพหากินกับแรงศรัทธาของคนมากขึ้น โดยหมอปลาได้เห็นเฟซบุ๊กของนายสุรสิทธิ์ ผู้อ้างตัวเป็นร่างทรงฤาษีตาไฟแล้วพบว่าเพื่อนในเฟซเห็นแต่เด็กอายุ 17 -18 เท่านั้น
ผู้สื่อข่าวได้ถามต่อว่าในความคิดของหมอปลานั้นคิดว่ามีร่างทรงของปู่ฤาษีจริงหรือไม่ซึ่งหมอปลาได้ตอบว่าในความคิดของตนนั้นไม่มีจริงอย่างแน่นอน หากเป็นปู่ฤาษีควรอยู่ในป่า ไม่สมควรใช้เทคโนโลยีหากินกับความเชื่อคน ทานอาหารหรูหราเกินฐานะที่ฤาษีนั้นจะทานได้ โดยกลุ่มคนที่หากินกับความเชื่นนั้นจะแต่งกายเลียนแบบให้เหมือนผู้ทรงศีล พร้อมย้ำว่าร่างทรงพ่อแก่ กับร่างทรงฤาษีนั้นไม่มีอยู่จริงแน่นอน
ส่วนในกรณีที่นายสุรสิทธิ์ ยอมรับว่าไม่ได้ข่มขืนแต่เด็กหญิงเป็นคนเริ่มนั้น หมอปลาให้ความคิดเห็นว่า ตัวผู้กระทำอาจมีวาจาหลอกให้เด็กหญิงคล้อยตามโน้มน้าวจิตใจจนยอมมีอะไรด้วย เพราะจากสภาพร่างกายของนายสุรสิทธิ์ หมอปลาเชื่อว่าไม่สามารถใช้กำลังได้ และที่ตัวเด็กหญิงไม่ขัดขืนอาจเป็นการขู่อะไรบางอย่างของนายสุรสิทธิ์ ที่ทำให้เด็กหญิงกลัวนั่นเอง
อย่างไรก็ตามสามารถฟังบทสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์คลิปเต็มได้ในลิ้งค์ข่าว