- 13 ก.ย. 2561
ด.ช.10 ขวบ อาศัยบ้านซอมซ่อ ดูแลพ่อพิการ ซ้ำปู่ป่วย-ย่าแก่ตัวหูตึง ต้องแกะเมล็ดข้าวโพดแลกเงินจุนเจือ 4 ชีวิต
เป็นเรื่องราวที่สร้างความสะเทือนใจและทำให้น้ำตาคลอเลยทีเดียว เมื่อเพจเฟซบุ๊ก อุตรดิตถ์ 24 ชั่วโมง ได้แชร์ชีวิตของน้องอาร์ท หรือ ด.ช.อนุชา บุญไทย อายุ 10 ขวบ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนวัดคุ้งยาง ต.บ้านด่าน อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ อาศัยอยู่ในบ้านไม้หลังเก่าอันทรุดโทรม คอยดูแลพ่อที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน ต้องตัดขา 1 ข้าง, ปู่ ที่ป่วยโรคเบาหวาน และย่า ที่แก่ชรา มีอาการหูตึง
โดยทุกเย็นหลังเลิกเรียน น้องอาร์ท จะกลับมาช่วยย่าแกะเมล็ดข้าวโพด เป็นข้าวโพดจากไร่ของเพื่อนบ้านที่เหลือทิ้ง แล้วแกะเอาเมล็ดไปขายให้พ่อค้ากิโลกรัมละ 4.50 บาท ได้ครั้งละ 40-50 กิโลกรัม หลังจากนั้นน้องอาร์ทจะออกไปวางตาข่ายดักปลาเพื่อนำมาให้ย่าทำกับข้าว
นางรวย บุญไทย ย่าของน้องอาร์ท เล่าว่า พ่อแม่ของน้องอาร์ทแยกทางกัน ก่อนหน้านี้ ลูกชาย ซึ่งเป็นพ่อของน้องอาร์ท เป็นเสาหลักของครอบครัว แต่เมื่อล้มป่วยก็กลายเป็นคนพิการ ทำงานหนักไม่ได้ ส่วน นายเฉลย บุญไทย สามีของตน ปู่ของน้องอาร์ท ก็ล้มป่วย ส่วนตนหูไม่ค่อยได้ยินแต่ทำงานได้ หากมีใครจ้างก็ไป
"โชคดีที่มีหลานชาย คอยช่วยแบ่งเบาภาระครอบครัว ไม่ดื้อ เขาจะดูแลพ่อเป็นอย่างดี เช็คตัว ทาแป้ง นำกระโถนของเสียต่างๆ ไปเททิ้ง ทำความสะอาด จากนั้นจะช่วยย่ารวย แกะเมล็ดข้าวโพดนำไปขาย หาปลาเก็บผักเป็นอาหาร เป็นคนประหยัด รู้ว่าครอบครัวยากจนไม่เคยเรียกร้องขอสิ่งใด แม้กระทั่งร้องเท้าใส่ไปโรงเรียน จะขาด เก่าขนาดไหนก็ไม่เคยบ่น ปัจจุบันรายได้หลักมาจากเงินเบี้ยยังชีพ 2 ปู่ย่า 1,200 บาท/เดือน อยากให้ลูกชายมีขาเทียมก็จะทำงานช่วยเหลือตัวเองได้บ้าง ไม่เป็นภาระ ตนเองหากมีอุปกรณ์เครื่องช่วยฟังคนหูตึง คงจะทำงานได้คล่องตัว อยากให้หลานชายได้รับโอกาสด้านการศึกษา เรียนหนังสือให้เต็มที่ เขาจะได้ช่วยเหลือตัวเองได้ เป็นห่วงหลานมากๆ" ย่ารวย กล่าว
อย่างไรก็ตาม หากผู้ใดประสงค์ต้องการช่วยเหลือครอบครัวน้องอาร์ท สามารถโอนเงินบริจาคที่ธนาคารกรุงไทย สาขาอุตรดิตถ์ ชื่อบัญชี นางรวย บุญไทย เลขที่บัญชี 510-3-02457-8 หรือบริจาคขาเทียม อุปกรณ์เครื่องช่วยฟังคนหูตึง และอุปกรณ์การเรียน.