เพจดังยืนยัน "สาวโพสต์อาบน้ำลดไข้ลูก" ช่วยได้จริงวิธีง่ายๆ ก่อนลูกน้อยเสี่ยงชัก

 

    กลายเป็นกระแสวิพากษ์ วิจารณ์ไปทั่วโลกออนไลน์เมื่อหญิงรายหนึ่งใช้วิธีการอาบน้ำลดไข้ลูกของเธอจนเสียงแตกออกเป็น 2 ด้าน ว่าแท้จริงแล้ววิธีนี้ควรทำในเด็กเล็กจริงหรือไม่และผลที่ได้จะช่วยให้ไข้ที่ขึ้นสูงลดลงอย่างที่คุณแม่รายนี้กล่าวไว้หรือไม่ โดยผู้ใช้เฟซบุ๊ก แม่อุ้ม เวียร์ บำรุงสายตา ได้ออกมาโพสต์ไว้ในเฟซบุ๊กส่วนตัวของเธอระบุว่า ช่วงนี้เห็นเหล่าเด็กๆ เป็นไข้หวัดกันเยอะ จึงอยากออกมาแชร์วิธีการลดไข้ในเด็กเล็กอย่างง่ายโดยในภาพเป็นรูปของลูกชายเธอ ในตอนนั้นมีไข้สูงถึง 39 - 40 องศา ส่วนวิธีที่เธอใช้นั้นคือการจับลูกชายอาบน้ำ โดยการราดน้ำลงศีรษะเด็กก่อนเหมือนเป็นการสระผมพร้อมกับขยี้ให้ความร้อนคลาย ทำเช่นนี้ซัก 1 นาที ไข้หวัดก็จะลดจากนั้นให้เช็ดตัวตามปกติ และบอกว่าไม่ต้องกลัวเพราะวิธีนี้คุณหมอแนะนำหากไม่ทำลูกชายเธออาจช็อคได้

 

 

 

 

     อย่างไรก็ตามทางเพจดัง Drama-addict ได้ออกมาไขข้อข้องใจว่าวิธีการของคุณแม่ท่านนี้นั้นถูกต้องหรือไม่โดยระบุว่า มีคนส่งโพสต์ของคุณแม่ท่านนี้มาถามว่า วิธีที่คุณแม่เขาใช้ลดไข้ให้ลูกมันถูกต้องมั้ยเนี่ย ก็ตามนั้นเลยครับ ถูกต้องเลย ไม่ใช่แค่เช็ดตัวเท่านั้น ถ้าไข้สูง จับลูกอาบน้ำเลยครับ อาบให้เปียกทั้งตัวเลย ไข้ลงแน่ ไม่ต้องกลัวลูกหนาวนะครับ กลัวลูกชักเพราะไข้สูงดีกว่า แล้วไม่ต้องรอให้พยาบาลมาเช็ดตัวให้นะครับเรื่องแบบนี้คนที่ใกล้ตัวลูกที่สุด นั่นคือพ่อแม่ ทำเองได้เลย และทำได้ไวและใกล้ชิดยิ่งกว่าพยาบาลเยอะ

 

 

 

 

      นอกจากนี้ยังมีทริคเกี่ยวกับการเช็ดตัว พ่อแม่บางคนเวลาเช็ดตัวจะทำแบบเบาๆ เอาผ้าค่อยๆ ถูกหรือมาโปะตามตัวเด็กเฉยๆ แบบนั้นไข้ลงไม่ค่อยดีครับ ไม่เวิร์ค ให้ถูตัวเด็กแรงๆ เลยเอาให้ผิวขึ้นเป็นสีแดงเลยแบบนั้นจะช่วยให้เส้นเลือดฝอยตรงผิวหนังขยายตัว แล้วจะลดไข้ได้โคตรดีครับไม่ต้องกลัวลูกแสบผิวนะ เช็ดๆ ไปแรงๆ ส่วนอุณหภูมิของน้ำที่ใช้ ถ้าไข้สูงมาก ใช้น้ำอุ่นนิดหน่อยได้ถ้าไข้ไม่สูง ก็ใช้น้ำธรรมดาที่อุณหภูมิห้องห้ามใช้น้ำเย็น หรือใส่น้ำแข็งเด็ดขาด เพราะการเช็ดตัวหรืออาบด้วยน้ำที่เย็นจัดมันจะทำให้เส้นเลือดที่ผิวหนังหดตัว แล้วจะไม่เกิดการถ่ายเทความร้อนออกนอกร่างกายตรงผิวอาจจะเย็น แต่ข้างในตัวเด็กจะร้อนจี๋เลย แล้วจะชักได้
 

      โดยเรื่องการอาบน้ำลดไข้เด็กนี้ได้รับการยืนยันจาก พญ.วนิดา พิสิษฐ์กุล ทางเว็บไซต์ของโรงพยาบาลธนบุรี 2 กล่าวว่า ไข้ในเด็กเกิดได้หลายสาเหตุแต่ส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัส ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีอันตรายอะไร นอกจากไข้จะสูงมากหรือเป็นกลุ่มไวรัสที่รุนแรงเช่นไข้หวัดใหญ่ ไข้สมองอักเสบ ไข้เลือดออกโดยทั่วไปไข้จากเชื้อไวรัสนี้มักจะเป็นเพียง 2-3 วันเท่านั้น ดังนั้นถ้าไข้เกิน 3 วัน ควรจะพาไปพบแพทย์เพราะอาจมีโรคอื่นแทรกซ้อนหรือเป็นโรครุนแรงอื่นๆ เนื่องจากอาการเป็นไข้เป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อร่างกายในการต่อสู้กับเชื้อโรค และเป็นกระบวนการรักษาตัวเองของร่างกายตามธรรมชาติ และเป็นเพียงอาการที่เกิดขึ้นเพื่อเตือนว่าได้มีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นต่อร่างกายแต่ไม่ได้บ่งชี้ว่าเกิดจากสาเหตุอะไรหรือเป็นโรคอะไร

 

 

 

      ดังนั้นเมื่อลูกมีไข้ต้องคอยเฝ้าสังเกตอาการผิดปกติอื่นๆ ที่เกิดขึ้นกับลูกด้วย ถ้ามีไข้ร่วมกับอาการซึม ชัก ไอ หอบ เจ็บคอ เจ็บหู อุจจาระร่วง อาเจียนมากหรือปวดศีรษะมากควรจะรีบพาไปพบแพทย์โดยเร็วโดยไม่ต้องรอให้ครบ 3 วัน อาการแทรกซ้อนของไข้ที่ต้องระวัง คือ อาการชักจากไข้สูง  ในเด็กที่อายุตั้งแต่ 6 เดือนถึง 5 ปี โดยเฉพาะเด็กที่เคยมีประวัติชักจากไข้สูงหรือมีประวัติบิดามารดาพี่น้องเคยชักจากไข้สูงมาก่อน เมื่อลูกมีไข้คุณพ่อคุณแม่จะควรทำอย่างไรดี? 

 

 -  การอาบน้ำเป็นวิธีหนึ่งที่จะทำให้ไข้ลดลงได้บ้าง ดังนั้นในเด็กที่ไม่ได้ป่วยหนักจนอ่อนเพลียมากในช่วงที่เป็นไข้นี้สามารถอาบน้ำได้ แต่ควรรีบอาบรีบเช็ดตัวให้แห้ง น้ำที่ใช้อาบควรเป็นน้ำธรรมดาหรือค่อนข้างอุ่น 

 

 -  การเช็ดตัว เป็นการระบายความร้อนออกจากร่างกายได้ดี จัดเป็นวิธีลดไข้ที่ดีที่สุดและไข้จะลดได้เร็วที่สุด ถ้าทำอย่างถูกวิธี ในเด็กที่มีไข้สูง ควรให้รับประทานยาลดไข้ก่อนเริ่มเช็ดตัว โดยเฉพาะในเด็กที่เคยชักเมื่อมีไข้ให้รีบเช็ดตัวเพื่อให้ไข้ลดลงเร็วที่สุดเพราะเด็กอาจชักได้ เด็กเหล่านี้ต้องใช้เวลาเช็ดตัวนานกว่าปกติและเช็ดจนแน่ใจว่าไข้ลดจริงๆ น้ำที่ใช้เช็ดตัวควรเป็นน้ำธรรมดาหรือน้ำอุ่นเล็กน้อย โดยน้ำอุ่น จะทำหน้าที่คล้ายเหงื่อ เมื่อเราเอามาเช็ดตัวลูก ก็จะระเหยพาความร้อนไปด้วย น้ำอุ่นช่วยให้เส้นเลือดฝอยใต้ผิวหนังขยายตัวได้ดี เลือดสามารถไหลมาสู่ผิวได้ดี เป็นการนำความร้อนจากภายในร่างกายมาสู่ผิวได้ดีขึ้น น้ำอุ่นไม่ทำให้ลูกรู้สึกถึงความแตกต่างของอุณหภูมิขณะเช็ดตัวมากเกินไป ไม่สะดุ้ง ไม่ผวา กล้ามเนื้อไม่สั่น

 

 - อาหารและเครื่องดื่มให้ดื่มน้ำ หรือเครื่องดื่มประเภทน้ำหวาน น้ำผลไม้ให้มากขึ้นเพื่อชดเชยการขาดน้ำที่เสียไปจากการมีไข้เด็กมักจะดื่มได้ครั้งละน้อยๆ จึงควรให้ดื่มบ่อยๆ 

 

 - ไม่ควรสวมเสื้อผ้าและห่มผ้าหนาจนเกินไปความร้อนจะระบายออกจากตัวเด็กไม่ได้ไข้จะยิ่งสูงขึ้น 

 

 - นอนในที่ที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก ถ้าอากาศร้อนมากจะเปิดพัดลมหรือเปิดเครื่องปรับอากาศก็ได้ แต่ไม่ควรเปิดพัดลมจ่อที่ตัวเด็กและอย่าเปิดเครื่องปรับอากาศเย็นจนเกินไป

 

 - การใช้ยาลดไข้ ในกรณีที่ไข้สูงเกิน 37.8°C ควรให้รับประทานยาลดไข้ได้แก่ พาราเซตามอล   ไม่ควรใช้ยาลดไข้ติดต่อกันเกิน 3 วัน ควรพาไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุไข้  

 

    นี่คือวิธีข้างต้นที่ พญ.วนิดา พิสิษฐ์กุล  แนะนำให้เหล่าแม่ๆ ได้รู้ถึงการลดไข้อย่างง่ายเพื่อให้ลูกน้อยนั้นปลอดภัยที่สุดไม่เสี่ยงอยู่ในภาวะช็อคจนชักได้

 

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก  thonburi2 ,  Drama-addict