เริ่มเคาท์ดาวน์ ค่ำคืนแห่งความทรงพลังรอบปี ถอดความสำคัญ "วันไหว้พระจันทร์" เผยวิธีไหว้ถูกหลักเสริมดวงความรัก

    เทศกาลวันไหว้พระจันทร์ เป็นอีกหนึ่งเทศกาลสำคัญของชาวจีน ด้วยเป็นวัฒนธรรมที่ยึดถือปฏิบัติกันมาช้านานรองจากเทศกาลตรุษจีน เป็นการเฉลิมฉลองการเก็บเกี่ยว ซึ่งตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 8 ของตามปฏิทินจันทรคติหรืออยู่ในช่วงเดือน ก.ย.-ต.ค. ชาวจีนจึงเรียกว่า "จงชิว" (Zhong Qiu) แปลว่า กลางฤดูใบไม้ร่วง ในบางประเทศจะจัดขึ้นเป็นประเพณีใหญ่มีการเฉลิมฉลองด้วยโคมไฟหลากสีหรือบางแห่งอาจมีการเชิดมังกร แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นแหล่งกำเนิดของความเชื่ออาจแตกต่างกันไปในแต่ละท้องถิ่น

 

 

    

 

    และในปี 2561 นี้ ตรงกับวันที่ 24 กันยายน นอกจากนี้ หมอช้าง ทศพร ศรีตุลา ยังกล่าวว่าเป็นวันที่พระจันทร์สวยและทรงพลังมากที่สุดในรอบปี เพราะนอกจากเป็นวันไหว้เพื่อเฉลิมฉลองแล้ว ยังตรงกับวันเกิดของเทพบุพเพสันนิวาส ซึ่งเป็นเทพแห่งความรักของชาวจีนด้วย พร้อมแนะนำวิธีการไหว้พระจันทร์ ที่ถูกต้องเพื่อขอพรด้านความรักทุกรูปแบบทั้ง ความรักจากคู่ครอง ครอบครัวหรือจากเจ้านายลูกค้า

 

 

 

     โอกาสนี้สำนักข่าวทีนิวส์จะพาไปรู้จักถึงประวัติความเป็นมาของเทศกาล ตลอดจนตำนานเล่าขานที่ชวนพิสมัยให้ทุกท่านได้รับชมกันอีกครั้ง

  

 

    ย้อนกลับไปสมัยโบราณกาล เชื่อกันว่าโลกของเราอยู่ท่ามกลางดวงอาทิตย์กว่า 10 ดวง ทำให้โลกมนุษย์มีแต่ภัยพิบัติ แผ่นดินระอุเต็มไปด้วยความแร้นแค้นน้ำเหือดแห้งผู้คนประสบความยากลำบากยิ่ง ทว่าได้ปรากฏวีรบุรุษนามว่า "โฮ่วอี้" ผู้เกิดมาพร้อมพรสวรรค์ในการแผลงศรยิงธนูได้อย่างแม่นยำ เมื่อเขายิงธนูขึ้นสู่ท้องฟ้าดวงอาทิตย์ทั้ง 9 ดวง ก็มลายหายไปสิ้น เหลือไว้เพียงความสมดุลของธรรมชาติเพียงดวงเดียว ความสงบสุขแผ่ไพศาลโดยทั่วกัน ต่อมาจากวีรบุรุษจึงได้รับการยกย่องเป็นกษัตริย์ทว่าอำนาจช่างเป็นเรื่องที่หอมหวานยิ่งนัก

 

    โฮ่วอี้ กลับกลายเป็นผู้ลุแกอำนาจ ลุ่มหลงในสุราเคล้านารี นิยมการรบราฆ่าฟัน สั่งประหารราษฎรของตนไม่เว้นแต่ละวัน ความแค้นเริ่มก่อตัวในหมู่อาณาประชาราษฎร์ เมื่อโฮ่วอี้รู้ดังนั้นจึงเดินทางไปที่ภูเขาคุนหลุน เพื่อขอยาอายุวัฒนะจากเจ้าแม่หวังหมู่มากิน ทว่า ฉางเอ๋อ ผู้เป็นภรรยากลัวว่า ถ้าสามีของนางมีอายุยืนนาน อาจจะนำพาเอาความเดือดร้อนมาสู่ประชาชนต่อไปในภายภาคหน้า ดังนั้นนางจึงตัดสินใจแอบขโมยยาอายุวัฒนะนั้นมากินเสียเอง ทันใดนั้น ร่างของฉางเอ๋อก็ลอยขึ้นไปสู่ดวงจันทร์ นับแต่นั้นมาบนดวงจันทร์ก็ปรากฏภาพเทพธิดาที่เชื่อกันว่าเป็นฉางเอ๋อผู้นี้นั่นเอง

 

 

    ในเวลาต่อมาชาวจีนจึงให้พระจันทร์เป็นสัญลักษณ์ของความสวยงาม เป็นสื่อกลางของความคิดถึงคนรัก นอกจากนี้ ชาวจีนยังถือว่า วันไหว้พระจันทร์ เป็นวันที่ครอบครัวจะอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา และได้ชมดวงจันทร์พร้อมหน้ากัน ท่ามกลางค่ำคืนที่ดวงจันทร์เต็มดวงส่องแสงสุกสกาว พิธีจะเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ สถานที่ไหว้พระจันทร์อาจเป็นลานบ้านหรือดาดฟ้าก็ได้ พิธีจะดำเนินไปจนถึง 4-5 ทุ่ม

 

 

 

 

เครื่องบวงสรวงที่ใช้ประกอบพิธีจะมีความคล้ายกับการไหว้เจ้าทั่วไป คือ 
- ธูป 3 - 5 ดอก เทียน กระถางธูป 
- กระดาษเงิน กระดาษทอง
- ดอกไม้สด 1 คู่
- น้ำชา 
- น้ำบริสุทธิ์
- ผลไม้ต่างๆ  ที่มีชื่อและมีความหมายเป็นสิริมงคล และที่ขาดไม่ได้คือขนมไหว้พระจันทร์ 
    

 

    ภายหลังเสร็จพิธีทุกคนในครอบครัวจะตั้งวงแบ่งกันกินขนมไหว้พระจันทร์ โดยขนมต้องนำมาหั่นแบ่งให้เท่ากับจำนวนคนในครอบครัว ห้ามเกินหรือขาดเหตุที่ขนมไหว้พระจันทร์ มีสัณฐานกลมคล้ายขนมเค้กนั้น เพราะเป็นการสะท้อนโดยนัยว่า เป็นความสามัคคีในครอบครัว แต่ในปัจจุบันได้มีการดัดแปลงตามสมัยนิยมเพื่อให้รับประทานได้ง่ายขึ้นด้วยรสชาติ ที่หลากหลาย เช่น ช็อคโกแลต ครีมคัสตาร์ด เป็นต้น

 

 

 

     

 

    ในอดีตชาวจีนที่เป็นผู้ชายจะไม่นิยมไหว้พระจันทร์เนื่องด้วย เชื่อว่าพระจันทร์ถือเป็นหยินซึ่งเป็นธาตุของผู้หญิง ผู้ชายถือเป็นหยาง ดังนั้นจึงให้แต่ผู้หญิงเป็นคนไหว้เท่านั้นแต่ปัจจุบันชาวจีนทั้งผู้หญิงและผู้ชายก็สามารถไหว้พระจันทร์ได้เช่นกัน แต่มักให้ผู้หญิงเป็นคนไหว้คนแรก 

 

    แต่สำคัญที่สุดเหล่านี้ล้วนคือกุศโลบายทำให้สมาชิกในครอบครัวและเครือญาติได้มาอยู่พร้อมหน้ากัน อย่างน้อยปีละครั้งนอกจากนี้ยังจะได้รับประทานอาหารพร้อมหน้ากันภายใต้พระจันทร์เต็มดวง นับได้ว่าเป็นเทศกาลที่มีคุณค่าแก่การสืบทอดและเผยแพร่สู่ชนรุ่นหลังต่อไป

 

ขอบคุณ : หมอช้าง ทศพร ศรีตุลา