“บิ๊กตู่" เมินตั้ง“พรรคเพื่อชาติ” แนะ ปชช.ต้องรู้ทันนักการเมือง  โยน กกต. ดูหลัง พท. แห่พบ "ทักษิณ"

“บิ๊กตู่" เมินตั้ง“พรรคเพื่อชาติ” แนะ ปชช.ต้องรู้ทันนักการเมือง  โยน กกต. ดู หลัง พท. แห่พบ "ทักษิณ"

 

“บิ๊กตู่" เมินเครือข่ายทักษิณตั้ง“พรรคเพื่อชาติ” แนะประชาชนต้องรู้ทันคำพูดนักการเมือง  โยน กกต. ดู หลังเพื่อไทยแห่พบ "ทักษิณ" บอก "ไม่มีใครไปรับรองได้ว่าผิดหรือถูก แต่มันเป็นเรื่องของความเหมาะสมและไม่เหมาะสม ควรจะกระทำหรือไม่"

 

วันนี้ (10 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.45 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกลุ่มบุคคลที่รวมตัวกันจัดตั้ง "พรรคเพื่อชาติ" ว่า ก็ตั้งไปถ้าไม่ผิดกติกา หลักเกณฑ์กฎหมายของการตั้งพรรคการเมือง ก็ดำเนินการไป ขอให้ประชาชนได้ติดตาม ไม่ว่าใครจะพูดอะไรต่างๆ ก็ตาม ขอให้ประชาชนได้เรียนรู้ ซึ่งตนเคยเตือนแล้วว่า เวลาใครจะพูดอะไรต่างๆ อะไรที่มันดูเหมือนดี ดูเหมือนได้ประโยชน์ ประชาชนต้องไปค้นหาความจริง และข้อเท็จจริงด้วยว่า ทำได้จริงหรือไม่ กฎหมายว่าอย่างไร งบประมาณมาจากไหนทำนองนี้ เรื่องความจำเป็นอะไรต่างๆ

 

"มันไม่ใช่เรื่องที่ง่ายนัก เหมือนกับที่รัฐบาลนี้ทำงานมา 3-4 ปี ต้องแก้ไข ทั้งกฎหมายอะไรต่างๆ เยอะไปหมด และวันหน้าก็จะเป็นการเมืองอีกลักษณะหนึ่ง ซึ่งมีหลายฝ่ายด้วยกันทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้าน" นายกฯ ระบุ


เมื่อถามว่า การตั้งสาขาพรรคการเมืองมองเป็นการแก้เกมหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ผมไม่ได้มองว่าการเมืองคือเกม โดยพื้นฐานผมไม่ใช่นักการเมือง ผมก็พยายามศึกษาว่าการเมืองไทยเป็นอย่างไร ซึ่งผมได้พูดในห้องประชุมไปแล้วว่า หลายประเทศการเมืองคือเรื่องการบริหารราชการแผ่นดิน ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องมีการต่อสู้ ทำลายล้างกัน หรือให้ร้ายซึ่งกันจนกระทั่งทำงานกันไม่ได้ อันนี้เป็นสิ่งที่บ้านเราต้องแก้ไข ประชาชนต้องเรียนรู้ นักการเมืองต้องปรับตัว เพื่อให้เกิดการปฏิรูปอย่างแท้จริง


 

นอกจากนี้ "พล.อ.ประยุทธ์" ยังกล่าวถึงกรณีที่นักการเมืองยังคงให้ความสำคัญกับ"นายทักษิณ ชินวัตร" และ "น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" ซึ่งมีกระแสข่าวการเดินทางไปพบบุคคลทั้ง 2 ที่ฮ่องกงอย่างครึกโครมว่า ก็เป็นเรื่องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะตรวจสอบและดำเนินการว่าอะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ และไม่มีใครไปรับรองได้ว่าผิดหรือถูก แต่มันเป็นเรื่องของความเหมาะสมและไม่เหมาะสม ควรจะกระทำหรือไม่ก็แล้วแต่สิทธิที่เขาเหล่านั้นจะไปทำ แต่จะผิดหรือถูกก็เป็นเรื่องของ กกต.