เสียงเพรียกต่างแดน วิสาน้ำตาคลอป่วยอยู่อย่างลำเค็ญ จรัลนอนซมถือถุงฉี่ หวังสุดท้ายไม่กลับโดยเถ้ากระดูก

FB : DEEPS NEWS

 

จากกรณีนายสมยศ  พฤกษาเกษมสุข ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก Somyot Pruksakasemsuk โดยได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่เดินทางไปต่างประเทศ และได้พบกับวิสา คัญทัพ  ที่ประเทศเยอรมัน โดยอาการล่าสุดของวิสาหลังเดินทางออกนอกประเทศนั้น พบว่ามีอาการป่วย และต้องเจอกับสภาพอากาศที่หนาวเย็นมีความยากลำบากเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะกับค่ารักษาพยาบาลที่แพง ซึ่งเนื้อหาทั้งหมดระบุว่า

 

เสียงเพรียกต่างแดน วิสาน้ำตาคลอป่วยอยู่อย่างลำเค็ญ จรัลนอนซมถือถุงฉี่ หวังสุดท้ายไม่กลับโดยเถ้ากระดูก

 

วิสา คัญทัพ เอกอัครมหากวีและเจ้าของบทเพลงเพื่อชีวิตที่โด่งดังในตำนาน ต่อสู้กับเผด็จการมาตลอดอายุขัย เริ่มจากการเป็น ผู้นำนักศึกษารามคำแหงต่อสู้เผด็จการจนถูกลบชื่อออกจากมหาวิทยาลัย ทำให้มีการเคลื่อนไหวจนนำไปสู่การเรียกร้องรัฐธรรมนูญในปี 2516 ถูกจับกุมเป็นหนึ่งใน 13 กบถที่กลายเป็นการลุกขึ้นสู้ครั้งใหญ่ของประชาชน14 ตุลาคม 2516 เมื่อเผด็จการหวนกลับมาในปี 2519 วิสา คัญทัพเข้าป่าแต่งเพลงสู้กับเผด็จการ ถึงพฤษภาทมิฬ 35 และ พฤษภาเลือด 2553 ต้องหลบลี้หนีภัยไปต่างแดนในวัย 69ปีด้วยสังขารกำลังร่วงโรยเต็มทน

 

เสียงเพรียกต่างแดน วิสาน้ำตาคลอป่วยอยู่อย่างลำเค็ญ จรัลนอนซมถือถุงฉี่ หวังสุดท้ายไม่กลับโดยเถ้ากระดูก

 

 

 

ผมพบกับวิสา คัญทัพ เมื่อวันที่ 8 ตค.61ที่เมืองโคโลนเยอรมัน วิสา ผอมซูบลงถนัดตาเห็น เดินอย่างเชื่องช้า ใบหน้าสั่นคลอนไปมา ผมจับมือวิสา คัญทัพ แต่มือของเขาสั่นเทา ไม่ใช่เพราะความหนาวแต่เป็นด้วยอาการของโรค พากินสัน ที่เกิดกับเขาเมื่อต้องไปใช้ชีวิตลำเค็ญต่างแดนในเมืองอันหนาวเหน็บ เขาใช้เวลาทั้งหมดอยู่ภายในบ้านกับภรรยา ไพจิตร อักษรณรงค์ ไม่ได้ออกไปไหนเพื่อรอคอยสถานภาพผู้ลี้ภัย จนบัดนี้เขาออกจากบ้านได้ แต่ทว่า ความชราและพากินสันกลับทำให้เขาต้องอยู่แต่ภายในบ้านอพาร์ตเมนต์สี่เหลี่ยมอุดอู้

 

เสียงเพรียกต่างแดน วิสาน้ำตาคลอป่วยอยู่อย่างลำเค็ญ จรัลนอนซมถือถุงฉี่ หวังสุดท้ายไม่กลับโดยเถ้ากระดูก

 

วิสา บอกกับผมด้วยเสียงสั่นเทา น้ำตาคลอเบ้า “ค่ารักษาพยาบาลที่นี่แพงมหาศาลเลย ผมแก่แล้ว ภาษาอังกฤษและเยอรมันพูดไม่ได้เลย อยู่ในสังคมต่างแดนมันโหดร้ายมาก จะเริ่มเรียนก็ไม่ได้ ไม่ใช่คนหนุ่มสาว เหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป “ ผมจับมือวิสา ให้ความมั่นใจกับเขาว่า บรรดานักต่อสู้ประชาธิปไตยในเมืองไทย ยังไม่ลืมเขา และจะต้องนำ วิสา คัญทัพและพวก กลับประเทศไทยให้ได้

 

เสียงเพรียกต่างแดน วิสาน้ำตาคลอป่วยอยู่อย่างลำเค็ญ จรัลนอนซมถือถุงฉี่ หวังสุดท้ายไม่กลับโดยเถ้ากระดูก

 

 

 

ผมมาถึงเมืองไทยเมื่อคืน ตอนเช้านี้เป็นวันที่ 14 ตุลาคม 2561 ผมกำลังไปธรรมศาสตร์รำลึก 14 ตค. ผมนึกถึงวิสา คัญทัพ กับบทกวีที่ว่า “ไม่มีอำนาจใดในโลกหล้า ผู้ปกครองต่างมาแล้วสาบสูญ ไม่มีใครล้ำเลิศน่าเทิดทูน ประชาชน สมบูรณ์นิรันด์ไป”

 

เสียงเพรียกต่างแดน วิสาน้ำตาคลอป่วยอยู่อย่างลำเค็ญ จรัลนอนซมถือถุงฉี่ หวังสุดท้ายไม่กลับโดยเถ้ากระดูก

 

หลายคนกำลังเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งที่เป็นธรรม ผมนึกอยู่ในใจว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จะมีความหมายที่เป็นประชาธิปไตยได้อย่างไรเล่า? ในเมื่อ คนอย่างวิสา คัญทัพ จรัล ดิษฐาอภิชัย และ สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ผลผลิตโดยตรงของ 14 ตุลาคม 16 ยังต้องหลบลี้หนีภัยไปต่างแดน (ขณะที่เขียนอยู่นี้นายจรัล ยังนอนซม ถือถุงเยี่ยว ส่วนนายสมศักดิ์ กำลังฟื้นฟูร่างกายในโรงพยาบาล)เช่นเดียวกับทอม ดันดี ยังถูกตีตรวนหลังกรงขังจนแทบจะเป็นบ้าอยู่แล้ว มันจะเป็นการเลือกตั้งที่เที่ยงธรรมได้อย่างไรในเมื่อเส้นทางสู่การเลือกตั้งยังเหยียบย่ำเสรีภาพของคนไทยและเหยียบทับผู้ลี้ภัยและนักโทษการเมืองนับร้อยคนอยู่ใต้ทางเดินบนถนนสู่การเลือกตั้งที่พรรคการเมืองกระดี๋กระด๋าขอส่วนแบ่งอำนาจ แต่ทว่ากำลังลืมพรรคพวกที่ถูกเผด็จการไล่ล่าทำลายล้างจนไกล้จบชีวิตไปแล้ว

 

เสียงเพรียกต่างแดน วิสาน้ำตาคลอป่วยอยู่อย่างลำเค็ญ จรัลนอนซมถือถุงฉี่ หวังสุดท้ายไม่กลับโดยเถ้ากระดูก

 

ผมจึงปรารถนาอยากเห็นพวกนักการเมืองทั้งเก่าและใหม่และทุกคนผู้รักความเป็นธรรม รักประชาธิปไตย ก่อนการเลือกตั้ง ช่วยกันต่อสู้ ให้ปลดปล่อยนักโทษการเมืองและนำผู้ลี้ภัยการเมืองกลับแผ่นดินบ้านเกิดกันก่อนเลือกตั้งจะได้ไหม ?

 

อย่าให้พวกเขาเหล่านั้นเหลือแต่ “เถ้ากระดูก”แล้วนำกลับมาเมืองไทยเพื่อฉลองการเลือกตั้งภายใต้กฎกติกาเผด็จการทหารในขณะนี้

 

เสียงเพรียกต่างแดน วิสาน้ำตาคลอป่วยอยู่อย่างลำเค็ญ จรัลนอนซมถือถุงฉี่ หวังสุดท้ายไม่กลับโดยเถ้ากระดูก

 

 

 

ขอบคุณเฟซบุ๊ก : Somyot Pruksakasemsuk