นาคี ปลุกกระแส "บั้งไฟพญานาค" คนล้นแม่น้ำโขง เปิดตำนานสัตว์ที่เลื่อมใสในพุทธศาสนา คืนนี้ลุ้นนับเลขรอ

เมื่อเวียนเข้าสู่ 15 ค่ำ เดือน 11 หรือวันออกพรรษาตามหมายกำหนดของพระพุทธศาสนา ปรากฏการณ์มหัศจรรย์ "บั้งไฟพญานาค" ก็กำลังจะอุบัติขึ้นอีกครั้ง

นาคี ปลุกกระแส \"บั้งไฟพญานาค\" คนล้นแม่น้ำโขง เปิดตำนานสัตว์ที่เลื่อมใสในพุทธศาสนา คืนนี้ลุ้นนับเลขรอ

 

    เมื่อเวียนเข้าสู่ 15 ค่ำ เดือน 11 หรือวันออกพรรษาตามหมายกำหนดของพระพุทธศาสนา ปรากฏการณ์มหัศจรรย์ "บั้งไฟพญานาค" ก็กำลังจะอุบัติขึ้นอีกครั้ง ทำให้ประชาชนมากหน้าหลายตาต่างให้ความสนใจกันอย่างคับคั่ง โดยเฉพาะ อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย โดยมีรายงานว่าในช่วงเช้าของวันที่ 24 ต.ค. 2561 มีประชาชนและนักท่องเที่ยวพากันมาจับจองพื้นที่ริมแม่น้ำโขงตั้งแต่เช้า และได้มีการเตรียมประกอบพิธีบวงสรวงบูชาพญานาคที่จะเริ่มขึ้นเย็นนี้ โดยทางเจ้าหน้าที่ได้เตรียมเครื่องบวงสรวงกองฮ่างไว้เรียบร้อยแล้ว 

 

    โดยไฮไลท์ของงานคือจะมีนางเอกชื่อดัง "ญาญ่า อุรัสยา" จากภาพยนตร์นาคี 2 มาร่วมรำบวงสรวงบูชาพญานาคชุด "รำนาคาศรัทธา" จากนั้นก็จะเข้าสู่การเฝ้ารอชมปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคที่จะผุดขึ้นจากกลางลำน้ำโขงเช่นเดียวกับทุกปีที่ผ่านมาต่อไป

 

 

นาคี ปลุกกระแส \"บั้งไฟพญานาค\" คนล้นแม่น้ำโขง เปิดตำนานสัตว์ที่เลื่อมใสในพุทธศาสนา คืนนี้ลุ้นนับเลขรอ

 

    บั้งไฟพญานาค หรือ บั้งไฟผี เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกลางแม่น้ำโขง เห็นได้จากทั้งฝั่งไทยและลาว มีลักษณะเป็นลูกไฟกลมเรืองแสงขนาดเท่าหัวแม่มือไปจนถึงผลส้ม พวยพุ่งขึ้นไปในอากาศโดยจะเกิดขึ้นในช่วงออกพรรษา สีที่พบส่วนมากจะออกแดงอมชมพู  ไม่มีควัน ไม่มีเขม่า ไม่มีเปลว ไม่มีเสียง ไม่มีกลิ่น โดยจะพุ่งขึ้นไปได้สูงถึง 50-150 เมตร เป็นเวลาประมาณ 5-10 วินาที ก่อนที่จะสลายไปในอากาศ

 

 

นาคี ปลุกกระแส \"บั้งไฟพญานาค\" คนล้นแม่น้ำโขง เปิดตำนานสัตว์ที่เลื่อมใสในพุทธศาสนา คืนนี้ลุ้นนับเลขรอ

 

    นาค หรือ พญานาค เป็นสัตว์ในความเชื่อ ของพื้นที่ในภูมิภาคเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ได้รับอิทธิพลมาจากพระพุทธศาสนา โดยเป็นงูขนาดใหญ่มีหงอน เป็นสัญลักษณ์แห่งความยิ่งใหญ่ เรื่องของพญานาคในทางพุทธศาสนาระบุว่า เดิมทีพญานาคที่อาศัยอยู่ในเมืองบาดาลนั้นมีความเป็นมิจฉาทิฐิเป็นที่ตั้ง แต่พอพระพุทธเจ้าเสด็จมาโปรดก็เกิดความเลื่อมใสในพุทธศาสนา

    มีความคิดที่จะออกบวชอยู่ใต้ร่มกาสาวพัสตร์ หากแต่มีชาติกำเนิดเป็น "สัตว์" จึงไม่สามารถเข้ารับการอุปสมบทเฉกเช่นมนุษย์ได้ ทำได้เพียงปวารณาตนเป็นพุทธมามกะเมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จขึ้นไปโปรดพระมารดาที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ จนครบ 1 พรรษา (3 เดือน) และเสด็จกลับโลกมนุษย์ในวันขึ้น15 ค่ำ เดือน 11 ด้วยบันไดแก้ว บันไดเงินและบันไดทอง ที่เหล่าเทวดาทำถวาย ส่วนมนุษย์โลกก็จะทำบุญตักบาตร นำดอกไม้ธูปเทียนไปกราบไหว้บูชา

 

    พญานาคที่อาศัยอยู่ในเมืองบาดาลแม่น้ำโขง จึงได้พ่นลูกไฟออกมาเป็นบั้งไฟพญานาค เพื่อประหนึ่งเป็นการถวายแด่พระพุทธเจ้า อันตำนานที่น่าฉงนสนเท่ห์ และสืบทอดมาเป็นประเพณีจวบจนถึงทุกวันนี้

 

    ส่วนทฤษฎีหรือคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ว่าด้วยบั้งไฟพญานาคนั้นมีอยู่หลากหลาย เช่น น.พ.มนัส กนกศิลป์ แห่งโรงพยาบาลหนองคาย วิจัยเมื่อปี 2536-2541 อธิบายว่าบั้งไฟพญานาคเกิดจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ เมื่อก๊าซร้อนคือก๊าซที่มีส่วนผสมของก๊าซมีเทนและก๊าซไนโตรเจน ระเบิดจากอินทรียวัตถุใต้ท้องน้ำหรือในดินที่เปียก โดยมีแบคทีเรียกลุ่มมีเทนฟอร์มเมอร์ซึ่งดำรงชีวิตได้ในสภาพไร้ออกซิเจน ณ ความลึกของแม่น้ำโขงและแหล่งน้ำข้างเคียง เป็นตัวช่วยผลิตก๊าซ

 

 

นาคี ปลุกกระแส \"บั้งไฟพญานาค\" คนล้นแม่น้ำโขง เปิดตำนานสัตว์ที่เลื่อมใสในพุทธศาสนา คืนนี้ลุ้นนับเลขรอ

    ความเป็นกรดและด่างของน้ำในแม่น้ำโขง ก็สอดคล้องกับระบบนิเวศน์ที่จะเกิดการหมักก๊าซมีเทน หลังจากนั้นจะได้ก๊าชมีเทนในปริมาณมากพอที่จะก่อให้เกิดความดันก๊าชในผิวทรายอย่างน้อย 1.45 เท่าของความดันบรรยากาศ

 

    เมื่อพบกับความกดดันของน้ำ ความกดดันของอากาศในตอนพลบค่ำ หล่มทรายจะไม่สามารถรับแรงดันได้ ก๊าซจะหลุดออกมาและพุ่งขึ้นเมื่อโผล่พ้นน้ำ และมีการฟุ้งกระจายไปบางส่วน เหลือแกนในของก๊าซซึ่งลอยตัวขึ้นสูง

 

    เมื่อกระทบกับอนุภาพออกซิเจนอะตอมที่มีประจุ มีพลังงานสูง จะเกิดการสันดาปอย่างรวดเร็ว กลายเป็นดวงไฟหลายสี แต่ร้อยละ 95 จะเป็นดวงไฟสีแดงอำพัน พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าแล้วหายไป และทุกตำแหน่งที่เกิดบั้งไฟพญานาคจะอยู่ในระดับ 5-13 เมตรทั้งสิ้น

 

    ส่วนเหตุผลที่ว่าปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคถเกิดขึ้นเฉพาะในคืนวันออกพรรษา น.พ.มนัส ให้เหตุผลว่าคืนดังกล่าวจะมีออกซิเจน ก๊าซที่ช่วยให้ติดไฟสูงสุดในรอบปี อันเกิดจากอิทธิพลของแรงโน้มถ่วงพลังงานรังสีของดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์และโลก ในอีกมุมหนึ่งปรากฏการณ์นี้ก็ทำให้หลายคนหันมาให้ความสำคัญกับพระพุทธศาสนามากขึ้น อย่างไรแล้ว "ศรัทธา" หรือ "ความเชื่อ" หากอยู่ในขอบเขตของความพอดีโดยที่ไม่เบียดเบียนผู้อื่น ก็ถือเป็นสิ่งที่ทรงเสน่ห์ประหนึ่งสีสันของโลกใบนี้ เช่นเดียวกับ "บั้งไฟพญานาค"

 

 

นาคี ปลุกกระแส \"บั้งไฟพญานาค\" คนล้นแม่น้ำโขง เปิดตำนานสัตว์ที่เลื่อมใสในพุทธศาสนา คืนนี้ลุ้นนับเลขรอ