จำเคสนี้ได้มั๊ย ยายวัย 87 ตาบอดลูกสาวติดคุกวอนสังคมดูแล ล่าสุดทุกข์หนักเงินบริจาค2 แสนหาย ผู้ช่วยผญบ.แจงยิบโซเชียลสงสัย

จากรณีที่ เฟซบุ๊กเพจ "นางฟ้าซาลอน" ได้โพสต์เรื่องราวที่ระบุว่า ตั้งแต่วันแรกที่ฉันมาถึงเรือนจำ จ.ระยอง แห่งนี้ ฉันได้ประกาศออกไปว่า หากผู้ต้องขังรายใดที่ยากจนมีญาติหรือผู้ปกครองที่พิการ ทุพพลภาพ หรือป่วยติดเตียง อยากให้นางฟ้าซาลอนไปเยี่ยมให้แจ้งความประสงค์มาได้ และในวันนี้ ก็มีผู้ต้องขังหญิงรายนี้อายุ 44 ปี เธอได้ มาเล่าชีวิตของเธอให้ฟัง .... และให้ช่วยไปเยี่ยมแม่ชราของเธอด้วย ทำให้มีคนในสังคมให้ความสนใจต่อเรื่องดังกล่าวอย่างมากมาย และมีผู้ใจบุญบริจาคเงินช่วยเหลือนั้น (อ่านข่าวก่อนหน้า : ไม่ได้อยู่ดูแล นักโทษสาววอนแอดมินเพจดัง ช่วยเยี่ยมแม่ชราวัย 87 สุดห่วงใช้ชีวิตลำพัง-ตามองไม่เห็น)

 

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุด เฟซบุ๊กเพจ "Red Skull" ได้อัปเดตข้อมูลของเรื่องดังกล่าวด้วยว่า...เคสนี้นางฟ้าซาลอนมาปรึกษา เนื่องจากก่อนที่นางฟ้าซาลอนจะลงมาดูเคสนี้ ยายแกมีลูกสาวคนเดียวติดอยู่ในเรือนจำ ซึ่งระหว่างนั้นยายได้ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านเป็นผู้ดูแลช่วยเหลืออยู่ โดยที่ไม่เคยมีญาติ ๆ ลูกหลานคนไหนเข้ามาดูดำดูดีเลย พอความเดือดร้อนของยายได้รับการบอกเล่าจากนางฟ้าซาลอนก็เริ่มมีหน่วยงานเข้ามา มีเงินบริจาคเข้ามา ซึ่งเงินส่วนนี้ทางลูกของยายที่อยู่ในเรือนจำกับตัวยายเองไว้ใจให้ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านคนที่ดูแลช่วยเหลือแต่แรกเป็นคนดูแล

 

 

 

ปรากฏว่าพอเรื่องราวของยายถูกถ่ายทอดออกไปมาก ๆ สิ่งของเงินทองที่ได้รับบริจาคเริ่มเยอะ บรรดาลูกหลานที่ไม่เคยโผล่หัวมาดูดำดูดีเริ่มเข้ามาแล้วกดดัน จนผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านต้องส่งมอบบัญชีเงินฝากของยายที่เคยดูแลให้กับพวกนั้นไป ล่าสุดมีจิตอาสาลงไปในพื้นที่ ปรากฏว่าจากเดิมที่เรื่องราวได้ถูกตีแผ่แรก ๆคุณภาพชีวิตของยายเริ่มดีขึ้น ปัจจุบันค่าไฟไม่ได้จ่ายค้างมา 3 เดือน เงินถูกถอนออกจากบัญชี 2 เดือน 2 แสนกว่า เหลือติดบัญชีตอนนี้สองหมื่นโดยที่ยายยังอยู่อย่างลำบากเหมือนเดิม โดยไม่รู้ว่าเงินถูกถอนไปใช้ด้วยจุดประสงค์อะไร แบบนี้หน่วยงานในพื้นที่ควรลงพื้นที่เข้าไปตรวจสอบได้ละ

 

 

 

 

โดยเพจดังยังระบุข้อมูลเพิ่มเติมอีกด้วยว่า ตอนนี้คนที่น่าสงสัยคือ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เพราะถ้าบริสุทธิ์ใจต้องบอกได้ว่าใครเอาบัตรกับสมุดบัญชีไป บ้านยาย 165/44 หมู่ 7 ต.บ้านฉาง อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ผมกับจ่าจินต์ เป็นคนที่ลงพื้นที่เมื่อวาน (4 พ.ย. 61) จากการที่ได้คุยกับยาย ยายไม่รู้เรื่องยอดเงิน หรือการถอนเงินออกจากบัญชีเลย ยายมีลูกสาวอีกหนึ่งคนที่อยู่คนละอำเภอนาน ๆ จะมาเยี่ยมทีนึง และตอนนี้มีหลานชายมาอยู่ด้วย ส่วนเรื่องเงิน ผมกับจ่าถามยายว่ารู้ไหมว่ามีคนโอนเงินบริจาคมาให้ ตอนนี้รู้ไหมว่ามียอดเท่าไหร่แล้ว ยายก็บอกไม่รู้เหมือนกัน ก็เลยขอดูสมุดบัญชี ทีแรกยายก็ยังไม่ให้ดู แล้วยายก็เล่าให้ฟังว่าถ้าจะใช้เงินก็จะไปขอจากผู้ช่วย

เพราะผู้ช่วยเป็นคนถือบัตรเอทีเอ็มไว้ คุยกันไปสักพักยายคงเริ่มไว้ใจพวกเรา เลยหยิบสมุดบัญชีมาให้ดู พอเปิดดูยอดเงินในบัญชี ซึ่งอัพเดทล่าสุด 26 ตุลาคม 2561 สรุปมียอดเงินโอนเข้ารวมทั้งสิ้น 242,008.46 บาท และก็มียอดถอนออกมา 241,120.00 บาท เหลือเงินติดบัญชี 888.46 บาท (จริง ๆ ถ้าอยู่รู้ให้ละเอียดว่ามีการเบิก ถอนวันไหน เท่าไหร่ คงต้องดูจาก Statement ซึ่งจะละเอียดกว่านี้) แล้วก็มียอดเงินสดฝากเข้าบัญชียาย 20,000 บาท ซึ่งมาถึงวันนี้ผมก็ไม่แน่ใจว่ายอด 20,000 ยังเหลืออยู่ไหม เพราะยายเล่าให้ฟังต่อว่าเพิ่งไปขอบัตรเอทีเอ็มมาเก็บไว้เอง (ตอนนี้บัตรเอทีเอ็มอยู่ที่ยายแล้ว)

 

 

 

คือเท่าที่ผมรู้บัตรเอทีเอ็ม และสมุดบัญชีอยู่ที่ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ยายแบอกว่าเพิ่งไปขอคืนมาได้ไม่กี่วันมานี้เอง ถ้าฟังจากผู้ช่วยก็บอกว่าญาติยายเป็นคนเอาไป ผมก็อยากให้ผู้ช่วย ออกมาชี้แจงว่าที่บอกว่าญาติมากดดันเอาบัตรเอทีเอ็ม กับสมุดบัญชีไป คือใคร

คนที่มาทีหลังไม่รู้ต้นสายปลายเหตุแนะนำให้ย้อนอ่านโพสต์ของนางฟ้าซาลอนก่อน อยากให้เข้าใจว่ายายตาบอด 2 ข้าง บัญชีเงินฝากเป็นของลูกสาวยายซึ่งติดคุกอยู่ สภาพของยายนั้นไม่สามารถดำเนินการอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ด้วยตัวเองแน่นอน เอาแค่ตัวยายเองยังแทบไม่ไหว เพราะฉะนั้นเรื่องนี้หน่วยงานรัฐในพื้นที่ต้องเข้าไปตรวจสอบ เงินถูกถอนจากบัตรเอทีเอ็ม ในช่วง 2 เดือนเป็นเงินกว่า 240,000 บาท ไม่ได้เกิดจากการถอนในครั้งเดียว เพราะงั้นผู้ที่จะให้คำตอบว่าใครกดเงินไป คือภาพจากวงจรปิดของธนาคาร

 

 

พร้อมกันนี้ เพจดังยังได้มีการแชร์โพสต์จากสมาชิกเฟซบุ๊กใช้ชื่อ "วิไลวรรณ พันธ์นาม" พร้อมเขียนบรรยายว่า เงินกดมาสองแสน ยายได้รับทั้งหมดจริงเหรอวะ แล้วทำไมคุณภาพชีวิตยายไม่ได้ดีขึ้น แล้วตอนแรกให้ข้อมูลอีกอย่างว่าญาติ ๆ ยายเอาเงินไปหมดคืออะไร จากตอนแรกกู 50/50 ว่ามึงไม่ได้เอาเงินยายไป ตอนนี้กูมั่นใจเกือบจะ 100% ละว่ามึงอมเงินยายแน่นอน

 

 

 

โดยโพสต์ที่ถูกแชร์นั้นมีใจความว่า ช่วยคนผิดคิดจนตัวตายสุดท้ายกูผิดเหรอวะ ข้าวทีกินแต่ละมื้อก่อนทที่จะมีเงินบริจาคเข้ามามาจากไหน ทุก ๆ อย่างทีมีใช้ก่อนมีเงินบริจาคมาจากไหน บ้านที่มีนอนทุกวันใครวิ่งเต้นให้ อยากรู้ว่าเงินยายหายไปไหนถามกันบ้างไหม ทำไมคิดว่าคนอื่นเข้าจะเลวได้ขนาดนั้น เรามีหน้าที่เบิกเงินกดเงินให้เขาเราก็ทำ เพราะยายสั่งให้กดเงินให้แล้วพวกคุณจะให้ฉันทำไง เงินของกู ยายเขาพูดถ้าเป็นพวกคุณคุณจะทำไง #กับคำว่าเงินกู# ดีแต่ว่าคนอื่นเขาถามจริง ๆ เถอะคุณรู้ความจริงกันแล้วเหรอถึงประนามว่าเรานัก

 

แค่นักข่าวเขาลงว่าถอนเงินยายครั้งเดียว สองแสนทีเดียวน่าจะรู้กันบ้างนะคุณรู้ไหมว่าบัตร ATM ของพี่จันทร์ เนี่ยกดเงินได้ครั้งวันละสองหมื่นค่ะ ข่าวก็ลงมั่ว ทำให้แต่คนอื่นเขาเสียหายพวกคุณทุกคนก็น่าจะรู้บ้างนะ เราช่วยครอบครัวนี้มากี่ปีแล้ว ไม่รู้ความจริงดีแต่ว่าคนอื่นเขาเลว ถ้าเราเลวขนาดนั้นป่านนี้ยายคงตายไปนานแล้ว เพราะไม่มีใครสนใจ ทำไมไม่ให้โอกาสเราพูดบ้างละ ฟังแต่ความข้างเดียว เพราะมานั่งสัมภาษณ์ยายถามโน่นถามนี่ มาถึงบ้านเราทำไมไม่ถามทีเดียวมาถามแค่ยาย คนเราเวลาเรื่องเงินไม่เข้าใครออกใคร แล้วเวลายายไม่มีเงินเราเอาเงินเราให้ยายใช้ไม่เห็นมีใครมาด่ามาว่าเราละ

 

 

ทั้งนี้ สำหรับโพสต์ก่อนหน้านั้นของ เพจนางฟ้าซาลอน ระบุว่า...ตั้งแต่วันแรกที่ฉันมาถึงเรือนจำ จ.ระยอง แห่งนี้ ฉันได้ประกาศออกไปว่า หากผู้ต้องขังรายใดที่ยากจนมีญาติหรือผู้ปกครองที่พิการ ทุพพลภาพ หรือป่วยติดเตียง อยากให้นางฟ้าซาลอนไปเยี่ยมให้แจ้งความประสงค์มาได้ และในวันนี้ ก็มีผู้ต้องขังหญิงรายนี้อายุ 44 ปี เธอได้ มาเล่าชีวิตของเธอให้ฟัง .... 

เธอบอกว่า..เธอยอมรับในความผิดที่เธอกระทำ แต่เธอมีแม่ที่แก่ชราอายุร่วม 90 ปี ตาบอดทั้ง 2 ข้าง อยู่คนเดียว โดยไร้ผู้เหลียวแล ไม่สามารถทำกินได้ อาศัยที่ดินวัดสร้างกระท่อมอยู่แบบไร้น้ำ ไร้ไฟฟ้า ต้องอาศัยข้าวก้นบาตรจากหลวงพ่อ ประทังชีวิต ซึ่งเธอเองเป็นคนที่ดูแลแม่ก่อนที่จะถูกดำเนินคดี เธอจึงวอนให้นางฟ้าซาลอนไปเยี่ยมแม่เธอบ้าง และเธอฝากบอกแม่เธอว่าให้รักษาสุขภาพ และให้แม่อยู่รอ พบเธออีกครั้งด้วย ฟังดูแล้วมันหดหู่มาก ๆ นางฟ้าซาลอนยินดีทำตามที่เธอร้องขอ จึงได้ออกเดินทางไปเยี่ยมแม่ของเธอหลังจากสอนเสริมสวยให้ผู้ต้องขังหญิงเสร็จ

 

เมื่อเดินทางมาถึง กระท่อมข้างวัดแห่งนี้พบคุณยายสี แสนสำอาง อายุ 87 ปี นอนอยู่ในกระท่อมเล็ก ๆ สภาพห้องสกปรกรกรุงรังในสภาพอิดโรยเพราะยายไม่สบาย และเพิ่งกลับมาจากโรงพยาบาล คุณยายบอกว่า คิดถึงลูกมาก ๆ และในทุก ๆ คืนตั้งแต่ลูกถูกดำเนินคดี ยายก็นอนแทบไม่หลับ กว่าจะหลับ ก็นอนร้องไห้จนหลับทั้งน้ำตา ยายต้องอยู่เดียวดาย โดยไร้ไฟฟ้า เพราะไม่มีเงินจ่ายค่าไฟ ที่พักพิงก็เช่าที่ดินวัด ไว้ซุกหัวนอน ค่าเช่าปีละ 500 ยังไม่มีปัญญา จ่ายค่าเช่าเลย ยายยังบอกอีกว่า จะอยู่ได้อีกนานแค่ใหน จะหมดลมหายใจไปก่อนหรือเปล่ายังไม่รู้เลย

อุปกรณ์อำนวยความสะดวกใด ๆ ก็ไม่มี ต้องคลานออกมา ก่อไฟ โดยใช้ความทรงจำเดิม ๆ จำว่าเตาอยู่ตรงไหน และบ่อยครั้งที่ถูกไฟใหม้ ตามแขน น้ำร้อนลวก เพราะตนเองมองไม่เห็น แต่โชคดีที่ยังมีหลวงพ่อ นำข้าวก้นบาตรมาให้ประทังชีวิต และยังมี คุณวิไลวรรณ หรือพี่ตุ๋ง (เสื้อสีม่วง) ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน มาคอย ดูแล แทนลูกของยาย 

 

เมื่อถามว่ายาย อยากได้อะไร สิ่งที่ยายคือ หม้อหุงข้าว แต่ หม้อหุงข้าวแบบไฟฟ้าคงใช้ไม่ได้ จึงวอน ผู้ใจบุญ ช่วยเป็น ข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม นม อาหารกระป๋อง ส่งความช่วยเหลือมาที่ คุณยายสี แสนสำอาง 165/44 หมู่7 ต.บ้านฉาง อ.บ้านฉาง จ.ระยอง 21130 เมื่อสอบถามเรื่องของบัญชี ธนาคาร ปกติ คุณยายจะมีบัญชี ของลูกสาว ที่เปิดไว้ รับ เบี้ยผู้พิการและเบี้ยผู้สูงอายุ โดยจะมีคุณวิไลวรรณ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน คอยช่วยไปกดเอทีเอ็มมาให้ยาย และช่วยควบคุมดูแลเรืองค่าใช้จ่าย
 

 

ขอบคุณ : นางฟ้าซาลอน, Red Skull