- 07 พ.ย. 2561
วันนี้ 7 พ.ย. 2561 มีรายงาน ครม.อนุมัติยกเลิกเก็บค่าธรรมเนียม "Visa On Arrival" เป็นการชั่วคราวถึงสิ้นเดือน ม.ค. 2561 เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวที่จะถึงนี้
วันนี้ 7 พ.ย. 2561 มีรายงาน ครม.อนุมัติยกเลิกเก็บค่าธรรมเนียม "Visa On Arrival" เป็นการชั่วคราวถึงสิ้นเดือน ม.ค. 2561 เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวที่จะถึงนี้
นายพุทธิพงษ์ ปุณณะกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ครม.เห็นชอบร่างกฎกระทรวงยกเลิกการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมตามมาตรา 12 (1) ประเภทนักท่องเที่ยวชนิดใช้ได้ครั้งเดียว เป็นการชั่วคราว พ.ศ. 2561 โดยมีสาระสำคัญคือยกเลิกการเก็บค่าธรรมเนียมการตรวจลงตรา ในกรณีเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อท่องเที่ยวไม่เกิน 15 วัน เฉพาะรับการตรวจลงตรา ณ ช่องทางอนุญาตของด้านตรวจคนเข้าเมือง (Visa On Arrival)
ซึ่งปกติจะมีการเก็บค่าธรรมเนียมประเภทนักท่องเที่ยว ชนิดใช้ได้ครั้งเดียว จำนวนเงิน 2,000 บาท ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 30 พ.ศ. 2559 โดยจะยกเลิกชั่วคราวเป็นเวลา 60 วันสำหรับนักท่องเที่ยว 21 ประเทศ คือ ไต้หวัน,ยูเครน,อุซเบกิสสถาน,อันดอร์รา,บัลแกเรีย,ภูฏาน,จีน,โรมาเนีย,ซานมาริโน,ซาอุดิอาระเบีย,ลิทัวเนีย,มัลดีฟส์,มอลตา,มอริเชียส,ปาปัวนิวกิเนีย,เอธิโอเปีย,ฟิจิ,อินเดีย,คาซัคสถาน,และลัตเวีย รวมถึงการจัดโปรโมชั่นต่างๆ ด้านการท่องเที่ยวอีกด้วย
นโยบายดังกล่าวอ้างอิงจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองที่เก็บข้อมูลจากสถิติผู้โดยสารที่มาขอรับการตรวจลงตราที่ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมืองพบว่าตั้งแต่ปี 2559 จำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้าประเทศไทยขอรับการตรวจลงตราลดลงอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงความนิยมการท่องเที่ยวในไทยที่อาจกระทบต่อเศรษฐกิจองค์รวมของประเทศในระยะยาวได้
สำหรับ Visa on Arrival เป็นชนิดวีซ่าที่ผู้ที่ถือพาสปอร์ตสามารถขอวีซ่าประเภทนี้ได้ทันที ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมือง โดยไม่จำเป็นที่จะต้องทำวีซ่าล่วงหน้า โดยจะได้รับวีซ่าเมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางถึงยังประเทศจุดหมายปลายทาง
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้มีการตั้งเป้าว่านักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2561 ที่จะเข้าประเทศไทยจะอยู่ที่ประมาณ 37 ล้านคน หรืออาจจะถึง 38 ล้านคน ซึ่งถ้าเป็นไปตามนี้จะสร้างรายได้มากถึง 2 แสนล้านบาท จากข้อมูลเปิดเผยว่าในช่วงครึ่งปีแรก ม.ค. - มิ.ย. 2561 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวน 19.4 ล้านคน ขยายตัว 12.46% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา สร้างรายได้รวม 1.01 ล้านล้านบาท ขยายตัว 15.88% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
ส่วนใหญ่แนวโน้มการท่องเที่ยวในปี 2561 นั้นมาจากการขับเคลื่อนด้วยปัจจัยภายนอกประเทศที่เข้ามามีอิทธิพล เช่น การท่องเที่ยวที่เชื่อมโยงกับเทคโนโลยีการสื่อสาร รวมถึงการรขับเคลื่อนภายในประเทศอย่างนโยบายการทำตลาดการท่องเที่ยวของหน่วยงานภาครัฐอาทิ การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่เน้นความเป็นวิถีไทย การท่องเที่ยวเชิงกีฬา หรือการทำตลาดการท่องเที่ยวที่เชื่อมโยงไปกับอาหาร ตรงจุดนี้ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวต้องมีการปรับกลยุทธให้สอดคล้องกับบริบทโลก และให้ทัดเทียมกับมาตรฐานสากลอยู่ตลอดเวลา
ซึ่งหากดำเนินนโยบาย ยกเลิกเก็บค่าธรรมเนียม "Visa On Arrival" ในช่วงปลายปีนี้ภาครัฐคาดว่าจะเป็นการดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศไทย ทำให้มีรายได้จากการท่องเที่ยวมากขึ้น และในเชิงตัวเลขอาจทำให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 อีกด้วย ขณะที่ทางนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาให้เรียบร้อยเพื่อสวัสดิภาพของนักท่องเที่ยวและภาพลักษณ์ของประเทศอย่างเคร่งครัด