สถานทูตไทยในปารีส แจ้งเตือน นทท. ชาวฝรั่งเศสประท้วงราคาน้ำมันพุ่งสูงขยายวงกว้าง

กลายเป็นเหตุการณ์ใหญ่ที่ประชาชนทั่วโลกให้ความสนใจในตอนนี้ หลังจากที่มีชาวฝรั่งเศสกว่า 280,000 คนร่วมเดินขบวนประท้วงตามท้องถนนทั่วฝรั่งเศส เหตุมาจากไม่พอใจที่รัฐบาลปล่อยให้ราคาน้ำมันสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สวนทางกับราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ลดลง 

 

 

โดยผู้ประท้วงได้กล่าวหาประธานาธิบดี "เอ็มมานูเอล มาครง" ผู้นำสูงสุดของฝรั่งเศสว่าไม่สนใจความทุกข์ยากของคนจน และยังมีการเรียกร้องให้ลาออกจากตำแหน่งด้วย ผู้ประท้วงกลุ่มหนึ่งได้เดินขบวนไปใกล้ทำเนียบประธานาธิบดี ซึ่งตั้งอยู่ในย่านฌองเอลิเซ่ จนตำรวจต้องใช้แก๊สน้ำตาเพื่อสลายการชุมนุม

 

จากการประท้วงที่เกิดขึ้นทั่วฝรั่งเศสทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ศพ เป็นหญิงวัย 63 ปีที่ถูกรถยนต์คันหนึ่งพุ่งชนในเขตซาวอย เนื่องจากผู้ประท้วงราว 50 คนได้ปิดถนนและโอบล้อมรถยนต์คันนี้ไว้ จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่าคนขับรถยนต์กำลังพาบุตรสาวที่ป่วยไปโรงพยาบาล แต่กลับถูกกดดันจากกลุ่มผู้ประท้วงจนเกิดความเครียดและขับรถยนต์พุ่งชนผู้ประท้วง 

 

ทั้งนี้การประท้วงยังทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 227 คน ในจำนวนนี้อาการบาดเจ็บสาหัส 7 คน ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมผู้ประท้วงที่กระทำผิดกฎหมายอีก 52 คนด้วย ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา โดยราคาน้ำมันรถยนต์ในฝรั่งเศสปรับตัวสูงขึ้นถึงร้อยละ 23 เฉลี่ยอยู่ที่ 1.51 ยูโรต่อลิตรหรือราว 55.59 บาทต่อลิตร ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่สูงที่สุดในรอบเกือบ 20 ปี เนื่องจากรัฐบาลของนายมาครง ได้ปรับเพิ่มอัตราภาษีไฮโดรคาร์บอนในน้ำมันดีเซลลิตรละ 7.6 เซนต์ และในน้ำมันเบนซินลิตรละ 3.9 เซนต์ ตามนโยบายพลังงานสะอาด และรัฐบาลยังเตรียมปรับเพิ่มอัตราภาษีดังกล่าวอีกครั้งในปีหน้า คาดว่าจะทำให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นอีก

 

 

 

 

 

 
นอกจากนี้ทางด้านกระทรวงการต่างประเทศของไทย ได้รับรายงานจากสถานทูตไทย ณ กรุงปารีส ว่า กรณีเกิดการชุมนุมประท้วงในฝรั่งเศส ทั่วประเทศในวันที่ 17 พ.ย. 61 ที่ผ่านมา ขอให้คนไทยหลีกเลี่ยงจุดที่มีการชุมนุมและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด สำหรับกรณีฉุกเฉินสามารถติดต่อ hotline สอท. ได้ที่ เบอร์ +336 46 71 96 94 และ +336 03 59 97 05

 

 

 

 

 

เหตุการณ์บานปลายจนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ 

 

 

สถานกุงสุลไทยในปารีส ประเทศฝรั่งเศส

 

 

Cr.  Twitter #giletsJaunes