- 22 พ.ย. 2561
ถือเป็นข่าวดีต้อนรับวันลอยกระทงสำหรับผู้ใช้รถยนต์และรถจักรยานยนต์ทุกท่านหลัง เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2561 ที่ผ่านมาทาง ปตท. และบางจาก ได้มีการปรับราคาน้ำมันกลุ่มแก๊สโซฮอล์ลง 30 สตางค์/ลิตร (ยกเว้น E 85 ปรับลง 15 สตางค์/ลิตร) ดีเซลลดลง 50 สตางค์/ลิตร มีผลวันที่ 22 พฤศจิกายน 2561 ตั้งแต่เวลา 05.00 น.
ถือเป็นข่าวดีต้อนรับวันลอยกระทงสำหรับผู้ใช้รถยนต์และรถจักรยานยนต์ทุกท่านหลัง เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2561 ที่ผ่านมาทาง ปตท. และบางจาก ได้มีการปรับราคาน้ำมันกลุ่มแก๊สโซฮอล์ลง 30 สตางค์/ลิตร (ยกเว้น E 85 ปรับลง 15 สตางค์/ลิตร) ดีเซลลดลง 50 สตางค์/ลิตร มีผลวันที่ 22 พฤศจิกายน 2561 ตั้งแต่เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป ส่งผลให้ราคา มีการปรับเปลี่ยนดังนี้ แก๊สโซฮอล95 = 28.55 บาท/ลิตร แก๊สโซฮอล 91 = 28.28 บาท/ลิตร E20 = 25.54 บาท/ลิตร E85 = 20.49 บาท/ลิตร ดีเซล = 28.79 บาท/ลิตร ดีเซลพรีเมี่ยม = 32.66 บาท/ลิตร
นอกจากนี้หากเราย้อนดูในเดือนพฤศจิกายน 61 จะเห็นว่าการปรับขึ้นลงตลอดเดือนจนถึงวันที่ 22 พฤศจิกายน 61 มีทั้งหมด 5 ครั้ง ได้แก่วันที่ 07 พ.ย. 2561 , 10 พ.ย. 2561 , 15 พ.ย. 2561 ,16 พ.ย. 2561 , 22 พ.ย. 2561 ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้แม้จะผันผวนบ้างเล็กน้อย แต่ก็ทำให้ประชาชนได้ยิ้มออก
ส่วนในระยะยาวก็ยังไม่น่าจะมีปัจจัยเข้ามาส่งผลกระทบรุนแรง และยังไม่มีตัวแปรใดที่ทำให้ราคาน้ำมันต้องผันผวนไปกว่านี้แบบก้าวกระโดด เป็นที่น่าสนใจจากการวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญพบว่าสถานการณ์การเมืองในรูปแบบของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ตึงเครียด ล้วนส่งผลกระทบโดยตรงต่อ "ราคาน้ำมัน" แต่ในภาพรวมก็ยังไม่ถือว่าเป็นที่น่าวิตกเพราะยังอยู่ในระดับที่ภาคเอกชนรับภาระไหว อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่ส่งผลให้ราคาน้ำมันเปลี่ยนแปลง "ขึ้นลง" ในช่วงเวลาที่แตกต่างกันนั้น ได้แก่ 8 ปัจจัยหลัก
1. การเชื่อมโยงระหว่างราคาน้ำมันดิบและราคาน้ำมันสำเร็จรูป ก่อนที่น้ำมันจะตกมาถึงผู้บริโภคต้องผ่านกระบวนการและขั้นตอนการกลั่นจากน้ำมันดิบ เพื่อทำให้อยู่ในรูปแบบของน้ำมันสำเร็จรูป อาทิ น้ำมันเบนซิน หรือน้ำมันดีเซล
2. ความต้องการน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปที่กำลังเพิ่มขึ้นทั้งภายในประเทศและระดับโลก โดยเฉพาะชาติมหาอำนาจ หรือประเทศที่มีพื้นที่ใหญ่ มีความหนาแน่นของประชากร และมีความเจริญสูง
3. ข้อจำกัดของกำลังการกลั่นน้ำมันในตลาดโลก จากจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น ทำให้ความต้องการในการใช้น้ำมันสูงขึ้นตามไปด้วย แต่ "น้ำมัน" ถือเป็นทรัพยากรที่มีอย่างจำกัด ด้วยเหตุที่ว่าโรงกลั่นน้ำมันทั่วโลกที่ดำเนินการกลั่นน้ำมันอยู่ในขณะนี้ ได้ดำเนินการเต็มกำลังมาโดยตลอดจนจะเกินพิกัดอยู่ทุกขณะ ในอนาตตจึงคาดการณ์ได้ไม่ยากว่า น่าจะมี การสร้างโรงกลั่นใหม่ๆ เพิ่มขึ้น เพื่อรองรับความต้องการน้ำมันที่เพิ่มขึ้นทว่าการลงทุนสร้างโรงกลั่นน้ำมันนั้น จำต้องใช้เงินทุนมหาศาล ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการ "ผลิต" นอกเหนือจากกำลังคน ทั้งนี้ต้องอยู่ในมาตรฐานการรักษาสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวด ทั้งในแง่ของประสิทธิภาพการดูแลรักษา ด้านสิ่งแวดล้อมของกระบวนการกลั่น และการให้ได้มาซึ่งน้ำมันเชื้อเพลิงที่สะอาดขึ้นและเป็นผลเสียกับสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด จะเห็นได้ว่าในภาพรวม กระบวนการให้ได้มาซึ่ง "น้ำมัน" มีความยุ่งยากและซับซ้อนพอสมควร
ดังนั้นจึงไม่เป็นเรื่องแปลกนักที่ราคาน้ำมันจะผันผวนอยู่ตลอดเวลา
4.ความมั่นคงในอุปทาน (Supply) ของน้ำมันดิบ ตะวันออกกลางถือเป็นแหล่งกำเนิดของน้ำมัน ทว่าพื้นที่เหล่านี้ยังคงไร้สถานภาพทางการเมือง เลวร้ายที่สุดคือมีสถานะเป็น "รัฐล้มเหลว" เหล่านี้ล้วนสัมพันธ์กับการผลิตน้ำมันดิบทั้งสิ้น จึงเป็นสาเหตุของความผันผวน ของราคาน้ำมันดิบโดยตรง
5.สภาพอากาศ ล้วนส่งผลกระทบทั้งสิ้น หากเกิดภัยพิบัติในชาติมหาอำนาจหรือประเทศที่มีกำลังผลิตน้ำมันเพื่อทำการส่งออก เช่น พายุเฮอร์ริเคนย่อมทำให้ กำลังการกลั่นน้ำมันทั่วโลกลดลง รวมถึง ขีดความสามารถในการกลั่นน้ำมันที่ลดลงประกอบกับการเก็งกำไรจากปริมาณการกลั่นน้ำมันสำเร็จรูปในตลาด เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกต้องผันผวนโดยตรง
6.ปรากฎการณ์ตามฤดูกาล อีกหนึ่งตัวแปรที่สัมพันธ์ต่อจากความต้องการ ในใช้น้ำมันคือ ฤดูกาล โดยเฉพาะ สหรัฐอเมริกา ยุโรปและญี่ปุ่น เนื่องด้วยประเทศเหล่านี้ เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาวความต้องการในการใช้น้ำมันจะสูงกว่าปกติ เพราะจะใช้เป็นน้ำมันก๊าด เพื่อสร้างความอบอุ่นให้กับบ้านเรือนและสำนักงาน ส่วนในฤดูร้อนความต้องการใช้น้ำมันเบนซินที่ใช้ในการเดินทางจะเพิ่มมากขึ้น
7.การเก็งกำไรของตลาด สินค้าทุกชนิดไม่สามารถหลีกเลี่ยงการ "เก็งกำไร" ของตลาดได้ เช่นเดียวกับน้ำมัน ประกอบกับในช่วงที่ผ่ามมา มีนักลงทุนเข้ามาในตลาดน้ำมันมากขึ้น ซึ่งส่วนมากเป็นนักลงทุนที่อยู่ในรูปแบบของผู้จัดการกองทุน จึงมีความเป็นไปได้สูงว่ามีเหล่านักลงทุน "หัวหมอ" เป็นปัจจัยผลักดันที่ทำให้เกิดความผันผวนของราคาน้ำมัน
8.ความผันผวนของค่าเงิน น้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปในตลาดหลักของโลกนั้นซื้อขายกันด้วยเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐเป็นหลัก เมื่อค่าเงินขึ้นลงตลอดเวลาย่อมส่งผลให้เกิดความผันผวนด้านเศรษฐกิจ จนทำให้ ต้นทุนในการซื้อน้ำมันดิบหรือน้ำมันสำเร็จรูปก็จะเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย
ทั้งนี้ยังคงต้องติดตามกันต่อไปว่าราคาน้ำมันในวันพรุ่งนี้ ( 23 พ.ย. 61 ) จะมีแนวโน้มราคาออกมาในทิศทางปรับขึ้น - หรือปรับลงต่อไป