ลูกสาวใจชื้น!ประกันจ่ายเยียวยา4แสน แม่เหยื่อสาดน้ำกรดได้รับรักษาไร้มาตรฐาน

จากกรณีนพ.ณัฐวุฒิ ประเสริฐสิริพงศ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงการตรวจสอบข้อเรียกร้องกรณีโรงพยาบาลส่งสาวถูกสามีสาดน้ำกรดไปรักษาอีกโรงพยาบาลจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต ความผิดของโรงพยาบาลดังกล่าวนำเอาที่จอดรถมาปรับปรุงดัดแปลงเป็นอาคารผู้ป่วยนอก โดยไม่ขออนุญาตตามพ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541

 

 

ต่อมา นายแพทย์ณัฐวุฒิ ได้แถลงผลสอบข้อเท็จจริงโรงพยาบาลพระราม2 กรณีถูกกล่าวหาไม่รักษาสาวถูกสาดน้ำกรด เป็นเหตุให้เสียชีวิตในเวลาต่อมาว่า ผลสอบออกมาชัดเจนแล้วสรุปน่าจะมีความผิดที่เกี่ยวข้องทั้งสิ้น5กรณี ซึ่งมีการโทษปรับและโทษจำคุกด้วย โดยเรื่องนี้ได้ออกมาเป็นมติของที่ประชุม ที่ให้ดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน ทั้งโทษปรับและจำคุก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะไปแจ้งความที่สน.ท่าข้าม

 

 

 

 

“เราได้ตรวจสอบอย่างละเอียด เพื่อให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย และได้สอบพยาบาลที่รับคนป่วยแล้ว เขายอมรับว่า เมื่อรับคนป่วยมาไม่ได้แจ้งให้แพทย์ในวันดังกล่าวได้รับทราบ คือไม่ได้รายงานให้แพทย์เวรรู้ เพราะเห็นอาการของคนป่วย และยังได้จะขอไปรักษาที่อีกโรงพยาบาลหนึ่ง จึงไม่ได้แจ้งแพทย์เวร ตรงนี้ถือเป็นความผิดต้องส่งไปให้สภาพยาบาลดำเนินการในส่วนของพยาบาลคนดังกล่าว ซึ่งตรงนี้ที่มองว่ามีความผิดในการไม่ส่งต่อ และถือเป็นความผิดส่งต่อที่ไม่ได้มาตรฐาน”

 

 

ล่าสุดวันนี้(23พ.ย.) นายอนันต์ชัย อุทัยพัฒนาชีพ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กล่าวถึงการเยียวยาแก่ญาติ น.ส.ช่อลัดดา ทาระวัน เหยื่อถูกสามีสาดน้ำกรดด้วยว่า ญาติสามารถยื่นแจ้งรับเงินเยียวยาได้ เพราะน.ส.ช่อลัดดา เป็นผู้ประกันตนที่ใช้บริการของโรงพยาบาลตามสิทธิประกันสังคม หากการรักษาไม่เป็นไปตามมาตรฐาน ตามมาตรา 63(7) พ.ร.บ.ประกันสังคม (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2558

 

 

“ผู้มีอำนาจในการพิจารณาวินิจฉัยจะเป็นคณะกรรมการการแพทย์ของประกันสังคม หากเป็นไปตามข้อกำหนดจะจ่ายเงินเยียวยาได้ ระหว่าง 3.2-4 แสนบาท ซึ่งกรณีนี้ทางทายาทได้ยื่นที่สำนักงานประกันสังคมที่ขอนแก่น แล้ว”