- 27 พ.ย. 2561
เรียกได้ว่าเป็นเหตุการณ์สะเทือนวงการสื่อไม่น้อย จากกรณี รายการดัง กิ๊กดู๋สงครามเพลงเงาเสียง ของ ซูโม่กิ๊ก เกียรติ กิจเจริญ ที่เป็นผู้ร่วมผลิตรายการ มี ซูโม่กิ๊ก และ ดู๋ สัญญา คุณากร เป็นพิธีกร ซึ่งเป็นรายการคู่บุญเรียกเรตติ้งให้ช่อง 7 มาเป็นเวลากว่า 10 ปี เตรียมย้ายไปซบอกช่องพีพีทีว
เรียกได้ว่าเป็นเหตุการณ์สะเทือนวงการสื่อไม่น้อย จากกรณี รายการดัง กิ๊กดู๋สงครามเพลงเงาเสียง ของ ซูโม่กิ๊ก เกียรติ กิจเจริญ ที่เป็นผู้ร่วมผลิตรายการ มี ซูโม่กิ๊ก และ ดู๋ สัญญา คุณากร เป็นพิธีกร ซึ่งเป็นรายการคู่บุญเรียกเรตติ้งให้ช่อง 7 มาเป็นเวลากว่า 10 ปี เตรียมย้ายไปซบอกช่องพีพีทีวี โดยจะเปลี่ยนผู้ผลิตหลักเป็น บริษัท บางกอกมีเดียแอนด์บรอดคาสติง จำกัด ในขณะที่ เจเอสแอลโกลบอลมีเดีย และ ทริปเปิ้ลทู จะรับจ้างผลิตรายการต่อไปตามเดิม เพื่อให้ทั้งสองมีรายได้จากส่วนแบ่งค่าโฆษณามากขึ้นและลดภาระค่าเช่าเวลา นับเป็นรายการแรกจากช่อง 7 HD ที่ย้ายช่องออกอากาศอย่างเป็นทางการ
ก่อนหน้านี้พีพีทีวี ต้องเผชิญกับวิกฤติการณ์จากการรุกคืบของ "ทีวีดิจิตอล" จึงต้องปรับตัวขนานใหญ่ทั้งด้านกลยุทธ์ด้านการผลิต รวมถึงการจัดการองค์กร โดยในขณะนั้นนายสุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ได้ออกมาเผยว่า พีพีทีวีทำการ ปรับผังรายการกว่า 50-60% โดยใช้วิธีเสริมรายการบันเทิง วาไรตี้ และภาพยนตร์มากขึ้น ถึงแม้ว่าจะมีจุดเด่นคือรายการกีฬาระดับโลก โดยเฉพาะฟุตบอล ทั้งพรีเมียร์ลีก อังกฤษ, ลาลีกาสเปนและกัลโชซีรีเอ อิตาลี แล้วก็ตาม
และการตัดสินใจนำภาพยนต์บล็อกบัสเตอร์ระดับฮอลลีวูด รวมถึงสารคดีคุณภาพจากดิสคัฟเวอรี่ แน่นอนว่าเวลานี้ พีพีทีวี ก็ได้รับความนิยมสอดคล้องกับผลประกอบการที่มากขึ้น และเป็นตัวเลือกแรกๆ สำหรับผู้ที่ต้องการเสพข่าวคุณภาพและรับชมรายการบันเทิงอย่างครบเครื่องไปพรัอมกัน แน่นอนว่าการตัดสินใจในครั้งนั้นส่งผลให้ผลประกอบการของพีพีทีวีเติบโตอย่างก้าวกระโดด จะเห็นได้ว่าในช่วงไตรมาสสี่ปี 2561 นี้หลังจาก พีพีทีวี ทุ่มงบลงทุนด้านคอนเทนต์ที่มากกว่าปีก่อน 50% เพื่อขยายฐานกลุ่มเป้าหมายไปสู่กลุ่มผู้หญิงมากขึ้น ด้วยคอนเทนต์วาไรตี้บันเทิงอันดับต้นของโลก ทำให้พีพีทีวีจ่อขึ้นมาอยู่ในกลุ่มเทียร์สอง หรือติดท็อป 5 ด้านสื่อได้โดยไม่ยากนัก
ขณะที่ทางช่อง 7 ที่เคยครองบัลลังค์ด้านละครมาโดยตลอด แต่ในช่วงปี 2560 ที่ผ่านมา การแข่งขันทีวีดิจิตอลดูมีความชัดเจนมากขึ้น ส่งผลให้คอนเทนต์ละครหลังข่าวพระราชสำนักได้ค่าโฆษณาไม่เต็มเวลา รวมถึงสภาพเศรษฐกิจที่ทำให้ลูกค้าใช้งบโฆษณาลดลงตรงข้ามกับช่องอื่นๆ ที่มุ่งเน้นทำคอนเทนต์ที่มีความหลากหลายเพื่อเป็นทางเลือกมากขึ้น
เพราะเข้าถึงง่ายและรวดเร็วกว่า มีความสะดวกสบายในการรับข่าวสาร ทันต่อเหตุการณ์ กล่าวคือสามารถรับข่าวสารได้แทบจะทุกที่ทุกเวลา เพียงแค่มีโทรศัพท์สมาร์ทโฟน โดยเฉพาะบทความทันใจ (ia) บนเฟสบุ๊กที่สื่อหลายเจ้าเริ่มหันมาตีตลาดกันมากขึ้น อาทิ บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ที่สามารถทำรายได้จาก ia มากถึง 1,000 เหรียญ/วัน (ประมาณ 30,000 บาท/วัน) ปัจจัยเหล่านี้อาจส่งผลให้รูปแบบการเสพสื่อในอนาคตเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง แน่นอนว่าคงไม่มีใครเฝ้ารอเวลานำเสนอข่าวสารผ่านรายการโทรทัศท์ เพราะเพียงแค่นิ้วสัมผัสก็สามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ กิ๊กดู๋ เป็นรายการโทรทัศน์ประเภทวาไรตี้เกมโชว์ ออกอากาศครั้งแรกเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2553 โดยออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 15:45 – 17:30 น. ทางสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ผลิตโดย บริษัท เจเอสแอลโกลบอลมีเดีย จำกัด และ บริษัท ทริปเปิ้ลทู จำกัด โดยมีรูปแบบรายการเป็นวาไรตี้เกมโชว์ที่มีความหลากหลาย ก่อนจะปรับมาเป็น "กิ๊กดู๋ สงครามเพลง" เป็นการแข่งขันร้องเพลงระหว่างชุมชนต่อชุมชน ต่อมามีการแจกเงิน 1 ล้านบาท สำหรับ ผู้ชนะเลิศประจำฤดูกาล ภายใต้ชื่อใหม่ว่า "กิ๊กดู๋ สงครามเพลงเงินล้าน" ก่อนจะมาเป็น "กิ๊กดู๋ สงครามเพลงเงาเสียง"
อย่างไรก็ตามหลังจาก ซูโม่กิ๊ก ประกาศย้ายช่องอย่างเป็นทางการ ก็ได้ออกมาโพสต์บนเฟสบุ๊กส่วนตัวระบุว่า "ตามนั้น…อยู่ไม่ได้ก็ย้ายไป…ครับ" จากนั้นมีคอมเม้นต์ถามต่อมาว่า "ว้าววว ทำไมอยู่ไม่ได้คะ อยากรู้ตรงนี้" ซึ่งทางซูโม่กิ๊ก ได้ตอบกลับว่า "ค่าเช่าแพงครับ" จนทาง เอ เชิญยิ้ม เข้ามาผสมโรงเพิ่มเติมว่า "รายการจะไปอยู่ที่ไหนไม่สำคัญ เพราะรายการนี้เข้าไปนั่งในใจคนไทยนานแล้วครับป๋า" คงต้องเอาใจช่วย ซูโม่กิ๊ก ว่าหลังจากการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ จะได้รับความนิยมเช่นเดียวกับตอนออกฉายในช่อง 7 หรือไม่