- 28 พ.ย. 2561
ถือเป็นข่าวดีให้ขาช้อปอย่างแท้จริง เมื่อล่าสุดวันที่ 27 พ.ย. 2561 นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.การคลัง ได้ออกมาเปิดเผยว่าตอนนี้ทางกระทรวงการคลังเตรียมเสนอรายละเอียดโครงการช้อปช่วยชาติให้คณะรัฐมนตรี พิจารณาเห็นชอบ ให้ทันภายในวันที่ 4 ธ.ค. 2561 ที่จะถึง
ถือเป็นข่าวดีให้ขาช้อปอย่างแท้จริง เมื่อล่าสุดวันที่ 27 พ.ย. 2561 นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.การคลัง ได้ออกมาเปิดเผยว่าตอนนี้ทางกระทรวงการคลังเตรียมเสนอรายละเอียดโครงการช้อปช่วยชาติให้คณะรัฐมนตรี พิจารณาเห็นชอบ ให้ทันภายในวันที่ 4 ธ.ค. 2561 ที่จะถึง พร้อมทั้งยืนยันว่าโครงการที่เตรียมดำเนินการในครั้งนี้จะไม่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมาเนื่องจากจะไม่มีการเปิดกว้างให้กับทุกชนิดสินค้า เพราะไม่มีความจำเป็นจะต้องกระตุ้นการบริโภค เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจมีการขยายตัวได้เป็นอย่างดีอยู่แล้ว ไม่ได้ชะลอตัวมากเหมือนในช่วง 3 - 4 ปีที่ผ่านมา แต่การดำเนินการครั้งนี้ เพื่อส่งเสริมกลุ่มสินค้าที่มีความจำเป็นต้องให้การช่วยเหลือจริงๆ
สำหรับรายละเอียดของโครงการจะกำหนดชนิดสินค้าที่สามารถนำรายจ่ายมาหักลดหย่อนภาษีได้ จำนวน 3 ประเภทสินค้า ได้แก่
1. ยางรถยนต์ที่ผลิตในประเทศไทยเท่านั้นเนื่องจากได้มีการสำรวจพบว่าครึ่งหนึ่งของปริมาณน้ำยางพาราที่ผลิตได้ในประเทศถูกใช้เพื่อผลิตยางรถยนต์ โดยจะมีการระบุเป็นเงื่อนไขด้วยว่าบริษัทผู้ผลิตยางรถยนต์ที่ต้องการเข้าร่วมโครงการจะต้องใช้ปริมาณน้ำยางพาราภายในประเทศเพื่อผลิตยางรถยนต์จำนวนเท่าไหร่ จำนวนกี่เส้น โดยจะมีสติ๊กเกอร์
หรือคูปองกำกับชัดเจนเพื่อรองรับว่ายางรถยนต์ดังกล่าวเข้าโครงการช้อปช่วยชาติของรัฐบาล
2. การซื้อหนังสือ ทั้งหนังสือที่เป็นสิ่งพิมพ์ และ E-Book เพื่อเป็นการส่งเสริมให้คนไทยรักการอ่านมากขึ้น ซึ่งในตอนนี้มีข้อมูลจาก สมาคมผู้จัดพิมพ์ และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT)ที่ได้รับไฟเขียวให้เริ่มมาตรการช้อปช่วยชาติ นับเป็นครั้งแรกที่ผู้จัดพิมพ์ฯ ผลักดันเรื่อง ซื้อหนังสือได้ลดหย่อนภาษี ในวงเงิน 15,000 บาท ได้สำเร็จ
3. สินค้าโอท็อป เพื่อเป็นการสนับสนุนชาวบ้านให้มีรายได้มากขึ้น "โครงการช้อปช่วยชาติจะเริ่มตั้งแต่ 15 ธ.ค. 2561 – 15 ม.ค. 2562 จะกำหนดให้สามารถนำค่าใช้จ่ายจากทั้ง 3 รายการสินค้าที่กำหนดมาหักลดหย่อนภาษีได้ วงเงินไม่เกิน 15,000 บาท ส่วนการยื่นหักลดหย่อนภาษีนั้น อาจจะต้องเหลื่อมปี เช่น ถ้าใช้จ่ายภายในปี 2561 ไม่ครบวงเงิน 15,000 บาท และมีการใช้ต่ออีกในปี 2562 ตามวันที่กำหนด จะต้องใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีในปี 2563"
สำหรับวิธีการขอลดหย่อนภาษีนั้นต้องใช้ "ใบเสร็จรับเงิน" โดยมีรายละเอียดดังนี้
2.1. ใบเสร็จรับเงินของสำนักพิมพ์หรือร้านค้าที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล หัวใบเสร็จมีชื่อ ที่อยู่ เลขประจำตัวของผู้เสียภาษีครบถ้วน
2.2. ใบเสร็จที่ออก ต้องระบุชื่อนามสกุล พร้อมเลขประจำตัวประชาชนของผู้ซื้อ ครบถ้วนชัดเจน
2.3. ใบเสร็จรับเงิน ออกโดยคอมพิวเตอร์ หากเป็นลายมือเขียนต้องเขียนให้ชัดเจน และมีข้อมูลครบถ้วน
2.4. รายการสินค้าที่ซื้อแล้วได้รับการลดหย่อนคือ หนังสือเล่ม อีบุ๊ค ยกเว้น หนังสือพิมพ์ และ นิตยสาร
ทางด้านนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า ขณะนี้กำลังหารือเพิ่มเติมกับสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ว่าจะออกมาในรูปแบบใด ซึ่งเบื้องต้นจะใช้ได้วันที่ 15 ธ.ค.นี้ เพื่อให้ทันช่วงเทศกาลปีใหม่