- 30 พ.ย. 2561
รวบหรั่งอดีตมือขวาเสธ.แดง ฆ่ารัดคอแฟน ขณะหนีคดียิงM79 ม็อบปี53ทำตำรวจเสียชีวิต2
จากกรณีที่วันนี้ (30 พ.ย.) กองบังคับการปราบปราม โดยพล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. สั่งการ พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.3 บก.ป. นำกำลังจับกุม นายสุรชัย หรือ หรั่ง หรือ รัก เทวรัตน์ อายุ 34 ปีตามหมายจับศาลจังหวัดนครราชสีมา ที่ 315/2561 ลงวันที่ 25 พ.ย. 2561 ข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” ได้ที่ กระท่อมกลางสวนยางพารา หมู่ 9 ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ เมื่อช่วงเวลา 17.00 น. ของวันที่ 29 พ.ย. ที่ผ่านมา
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 22 พ.ย. ที่ผ่านมา นายสุรชัย ได้ก่อเหตุใช้กำลังทำร้ายและถังแก๊สทุบตี น.ส.ดาว(นามสมมุติ) อายุ 23 ปี ชาวขอนแก่น แฟนสาว ก่อนใช้สายสายยางถังแก๊สรัดคอซ้ำจนเสียชีวิต จากนั้นได้เขียนจดหมายฝากคำขอโทษวางไว้หน้าอกผู้ตาย แล้วหลบหนีไป เหตุเกิดภายในห้องพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.โคกสูง อ.เมือง จ.นครราชสีมา จากแนวทางสืบสวนทราบว่าฉนวนเหตุมาจากปมความหึงหวง เนื่องจากผู้ตายเป็นพนักงานร้านเมืองแก้วคาราโอเกะ มักมีชายหนุ่มมาติดพันหลายคนจนทำให้มีปากเสียงทะเลาะวิวาทกันอย่างรุนแรงหลายครั้ง
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้สอบสวน นายสุรชัย ซึ่งก็ให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ ระหว่างที่กำลังหลบหนีคดีตามหมายจับค้างเก่าอยู่นั้นได้มาพบเจอกับ น.ส.ดาว ซึ่งทำงานเป็นพนักงานร้านคาราโอเกะ ก่อนจะคบหาและอยู่กินกันฉันสามีภรรยามาได้ประมาณ 6 เดือน กระทั่งช่วงหลังจับได้ว่า น.ส.แววดาว มีชายหนุ่มมาติดพันและพยายามตีตัวออกห่าง ด้วยความหึงหวงจึงทำให้มีปากเสียงทะเลาะวิวาทกันอย่างรุนแรงขึ้น ก่อนที่ตนจะบันดาลโทสะพลั้งมือก่อเหตุ
อย่างไรก็ตามเป็นที่ทราบกันดีว่า นายสุรชัย เคยเป็นลูกน้องคนสนิท หรือ มือขวา ของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ในช่วงเข้าร่วมชุมนุมกับคนเสื้อแดง เมื่อปี 2553 เคยก่อคดีก่อการร้าย และฝ่าฝืน พ.ร.ก. ฉุกเฉิน และคดีอาญาอีกหลายคดี ซึ่งในปี พ.ศ. 2553 นายสุรชัย ได้ก่อเหตุใช้ปืน เอ็ม 79 ยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินี บริเวณแยกศาลาแดง ทำให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตจำนวน 2 นาย
“จากเหตุความวุ่นวายทางการเมืองเมื่อปี 2553 จนถูกออกหมายจับโดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ตามหมายจับศาลอาญา จำนวน 2 คดี ประกอบด้วย คดี “ก่อการร้าย และฝ่าฝืน พ.ร.ก. ฉุกเฉิน” กับ คดี “ร่วมกันฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีและใช้เครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนจะอนุญาตให้ไม่ได้ไว้ในครอบครอง ทั้ง 2 คดีอยู่ระหว่างการหลบหนี” นอกจากนี้นายสุรชัย ยังเคยโดนจับกุมคดีค้าอาวุธสงครามด้วยแต่ศาลได้ยกฟ้อง เพราะพยานโจทก์เบิกความมีพิรุธ อีกทั้งไม่มีหลักฐานว่าอาวุธที่ยึดมาได้เป็นของจำเลย จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้แก่จำเลย