ผบ.คุกให้ธาริตเป็นผู้ช่วยผู้คุมสอนกม. ญาตินำเงินเข้าบัญชี เจ้าตัวแฮปปี้บอกอยู่ได้ไม่ต้องห่วง

จากกรณีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษากลับสั่งจำคุกนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ 1 ปี ไม่รอลงอาญา ข้อหาหมิ่นประมาทนายสุเทพ เทือกสุบรรณ กรณีทุจริตการก่อสร้างสถานีตำรวจ 396 แห่ง ซึ่งได้คุมตัวนายธาริต ไปเรือนจำพิเศษกรุงเทพ  ต่อมาพ.ต.อ.ณรัชต์  เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และอดีตรองอธิบดีDSI กล่าวด้วยว่า แม้ผู้ต้องขังจะเคยเป็นอดีตข้าราชการระดับสูง แต่จะไม่ได้รับสิทธิพิเศษใดๆทั้งสิ้นการควบคุมตัวจะเป็นไปตามระเบียบของทางราชการ ผู้ต้องขังทุกรายมีสิทธิเท่าเทียมกัน

 

 

ทั้งนี้อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ยังกล่าวอีกว่า เมื่อเสร็จสิ้นการรับตัวผู้ต้องขังใหม่ ผู้คุมเรือนจำจะนำตัวผู้ต้องขังเข้าไปควบคุมไว้ภายแดนแรกรับเพื่ออบรมระเบียบวินัยและชี้แจงกฎของเรือนจำ เพื่อให้ผู้ต้องขังใหม่ปรับตัวไม่กระทำผิดวินัยหรือฝ่าฝืนกฎระเบียบของเรือนจำ ซึ่งถือเป็นปกติที่ผู้ต้องขังใหม่จะต้องใช้เวลาปรับตัวทำใจรับสภาพความเป็นอยู่ภายในเรือนจำและเพื่อนผู้ต้องขัง โดยเบื้องต้น จะให้ผู้ต้องขังพักอยู่ในแดนแรกรับประมาณ 2 สัปดาห์ หลังจากนั้นจึงจะจำแนกให้ไปแดนคุมขังตามความเหมาะสมต่อไป ทั้งนี้ส่วนตัวไม่หนักใจเพราะถือเป็นการปฏิบัติตามหน้าที่ตามคำสั่งศาลแม้นายธาริตจะเป็นเคยเป็นอดีตผู้บังคับบัญชาก็ตาม

 

 

 

 

ล่าสุดนายกฤช กระแสร์ทิพย์ ผู้บัญชาการพิเศษกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการควบคุมตัว นายธาริต ด้วยว่า ได้รับรายงาน นายธาริต ได้รับทราบระเบียบและข้อปฏิบัติการใช้ชีวิตประจำวันภายในเรือนจำแล้ว และไม่ได้ร้องขออะไรเป็นพิเศษ ซึ่งน่าจะเริ่มปรับตัวได้บ้างแล้ว ทางเจ้าหน้าที่มีการปฐมนิเทศผู้ต้องขังใหม่ให้ทราบถึงกฎระเบียบและวิธีการใช้ชีวิตอยู่ในเรือนจำ

 

 

 

“ส่วนเรื่องโรคประจำตัวก็มีเหมือนผู้สูงอายุทั่วไป นายธาริต ได้มีการเตรียมยามารับประทานตามแพทย์สั่ง เมื่อวันที่ 15ธันวาคมที่ผ่านมา ญาติได้มาเยี่ยมและนำเงินฝากเข้าบัญชีสำหรับผู้ต้องขังใช้ซื้อของจากร้านค้าสวัสดิการภายในเรือนจำ ซึ่งผู้ต้องขังทุกคนสามารถใช้บัตรสมาร์ทการ์ดและสแกนนิ้วมือซื้อของได้วันละ 300 บาทต่อคน โดยเปิดให้ญาติเข้าเยี่ยมเวลา 08.00-15.00น.วันจันทร์-เสาร์ ตามวันเวลาราชการ”

 

 

อย่างไรก็ตาม ผู้บัญชาการพิเศษกรุงเทพมหานคร ยังกล่าวอีกว่าจะให้ นายธาริต ใช้ความรู้ความสามารถด้านกฎหมายไปเป็นผู้ช่วยผู้คุม คอยสอนความรู้ด้านกฎหมายให้กับผู้ต้องขัง เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ต้องขังรายอื่นๆ เพราะในเรือนจำมีผู้ต้องขังที่เรียนวิชากฎหมาย ซึ่งเป็นโครงการของทางเรือนจำอยู่แล้ว คาดว่าประมาณ 2สัปดาห์ จะพิจารณาปรับไปอยู่แดนอื่นตามความเหมาะสม ขณะเดียวกันมีรายงานข่าวแจ้งว่า นางวรรษมล เพ็งดิษฐ์ พร้อมด้วยญาติ และเพื่อนสนิทได้เดินทางไปเยี่ยมนายธาริต ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯได้พูดคุยและให้กำลังใจนายธาริต โดยทางเจ้าตัวบอกกับภรรยาว่า “อยู่ได้ไม่ต้องห่วง ให้ทำหน้าที่ของตนเองไม่ต้องกังวล”