ดอน สวน นักการเมือง ยอกย้อน คำว่าศักดิ์ศรีปท. เสียหายตรงไหน หลังโดนรุมถล่มไม่เห็นด้วยตปท.สังเกตการณ์ลต.ไทย

ดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมครม.ที่ ทำเนียบรัฐบาล วันนี้ (18 ธค.2561) เกี่ยวกับกรณีที่มีนักการเมืองเรียกร้องให้องค์กรต่างประเทศเข้ามาสังเกตุการณ์การเลือกตั้ง ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องเดิมที่ตนพูดไปเยอะแล้ว ทำไมต้องมีเรื่องอะไรขึ้นมาอีก คือถ้าตนจะต้องพูดอีก คือเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของกระทรวงต่างประเทศ แต่เป็นเรื่องคณะกรรมการเลือกตั้ง ขอให้ชัดเจน ตนพูดมาตั้งแต่ครั้งแรกที่มีการสอบถามมาแล้วว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของกกต. แต่เมื่อมาถามกระทรวงต่างประเทศ ก็ให้ความเห็นจากประสบการณ์ที่มีกับต่างประเทศ คือถ้ามีการสังเกตุการณ์จากต่างประเทศ จะแปลว่า เราเป็นประเทศที่มีปัญหา ประเทศที่ไม่มีปัญหา จะไม่มีสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น 

 

เราไม่ต้องการให้ประเทศเป็นเช่นนี้ไม่ใช่หรือ ในการเลือกตั้งครั้งแรกของยุคใหม่ พวกเราคงเข้าใจ  เราต้องการให้ทุกอย่างราบรื่น เป็นไปด้วยดี เป็นมงคลฤกษ์ ไม่มีต่างชาติเข้ามาเกี่ยวข้อง ดูแลกันเองได้ ประเทศไทยคนไทยดูแลกันเองได้ เพราะเรามีประสบการณ์เรื่องนี้มา6ครั้งแล้ว ไทยเลือกตั้งมาเยอะ ประเทศที่จะมาดูแลเลือกตั้ง ส่วนใหญ่เป็นประเทศมีปัญหา หรือไม่ก็เป็นประเทศที่ไม่คุ้นเคยกับการเลือกตั้ง แต่เราเชื่อว่าเรามีประสบการณ์เรื่องเหล่านี้

 

และประสบการณ์ล่าสุดคือการลงประชามติเมื่อสค.2559 ประชามติเหมือนการเลือกตั้ง เพราะฉะนั้นไทยเป็นประเทศที่มีทั้งประสบการณ์ และผ่านอะไรมามากพอ เราเชื่อมั่นว่าเราดูแลบ้านเมืองได้ การดูแลบ้านเมืองของตนเองได้ ถือเป็นมงคลฤกษ์ที่ตนพูดอยู่เสมอ ว่าในยุคใหม่นี้ ปี2562 เราควรจัดการเองได้ เเละในรัฐธรรมนูญ2560 จะมีมาตราที่เกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของประชาชน ในการพัฒนาการเมืองของเรา กับการมีส่วนร่วมก่อน ระหว่าง และหลังการเลือกตั้ง คือเปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมรับรู้เรื่องการเลือกตั้ง และการพัฒนาการเมือง มากขึ้นมาก และมีการเชิญชวนด้วย

 

จึงขอให้ใช้โอกาสนี้ให้เป็นประโยชน์ ตนจึงได้เสนอไปแต่แรกว่า กกต.ซึ่งเป็นเจ้าของเรื่องสามารถเชิญชวนคนไทยเข้ามา โดยอาจมีกระบวนการเทรนนิ่ง เตรียมความพร้อม นี่คือการดูแลกันเอง แต่ถ้าไม่พอใจ เห็นเป็นแค่คนไทยกันเอง  แต่จะเป็นปัญหาอะไร ถ้าเป็นคนไทยด้วยกัน ต้องมีต่างชาติด้วย ก็ต่างชาติเหล่านี้สามารถมาจากสถานทูตต่างประเทศในไทยได้ เป็นเรื่องปกติ เวลามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นในบ้านเมือง สถานทูตย่อมมี

 

นักการทูตมาตรวจสอบดูแล ดูความเคลื่อนไหว เหมือนที่สถานทูตไทยทำในต่างประเทศ ถ้าต้องการคนต่างชาติ ก็คนต่างชาติในบ้านเรานี่แหละ สามารถทำเรื่องนี้ได้ ก็เชิญชวนเค้าเข้ามา ให้มีตัวแทนสถานทูต ซึ่งน่าจะตอบโจทย์คนต่างชาติแล้ว ถ้าไม่พอใจคนไทย หรือไม่เชื่อใจคนไทย ซึ่งก็คือประชาชน คนไทยนั่นแหละ เพราะพวกเราสามารถไปสมัครแสดงความสนใจ ที่จะเข้าไปดูแลตรวจสอบการเลือกตั้งได้

 

“เพราะฉะนั้นในความหมายของเราที่เราพูดกันมาตั้งหลายยกแล้วก็คือ เราดูแลกันเองได้ ไม่ต้องเอาเข้ามา ใช้คนไทยที่มีอยู่ในประเทศ ใช้คนต่างชาติที่มีอยู่ในประเทศดูแลจัดการได้ ผมไม่เห็นเป็นปัญหา ผมไม่เห็นอะไร แต่มันกลับดีซะอีกว่า มันได้ช่วยกันเริ่มต้น ปลูกฝังเรื่องของการเมืองให้กับคนไทย มันเป็นศักดิ์ศรีของเรา ของประเทศของเรา แทนที่จะทำเองตัองไปเอาคนอื่นเข้ามาตลอดเวลาได้อย่างไร นี่มันพศ 2561 แล้ว มันศตวรรษใหม่แล้ว เรื่องอะไรต่างชาติจะเก่งกว่าเราในทุกเรื่องได้อย่างไร จริงอยู่เราต้องเรียนรู้จากต่างชาติในหลายเรื่อง แต่ไม่ใช่ทุกเรื่อง และเรื่องเหล่านี้เรามีประสบการณ์เพียงพอแล้ว เราดูแลกันเองได้”

 

 

ผู้สื่อข่าวถามว่าปกติประเทศอื่นให้องค์กรต่างประเทศเข้าไปสังเกตุการณ์เลือกตั้งหรือไม่ รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า คือแต่ละประเทศต่างมีหลายเหตุผลด้วยกัน คือประสบการณ์ไม่มี หรือเป็นประเทศที่มีปัญหาจริงๆ และยอมรับว่าคนในประเทศตนเองดูแลกันเองไม่ได้ ต้องให้คนอื่นดูแล  นี่คือความหมายที่เราต้องการให้ประเทศเราเริ่มต้นอย่างมีศักดิ์ศรีตั้งแต่ก้าวแรก

 

“คำว่าศักดิ์ศรีมันเสียหายอะไร ศักดิ์ศรีมันเรื่องปกติธรรมดา ประเทศก็มีศักดิ์ศรี เราไปทำงานในต่างประเทศ เราก็คำนึงถึงศักดิ์ศรีประเทศมาก และทำไมเราไม่คำนึงเวลาเราอยู่ในบ้านเรา เราต้องคำนึง และต้องคำนึงมากเป็นพิเศษด้วย ผมอยากถามพวกเรา ว่า ไม่เข้าใจกันหรืออย่างไร ไม่น่ามายอกย้อนซับซ้อน จนเกินไป เพราะได้พูดมาตั้งแต่ต้นแล้วว่า เราไม่ใช่ประเทศที่มีปัญหา เรามีประสบการณ์ และกระบวนการโปร่งใสอยู่แล้ว มีกกต. มีองค์กรอิสระเข้ามาจัดการ ซึ่งเป็นเจ้าของเรื่อง กกต.ไม่ใช่กต.ผมให้ความเห็นในฐานะกต.ที่เคยสัมผัสต่างประเทศมาบ้าง เท่านั้น”

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ามีองค์กรต่างประเทศแจ้งความจำนงเข้ามาดูการเลือกตั้งในไทยหรือไม่ รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า ไม่ทราบ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับกระทรวงต่างประเทศ เป็นเรื่องกกต.ตนไม่อยากจะพูดเรื่องเหล่านี้ ตนขอพูดในหลักการว่าทำไมถึงเป็นอย่างนี้

“องค์กรอิสระบ้านเราก็เยอะ ผมไม่ได้ไปห้าม อย่าไปใช้คำว่าห้ามเลย เพราะสื่อไปเขียนว่าเราห้าม นาย ดอน ห้าม ผมไปห้ามได้ที่ไหน “

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการให้เหตุผลว่าในช่วงเปลี่ยนผ่านควรให้ต่างประเทศเข้ามาดูเลือกตั้ง รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า ยิ่งสำคัญ การเปลี่ยนผ่านเป็นมงคลฤกษ์ ทำไมเราจะต้องมาเริ่มต้น หากเริ่มต้นควรเริ่มต้นด้วยลำแข้ง ปัญญา และความสามารถ ของเรา ไม่ได้ไปรังเกียจเดียดฉันท์อะไร  คือถ้าไม่มีประสบการณ์ ไม่มีความรู้ ก็เอาเถอะไปขออาศัยความรู้ ขอโทษเสียงดังไปหน่อย เรื่องที่พูดตนไม่นึกเลยว่าจะเป็นปัญหา

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากใช้กลไกสถานทูต จะมีวิธีการประสานงานอย่างไร รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า ไปถามกกต.เรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมดา เป็นเรื่องการบริหารจัดการ และเรื่องนี้เป็นความเห็นตน ถ้าตนมีอำนาจ ตนจะเชิญเขามาคุย ว่ามาร่วมกันพัฒนาการเมืองไทยไหม ทุกคนสนใจอยู่แล้ว ติดตามการเมืองมาตลอด4ปีที่ผ่านมา นักการทูตมาเลย เชิญมาเลย ไม่ใช่พวกธุรการนะ ถ้าต้องการซักซ้อมความเข้าใจ ตามกระบวนการกฎหมายไทย ก็ซักซ้อมกัน หรืออาจมีอบรมก็ได้ 

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า นักการเมืองบอกว่าหากรัฐบาลมั่นใจว่า้เลือกตั้งบริสุทธิ์ จะกังวลอะไร รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า ตนไม่ได้กังวล ตนกลับยิ่งจะบอกว่า การให้คนไทย กับ คนต่างชาติดูแล มันยิ่งเหนือกว่าคน จำนวนกี่คนที่มา และ10-20คนจะสู้คนเป็น100อย่างไร ไม่มีการมานั่งห่วงกังวลอะไรเลย ประเทศไทยไม่ควรยืมจมูกคนอื่นอยู่ตลอดเวลา เราเป็นประเทศที่มีภูมิปัญญา มีความรู้ ตนไม่เข้าใจว่าทำไมจะต้องเอาคนอื่นเข้ามาตลอดเวลา เราควรจะภูมิใจในตนเอง