รายที่สองยังไม่เคลียร์ รายที่สามโผล่อีก จีนหิ้วครูสาวชาวแคนาดาเพิ่ม ปมขัดแย้ง 3 เส้า จีน-สหรัฐฯ-แคนาดา

สืบเนื่องจากกรณีความขัดแย้งสามเส้าระหว่าง สหรัฐ-จีน และแคนาดา ซึ่งมีสถานะเป็นตัวแปร จากการจับกุมตัวเมิ่ง เวินโจว (Meng Wanzhou) ผู้บริหาร ฝ่ายการเงิน บริษัทหัวเหว่ย เทคโนโลยีของจีน ในประเทศแคนาดา เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. ที่ผ่านมา ข้อหาการละเมิดการคว่ำบาตรอิหร่าน ฐานแอบทำธุรกิจค้าขายร่วมด้วย

ความรุนแรงควรจะทุเลาเบาบางลง เมื่อมีรายงานว่าทางศาลได้อนุญาตให้ เมิ่ง เวินโจว ได้รับการประกันตัวด้วยทรัพย์สินมูลค่า 7 ล้าน 5 แสนดอลลาร์ หากแต่ต้องถูกยึดหนังสือเดินทาง และจะต้องใส่เครื่องรัดข้อเท้าติดจีพีเอส เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้ทราบหากเธอหนีออกจากนครเเวนคูเวอร์ประเทศเเคนาดา ทว่ากลับส่อเค้าบานปลายเมื่อ นายเล่อ หยูเจิง รมช.ต่างประเทศจีน เรียกตัวนายเทอร์รี แบรนสตัด เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศจีน เข้าพบแสดงจุดยืนคัดค้านต่อการควบคุมตัวนางเวินโจว พร้อมเตือนให้สหรัฐฯ แก้ไขความผิดครั้งนี้โดยทันที เพราะถือเป็นการกระทำที่สร้างความอับอายแก่ประเทศจีน ทั้งนี้ยังส่งสัญญาณเตือนไปยังแคนาดาให้พึงระวังผลลัพธ์ที่อาจตามมา

ซ้ำร้ายจีนกลับตอบโต้ด้วยการจับกุมอดีตนักการทูตแคนาดา ไมเคิล คอฟริง (Michael Kovrig) ขณะเดินทางไปยังกรุงปักกิ่งโดยที่ยังไม่มีคำชี้แจงหรือให้ความกระจ่างใดๆ ทั้งสิ้น รวมถึงจับกุมตัวพลเมืองแคนาดาเพิ่มอีกราย ทราบชื่อนาย ไมเคิล สเปเวอร์ (Michael Spavor) เป็นนักธุรกิจ  (อ่านต่อเพิ่มเติม : จีนเอาอีก หิ้วพลเมืองแคนาดารายที่สอง ส่อเค้าความขัดแย้ง 3 เส้า สหรัฐฯ จีน แคนาดา)

ล่าสุด 20 ธ.ค. 2561 เกิดเหตุการณ์ทำนองเดียวกันขึ้นอีกครั้ง เมื่อสื่อต่างประเทศรายงานว่าทางการจีนจับกุมตัวครูสาวชาวแคนาดารายที่สาม พร้อมอ้างเหตุผลด้านวีซ่า และปัดปมเรื่องเมิ่ง เวินโจว ว่าไม่ได้เกี่ยวข้องแต่อย่างใด

โดยทราบชื่อต่อมาว่าซาราห์ แมคไลเวอร์ (Sarah McIver) เป็นครูสาวจากรัฐแอลเบอร์ตา ที่เดินทางเข้าไปสอนภาษาอังกฤษในประเทศจีนเบื้องต้นนายกรัฐมนตรี จัสติน ทรูโด ระบุถึงการจับกุมตัวครูสาวในครั้งนี้ว่าไม่ได้เชื่อมโยงเกี่ยวกับประเด็นความมั่นคงของจีนเหมือนกับกรณีการจับกุมพลเมืองแคนาดาสองรายก่อนหน้านั้น ตรงข้ามกับทางการจีนระบุถึงเหตุผลการจับกุมว่าเกี่ยวข้องกับความมั่นคง หากว่ากันตามกฏหมายของจีน การถูกจับกุมตัวด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงนั้น ทางการจีนสามารถควบคุมตัวเพื่อสอบสวนได้นานถึง 6 เดือน

อย่างไรก็ตามกระทรวงต่างประเทศของแคนาดา เผยข้อมูลว่า ได้พยายามให้ความช่วยเหลือแก่ญาติของพลเมืองแคนาดาทั้งสามคนในทุกด้านอย่างเต็มที่ แต่กรณีล่าสุดคือรายที่สามทางกระทรวงฯกลับบ่ายเบี่ยงที่จะให้ข้อมูลต่อสื่อ ด้วยอ้างว่าเป็นสิทธิส่วนบุคคล ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดว่าบทสรุปของเรื่องดังกล่าวจะเป็นไปในทิศทางใด