"ณัฏฐพล" โต้ "ปชป." ปม"โต๊ะจีนระดมทุน" ลั่นทุกอย่างปฎิบัติถูกต้อง ยันเคารพกติกาอย่างเคร่งครัด

     สืบเนื่องจากกรณี การระดมทุนโต๊ะจีนครั้งยิ่งใหญ่ จำนวน 200 โต๊ะออกจำหน่ายในราคา โต๊ะละ 3 ล้านบาทของพรรคพลังประชารัฐ การระดมทุนครั้งนี้ขายโต๊ะจีนได้ 650 ล้านบาท เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ที่ผ่าน ภายใต้แนวคิด “ประเทศไทยหนึ่งเดียว” ที่อิมแพคฟอรั่ม เมืองทองธานี  บรรยากาศในงานในวันดังกล่าง เป็นไปอย่างคึกคัก นายอุตตม สาวนายน นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล และนายสุวิทย์ เมษินทรีย์ 4 รัฐมนตรี มาในฐานะแกนนำพรรคพลังประชารัฐ เป็นผู้ร่วมงาน  และมี "นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ" รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นหัวหน้าคณะผู้จัดงาน

 

 

 นอกจากนั้น มีนักการเมืองจากพรรคต่างๆ อาทิ นายสุวัจน์ ลิปพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา (ชพน.) นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรค พล.อ.ฐิติวัฒน์ กำลังเอก รองหัวหน้าพรรค ฯ นายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมด้วย อย่างไรก็ตามภายหลังการจัดงานดังกล่าว ได้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง โดยเฉพาะกระแสข่าวว่า มีกระทรวงการคลังได้ซื้อ 20 โต๊ะเป็นเงิน 60 ล้านบาท ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย 3 โต๊ะ เป็นเงิน 9 ล้านบาท

 

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.61  "นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ" รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะแม่งานจัดระดมทุนพรรค กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวว่า กระทรวงการคลัง และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐ บริจาคเงินซื้อโต๊ะจีนรวมกว่า 60 ล้านบาทว่า เท่าที่ตรวจสอบ ยืนยันได้ว่าไม่พบหน่วยงานตามที่กระแสข่าวระบุ ซึ่งทางพรรคมีการเปิดบัญชีพักเงินบริจาคส่วนนี้เพื่อตรวจสอบความถูกต้อง ถ้าพบว่าบริษัทหรือบุคคลใดก็ตาม ผิดคุณสมบัติที่กฎหมายกำหนด หรือมีข้อขัดแย้ง จะทำการคืนเงินที่บริจาคมาทันที ทั้งนี้ ตนเคยทำระดมทุนในลักษณะดังกล่าวมาแล้ว 3-4 ครั้ง จึงต้องดำเนินการให้ถูกต้อง โปร่งใส ตรวจสอบได้ จะทำแบบลักไก่นั้นไม่มี

 

 

    "บางทีต้องก้าวข้ามความขัดแย้ง หยุดใส่ร้ายกันได้แล้ว ยืนยันเราทำทุกอย่างด้วยความถูกต้อง ไม่มีกระทรวงการคลังหรือหน่วยงานรัฐบริจาค เรารับไม่ได้ พรรคอื่นที่กล่าวหากัน ไม่มีการระดมทุนแบบนี้ แล้วมาบอกว่าเราทำผิด พรรคที่ตั้งข้อสงสัยเตรียมการเลือกตั้งอย่างไร แต่พลังประชารัฐถือเป็นพรรคใหญ่ เราเตรียมการเลือกตั้ง วางแผนอย่างสุขุม รอบคอบ ทำตามกฎกติกาของกกต. แต่ถูกใส่ร้ายทางการเมือง ทั้งที่เรามุ่งมั่นเดินหน้าให้ประเทศพัฒนา" นายณัฏฐพล กล่าว

 

     ล่าสุดวันนี้ (22 ธันวาคม) "นาย ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ" ในฐานะแม่ทัพจัดงานเลี้ยงระดมทุน"พรรคพลังประชารัฐ" ตอบข้อกังขาแถมย้อนรอยประชาธิปัตย์น่าจะทราบดีเพราะก็เคยจัดงานระดมทุนพรรคฯ "ผมในฐานะรับผิดชอบจัดเลี้ยงขอบคุณผู้สนับสนุน หรืองานระดมทุนของพรรคพลังประชารัฐ ผมขออนุญาตชี้แจงและตอบข้อเรียกร้องของท่านหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อวันก่อน ซึ่งผมมีความแปลกใจเพราะปกติท่านหัวหน้าอภิสิทธิ์จะมีความแม่นยำในทางกฎหมาย กฏระเบียบ ท่านหัวหน้าฯ น่าจะทราบดีว่าในการระดมทุนของพรรคการเมือง ต้องมีการตรวจสอบข้อมูลผู้ที่บริจาคทั้งหมดอยู่แล้ว อีกทั้งผู้บริจาคทุกรายต้องมีคุณสมบัติที่ถูกต้องตามกฏระเบียบของ"กกต." 

 

 

 

 " ในส่วนของพรรคการเมืองก็จะมีระยะเวลาในการทำงานเพื่อตรวจสอบและทำรายงานส่ง กกตภายใน 30 วัน  ตอนที่ผมอยู่พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้อำนวยการพรรคฯ ก็เป็นหนึ่งในผู้ร่วมรับผิดชอบและจัดงานระดมทุนให้พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งก็มีการตรวจสอบ แต่การตรวจสอบผู้ร่วมสนับสนุนบริจาคต้องใช้เวลาพอสมควรในการดำเนินการถึงความถูกต้องครับ ในงานระดมทุนของพรรคพลังประชารัฐ ผมทราบกฏระเบียบดี จึงกำชับเจ้าหน้าที่พรรคและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายตั้งแต่เริ่มต้นให้เข้มงวดในการตรวจสอบ ชึ่งผมยึดมั่นในแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้องเป็นที่ตั้ง

 

ส่วนที่ท่านหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า ทางพรรคพลังประชารัฐพร้อมจะคืนเงิน ถ้าพบว่ามีผู้บริจาคคุณสมบัติไม่เหมาะสม นั่นแสดงว่ามีการทำความผิดแล้ว ผมขออนุญาตย้อนระลึกและเตือนความจำท่านหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ไว้สักนิดครับ ว่าตอนที่พรรคประชาธิปัตย์ ก็เคยคืนเงินผู้บริจาคหลังการตรวจสอบเป็นจำนวนหลายรายเช่นกัน นั้นเป็นเรื่องปกติ ซึ่งหมายความว่า พรรคประชาธิปัตย์ ทำความผิดตอนนั้นหรือเปล่าครับ ไม่ครับไม่ผิดครับท่านหัวหน้าฯ ยังไม่น่ารีบด่วนสรุปว่า พรรคพลังประชารัฐ มีความผิด ผมขอย้ำว่าทางผมเคารพในกฏกติกาอย่างเคร่งครัดและยึดถือความถูกต้องมาปฏิบัติโดยตลอด 

 

ผมว่ากรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์รู้จักผมดี โดยเฉพาะท่านหัวหน้าฯ ท่านน่าจะทราบว่าผมทำงานอย่างไร เพราะเคยทำงานด้วยกันมาก่อน ผมเป็นนักทำ ไม่ค่อยชอบพูด มุ่งทำงานเพื่อให้ประสบผลสำเร็จอย่างเดียวครับ และไม่เคยใช้สื่อเพื่อหาพื้นที่ข่าวและให้เป็นจุดสนใจของสังคมประชาชน โดยเฉพาะไม่ให้สัมภาษณ์ข่าวที่อาจก่อให้เกิดความสับสนหรือเกิดความขัดแย้งครับ ผมขอย้ำอีกครั้งครับ ว่าทุกภาคส่วนประชาชนทุกฝ่ายต้องหันมาร่วมมือกันเพื่อพัฒนาประเทศชาติครับ "นาย ณัฏฐพล"ระบุ