- 20 พ.ค. 2562
มติภูมิใจไทยยึดเงื่อนไข4ข้อ ยันไม่เป็นขั้วที่ 3 มอบให้อนุทินไปคุยร่วมตั้งรัฐบาลพรรคเทิดทูนสถาบัน
จากกรณีวันนี้(20พ.ค.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้เป็นประธานเปิดการปฐมนิเทศ ส.ส. 51 คน ของพรรคภูมิใจไทย ที่โรงแรมโมเดน่า บาย เฟร์เซอร์ จังหวัดบุรีรัมย์ ก่อนที่จะมีรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภานัดแรกในวันที่ 24 พฤษภาคมนี้ และจะมีการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เพื่อเลือกประธาน และรองประธานสภาผู้แทนราษฎรตามกระบวนการในวันที่ 25 พ.ค.
ทั้งนี้เมื่อมีการประชุมแล้วเสร็จทาง นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย และน้องชายนายเนวิน ชิดชอบ ได้แถลงว่าหลังจากได้แสดงความเห็น พรรคมีมติ ให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค มีอำนาจไปดำเนินการเรื่องตั้งรัฐบาล และเพื่อให้เกิดความชัดเจน พรรคมีจุดยืน ใน 4 เรื่อง ทั้งเรื่องเทิดทูนสถาบัน ต้องไม่สร้างความขัดแย้ง ต้องรับนโยบายของพรรคไปปฏิบัติ และรัฐบาลที่จะตั้งขึ้นนั้น จะต้องมีเสถียรภาพ
“พรรคภูมิใจไทย ยังไม่มีการประสานมาจากพรรคไหนเลย วันนี้ สมาชิกมอบอำนาจให้หัวหน้าดำเนินงานแต่เพียงผู้เดียว จากนี้ หัวหน้าพรรคจะไปคุยกับพรรคการเมืองที่ยังไม่มีมติที่ชัดเจนว่าจะไปทางไหน ท่านหัวหน้าจะไปหารือกับกลุ่มดังกล่าวภายใน 2-3 วัน เพื่อให้รู้ว่าพรรคเหล่านั่น มีความเห็นอย่างไร เป็นการไปฟัง แต่จะไปร่วมกับเขาหรือไม่ ต้องรอดูอีกที”
นอกจากนี้ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ยังกล่าวอีกว่า การเลือกตั้งครั้งนี่ มีความผิดปกติ เมื่อเทียบกับการเลือกตั้งครั้งก่อน เพราะไม่มีการพูดคุยอย่างเป็นทางการ ดังนั้น เราต้องตั้งตัวแทนไปคุยกับพรรคอื่นเพื่อหาทางให้ประเทศเดินหน้า เรารับฟังทุกฝ่าย เพื่อหาความชัดเจนอย่างเร็วที่สุด นี่ไม่ใช่การชิงอำนาจของฝ่ายขั้วที่สาม ส่วนตอนนี้กดดันหรือไม่ ขอบอกว่าไม่กดดัน
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้นายอนุทิน ได้กล่าวว่า “หากพรรคจะตัดสินใจอะไร ต้องขอฉันทานุมัติจาก ส.ส.ในพรรคและกรรมการบริหารพรรค ว่า จะมอบให้ใครเป็นตัวแทนตัดสินใจทิศทางการเมืองซึ่งก็น่าจะเป็นตนเองในฐานะหัวหน้าพรรค นอกจากนั้น น่าจะมีการเสนอตนให้เป็นผู้ตัดสินใจ ซึ่งตนก็มีความคิดในใจบ้างแล้ว แต่จะบอกเมื่อถึงเวลาเหมาะสม” นายอนุทิน กล่าว
“ขอยืนยันว่า วันนี้ยังไม่มีใครมาทาบทามพรรคภูมิใจไทย ส่วนข่าวขั้วที่ 3 จะชิงตั้งรัฐบาล ย้ำว่า ยังไม่ได้คุยกับพรรคประชาธิปัตย์ ดังนั้นพรรคภูมิใจไทยต้องนิ่ง การนิ่งคือสิ่งที่ดีที่สุด ที่สุดแล้ว อาจจะให้ ส.ส. ทุกคนโหวตว่า จะให้เป็นไปในทิศทางไหน โดยไม่จำเป็นต้องเปิดเผยชื่อในการโหวต”