ดร.สุวินัย ส่งเทียบเชิญ ธนาธรดีเบตสนธิญาณ

ดร.สุวินัย ส่งเทียบเชิญ ธนาธรดีเบตสนธิญาณ ว่าด้วยสถาบัน รอคำตอบรับ

จากกรณีวันนี้(22มิ.ย.) รองศาสตราจารย์ สุวินัย ภรณวลัย อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก  Suvinai Pornavalai ถึงเรื่องนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ รวมทั้งนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ และน.ส.พรรณิการ์ วานิช หรือ ช่อ โฆษกพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งมีการพูดถึงผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งที่เข้ามาพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ถึงความคิดของบุคคลทั้งสามในพรรคอนาคตใหม่เกี่ยวกับสถาบัน และเรื่องราวของ ปฏิกษัตริย์นิยม

 

ดร.สุวินัย ส่งเทียบเชิญ ธนาธรดีเบตสนธิญาณ

 

Sathit Amarekajorn

ผมว่าเรื่องนี้คุณสุวินัยอาจจะมองเอียงไปมากเลยครับ ผมเลยอยากจะลองถกกันเป็นข้อๆ ดังต่อไปนี้ครับ

 

1 ถึงแม้ว่าตัว คุณธนาธร คุณปิยะบุตร หรือ คุณพรรณิการ์ จะไม่ได้เคารพสถาบัน แต่ว่าเค้าไม่ได้ประกาศปฏิกษัตริย์นิยม ตามความหมายของคุณสุวินัย ไม่ว่าจะเป็นใน นโยบายพรรค หรือการประกาศต่อสาธารณชนหลังจากการตั้งพรรค ตามที่ผมติดตามมา (ซึ่งถ้ามีรบกวนเอามาให้ดูหน่อย) การแสดงความเห็นดังกล่าวก็เป็นในเชิงปัจเจกชนเท่านั้น ไม่ได้แสดงออกในนามของพรรคการเมือง...

 

 

 

ดร.สุวินัย ส่งเทียบเชิญ ธนาธรดีเบตสนธิญาณ

 

จากนั้นเมื่อข้อความดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกมา ก็ปรากฏว่ามีบุคคลเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นในเฟซบุ๊กของอาจารย์สุวินัย เป็นจำนวนมาก มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในเรื่องนี้อย่างน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะช่วงหนึ่งมีการพูดถึงเรื่องดีเบต และการทาบทามนักสื่อสารมวลชนชื่อดังรายหนึ่งเพื่อร่วมดีเบตกับนายธนาธรด้วย โดยขอนำบางข้อความที่มีการพูดคุยกันระหว่างดร.สุวินัย กับผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า Pairoj Vongvipanond ดังนี้

 

 

 

Pairoj Vongvipanond ธนาธรชอบท้าคนดีเบต ผมนึกเอาเองอาจารย์สุวินัยจะเอาไหม จะได้ ไม่ต้องเสียเวลากันมากนิคกลุ่มนิติราษฎร์ด้วยถ้าอาจารย์สุวินัยคิดว่าธนาธรมีความคิดว่าสถาบันกษัตริย์คือต้นตอของปัญหาทั้งป่วงผมคิดว่าเป็นไปไม่ได้ธราธรปิยะบุตร เท่าที่ผมเข้าใจมาตลอดมันเป็นการตั้งโจทย์ที่ผมคิดว่าสำคัญและเป็นประโยชน์ว่าใน ระยะยาวสถาบันกษัตริย์ควรมี position ing อย่างไรเพื่อให้ประชาธิปไตยได้อย่างรากลึกมั่นคงและยังยืนในประเทศไทย ซึ่งผมคิดว่าเป็นคำถามที่ดีมากไม่มีอะไรเสียหายทั้งโลก อภิปรายเรื่องนี้กันมาตลอดและผมก็มองไม่เห็นว่ามันจะต้องเป็นพวกปฏิกษัตริย์นิยมไม่ใช่เลยสำหรับผม

 

Pairoj Vongvipanond ธนาธรชอบท้าคนดีเบต ผมนึกเอาเองอาจารย์สุวินัยจะเอาไหม จะได้ ไม่ต้องเสียเวลากันมากนิคกลุ่มนิติราษฎร์ด้วยถ้าอาจารย์สุวินัยคิดว่าธนาธรมีความคิดว่าสถาบันกษัตริย์คือต้นตอของปัญหาทั้งป่วงผมคิดว่าเป็นไปไม่ได้ธราธรปิยะบุตร เท่าที่ผมเข้าใจมาตลอดมันเป็นการตั้งโจทย์ที่ผมคิดว่าสำคัญและเป็นประโยชน์ว่าใน ระยะยาวสถาบันกษัตริย์ควรมี position ing อย่างไรเพื่อให้ประชาธิปไตยได้อย่างรากลึกมั่นคงและยังยืนในประเทศไทย ซึ่งผมคิดว่าเป็นคำถามที่ดีมากไม่มีอะไรเสียหายทั้งโลก อภิปรายเรื่องนี้กันมาตลอดและผมก็มองไม่เห็นว่ามันจะต้องเป็นพวกปฏิกษัตริย์นิยมไม่ใช่เลยสำหรับผม

 

ดร.สุวินัย ส่งเทียบเชิญ ธนาธรดีเบตสนธิญาณ

 

Suvinai Pornavalai Pairoj Vongvipanond ถ้าธนาธรสนใจจริงเรื่องดีเบตผมจะทาบทามคุณต้อย สนธิญาณให้มาดีเบตกับธนาธรครับ ติดต่อผมหลังไมค์ได้ทุกเมื่อ

 

Pairoj Vongvipanond Suvinai Pornavalai ตอนนี้มันยังอ่านไม่เป็นประเด็นดังระดับชาติไม่รู้ว่าวันนึงมันจะมีโอกาสไหมเพื่อนผมว่าดีนะผมเองเห็นด้วย

 

Suvinai Pornavalai Pairoj Vongvipanond ผมว่าถ้าธนาธรสามารถเคลียร์ประเด็นนี้ต่อสาธารณชนได้ จะเป็นการดีต่อตัวธนาธรเองและพรรคอนาคตใหม่ครับ

 

Pairoj Vongvipanond Suvinai Pornavalai ผมจะหาโอกาสเมื่อเวลาที่เหมาะสมมาคุยกับอาจารย์วรเจต คุยกันซักสองวันอนาคตสถาบันกษัตริย์ไทยกับการพัฒนาประชาธิปไตยแบบจำลองที่เหมาะสมมีสักกี่แบบอะไรทำนองนี้

 

ดร.สุวินัย ส่งเทียบเชิญ ธนาธรดีเบตสนธิญาณ

 

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ดร.สุวินัย ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก Suvinai Pornavalai เมื่อวันที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมาโดยบอกเล่าถึงการได้พบและพูดคุยกับนายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม นักสื่อสารมวลชน ซึ่งเนื้อหาทั้งหมดระบุไว้ว่าดังนี้

 

ผมออกมาเคลื่อนไหวในเชิงลึกอีกครั้งเพื่อบ้านเมือง...

 

วันนี้ผมได้ไปคุยกับคุณต้อย สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรมมา เนื้อหาหลักๆที่เราสนทนากันมีดังต่อไปนี้

 

+++++

 

แผนปฏิบัติการโครงการขับเคลื่อนสังคมไทยด้วยประชาธิปไตยภายใต้จารีตประเพณีวิถีไทย

 

ดร.สุวินัย ส่งเทียบเชิญ ธนาธรดีเบตสนธิญาณ

 

(1) นัยอันอันตรายยิ่งของธนาธร​ จึงรุ่งเรืองกิจกับพรรคอนาคตใหม่​ก็คือการได้จุดประเด็นอุดมการณ์แบบ​ "ปฏิกษัตริย์นิยม" (Anti-royalism)​ ขึ้นได้สำเร็จแล้วในสังคมไทย

 

โดยพื้นฐานความเชื่อของอุดมการณ์นี้คือ​ การมองว่าสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นอุปสรรคต่อการทำให้สังคมไทยมีระบอบการปกครองแบบเสรีประชาธิปไตยแบบตะวันตกอย่างแท้จริง​ โดยการที่สถาบันพระมหากษัตริย์ได้สถาปนา​ "อำนาจนำ" (hegemony)​ เหนือสังคม​ วัฒนธรรม​ และความเป็นชาติ​ เหนือศาลยุติธรรม​ และเหนือกองทัพ

 

(2) ซึ่งความเชื่อนี้ได้รับการปลูกฝัง​ สืบสาน​ ต่อๆกันมาในสำนักคิดฝ่ายปฏิกษัตริย์นิยม​ ที่มีกลุ่มผู้เคารพนับถือ​ ปรีดี​ พนมยงค์​และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์​เป็นแกนหลักในการสร้าง​ ชี้นำ​ ชักจูง​ "คนรุ่นใหม่" โดยทำให้เกิดขบวนการเคลื่อนไหวทางสังคม​ที่ต่อมาพัฒนาไปเป็นพรรคการเมือง​ อันเป็นแรงขับเคลื่อนเชิง​ "สถาบัน" ของฝ่ายเสรีประชาธิปไตยขึ้น

 

(3) ซึ่งแนวทางเคลื่อนไหวของสำนักคิดกลุ่มนี้เป็นแนวร่วมกับพรรคการเมืองของทักษิณ​ ชินวัตร​ที่สูญเสียอำนาจจากการรัฐประหารในปี​ ๒๕๔๙​ และในปี​ ๒๕๕๗ (โดยเชื่ออย่างฝังใจว่าสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่เบื้องหลัง​ และได้เคลื่อนไหว​ทางการเมืองและทางมวลชนเพื่อตอบโต้มาโดยตลอด)

 

ดร.สุวินัย ส่งเทียบเชิญ ธนาธรดีเบตสนธิญาณ

 

(4) และที่สำตัญกว่านั้น​การเคลื่อนไหวของ​ "สำนึกคิดปฏิกษัตริย์นิยม" ยังได้รับการสนับสนุนในทางเปิดเผยและในทางลับจากรัฐบาลอเมริกาและองค์กรข้ามชาติที่อ้างการทำให้ประเทศต่างๆเป็นประชาธิปไตยเพื่อเป็นโอกาสในการเข้ามาแทรกแซงกิจการและความมั่นคงภายในประเทศ​ตามยุทธศาสตร์ของชาติมหาอำนาจตะวันตกและกลุ่มทุนโลกาภิวัฒน์

 

(5) ความสำเร็จของธนาธรและพรรคอนาคตใหม่เกิดจากปัจจัยความสำเร็จ​ ๓ ประการคือ​

๑.​ เป็นขบวนการขับเคลื่อนสังคมที่มีความชัดเจนในอุดมการณ์​ มีกระบวนการสร้างหลักคิดและทฤษฏีทางวิชาการเพื่อรองรับอย่างเป็นระบบ​

๒.​ การได้รับการสนับสนุนทางยุทธศาสตร์และยุทธวิธี​ "ปฏิวัติ" สังคมจาก​ "อดีต​ พคท." ที่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่มทักษิณ​ ชินวัตร​

และ​ ๓.​ การบริหารจัดการ​ "สื่อใหม่" (New​ Media)​ อย่างเป็นมืออาชีพและเป็นระบบ

 

(6) ซึ่งอันตรายจากความสำเร็จของธนาธร​ ณ ขณะนี้จะเห็นผลในอีก ๑๐ ปีข้างหน้าเป็นอย่างช้า​ เมื่อประชากรในช่วงวัย​ ๑๘-๒๖ ปีในปัจจุบันที่เป็นกลุ่มเป้าหมายและฐานเสียงหลักของธนาธร​ กลายมาเป็นคนกลุ่มใหญ่ที่สุดของประเทศที่มีสิทธิ์เลือกตั้ง​ รวมถึงคนในช่วงวัย​ ๔๕​ ปีขึ้นไปในปัจจุบันที่เป็นกลุ่มที่มีความผูกพันและจงรักภักดีต่อสถาบันฯและยอมรับระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขลดจำนวนลง​

 

(7) หากไม่มีการวางแผนทางยุทธศาสตร์เพื่อรองรับในเรื่องนี้​ ณ เวลานั้นกลุ่มคนที่ยอมรับอุดมการณ์แบบเสรีนิยม​-ปฏิกษัตริย์นิยมจะเป็นเสียงส่วนใหญ่ของประเทศและจะกำหนดทิศทางของประเทศไปตามแนวทางที่อาจสร้างความเปลี่ยนแปลงต่อรากฐาน​ ประเพณี​ วัฒนธรรม​ ระบอบการปกครอง​และสถาบันหลักของชาติอย่างใหญ่หลวง​ ภายใต้การกำกับชี้นำขององค์กรข้ามชาติและกลุ่มทุนโลกาภิวัฒน์

 

(8) โครงการขับเคลื่อนสังคมไทยด้วยประชาธิปไตยภายใต้จารีตประเพณีวิถีไทยที่ทันสมัยเท่าทันทุนนิยมโลกาภิวัฒน์ จึงถือกำเนิดขึ้นเพื่อเป็นพลวัตกับสังคมไทยที่จะพัฒนาไปในทิศทางที่ยั่งยืนกว่าความเป็นเสรีประชาธิปไตยแบบตะวันตก​ โดยประกอบไปด้วย

 

ดร.สุวินัย ส่งเทียบเชิญ ธนาธรดีเบตสนธิญาณ

 

๑.​ การสร้างสำนักคิดที่เป็นคลังปัญญาของชาติ​

 

๒.​ การบริหารสื่อใหม่ที่สามารถสร้างขบวนการเคลื่อนไหวทางสังคมที่มีประสิทธิภาพและสามารถตอบโต้กับสื่อของฝ่ายเสรีนิยม​ โลกาภิวัฒน์นิยม​

และปฏิกษัตริย์นิยมอย่างเท่าทันและทันที

 

๓.​ การสนับสนุนการสร้างพรรคการเมืองหรือพัฒนาพรรคการเมืองที่มีอยู่เพื่อมีส่วนร่วมในการยกระดับขบวนการเคลื่อนไหวทางสังคมไปเป็นสถาบันทางการเมือง

 

+++++

 

จึงเรียนมาให้พ่อแม่พี่น้องที่ห่วงใยอนาคตของบ้านเมืองได้รับทราบโดยทั่วกัน

 

สุวินัย ภรณวลัย

 

ดร.สุวินัย ส่งเทียบเชิญ ธนาธรดีเบตสนธิญาณ