- 15 พ.ค. 2566
รู้จัก พรรคเป็นธรรม มีที่มาที่ไปยังไง หลังเลือกตั้ง66 มี ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ 1เดียว เปิดประวัติ "กัณวีร์ สืบแสง" คือใคร ทำไม "ก้าวไกล"ถึง ชวนร่วมตั้งรัฐบาล?
วันที่ 15 พ.ค.66 สำหรับ ผลคะแนนเลือกตั้ง66 อย่างไม่เป็นทางการ ของ กกต. ระบบ ECT Report พรรคก้าวไกล ได้ ส.ส.แบ่งเขต 113 คน และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 39 คน รวม ส.ส. 152 คน ซึ่ง พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกฯ ได้ประกาศชัยชนะจัดตั้งรัฐบาล โดย "ก้าวไกล" รวม 6 พรรค "309เสียง" ตั้งรัฐบาลเสียงข้างมาก ไม่หวั่นอภินิหาร 250 ส.ว. ซึ่ง 1ในพรรคการเมือง ที่ พิธา จะร่วมตั้งรัฐบาล ปรากฎชื่อของ "พรรคเป็นธรรม" มี ส.ส. ปาร์ตี้ลิสต์1 เดียว คือ "กัณวีร์ สืบแสง" ทำเอาหลายคนเกิดความสงสัยทำไม "ก้าวไกล" ถึง ชวนร่วมตั้งรัฐบาล
วันนี้จะพาไปทำความรู้จัก เผยประวัติ "พรรคเป็นธรรม" คือใคร มาจากไหน
จากผลการเลือกตั้ง 2566 ล่าสุดอย่างไม่เป็นทางการ พรรคเป็นธรรม ได้ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ หรือ ปาร์ตี้ลิสต์ เพียง 1ราย คือ "กัณวีร์ สืบแสง" รองหัวหน้าพรรค และประธานยุทธศาสตร์พรรค ในฐานะ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1
ซึ่งทาง นายปิติพงศ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรคเป็นธรรม ได้ทวิตข้อความผ่านทวิตเตอร์ของตนเอง เผยว่า “ขอบคุณคุณพิธา ที่แสดงเจตจำนงเชิญ พรรคเป็นธรรม ร่วมรัฐบาล พรรคเป็นธรรม มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะร่วมจัดตั้งรัฐบาลแห่งความหวังกับพรรคก้าวไกล และยกมือสนับสนุนคุณพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป สร้างประเทศไทยที่เราฝันถึงร่วมกันไปด้วยกันครับ”
โดยทางด้านกรุงเทพธุรกิจ มีรายงานสรุปให้ทราบว่า เหตุใด พรรคก้าวไกล จึงได้ยกหูติดต่อพรรคเป็นธรรม โดย พรรคมี ส.ส.1 ราย ทำไม?? พรรคก้าวไกล ถึง ชวนพรรคเป็นธรรม ร่วมตั้งรัฐบาลเสียงข้างมาก
ใน"ศึกเลือกตั้งปี 2566" พรรคเป็นธรรม ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งรวม 20 คน แบ่งเป็น ส.ส.แบบแบ่งเขต 11 คน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 9 คน สำหรับบุคคลที่จะได้เข้าไปทำหน้าที่ในสภาฯคือ กัณวีร์ สืบแสง รองหัวหน้าพรรคเป็นธรรม และประธานยุทธศาสตร์พรรค ในฐานะ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 ซึ่ง พรรคเป็นธรรม ปัจจุบันมีหัวหน้าพรรคชื่อ “ปิติพงศ์ เต็มเจริญ”
ประวัติ"ปิติพงศ์ เต็มเจริญ" ในอดีตเคยเป็นโฆษกพรรคเสรีรวมไทย ก่อนลาออกมาตั้งพรรคของตัวเอง ดีกรีของ “ปิติพงศ์” มิใช่ธรรมดาไก่กาการเมือง แต่เคยนั่งเก้าอี้ ส.ส.มาแล้วถึง 3 สมัย เคยสังกัดทั้งพรรคประชากรไทย พรรคไทยรักไทย และพรรคพลังประชาชน ระหว่างปี 2538-2549 เคยเป็นเลขานุการ รมว.ยุติธรรม (ชัยเกษม นิติศิริ) และรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
เคยเป็นเลขานุการ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (ชูศักดิ์ ศิรินิล) สมัยรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เคยเป็นเลขานุการ รมว.ต่างประเทศ (นพดล ปัทมะ) สมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร เคยเป็นกรรมาธิการ (กมธ.) การต่างประเทศ กมธ.ติดตามป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และ กมธ.การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร
เผยที่มาที่ไปของ"พรรคเป็นธรรม" มาจากความขัดแย้งถึงขั้นแตกหักระหว่าง ปิติพงศ์ และ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย จนสุดท้าย ดร. ปิติพงศ์ ประกาศลาออกจากพรรค มาเซ้งพรรคใหม่อย่าง “พรรคกลาง” พร้อมกับรีแบรนดิ้งเป็นพรรคด้านสิทธิมนุษยชน เปลี่ยนชื่อใหม่ “พรรคเป็นธรรม”
ความสัมพันธ์ของ ปิติพงศ์ กับ พล.ท.ภราดร ไม่ใช่แค่ที่ปรึกษาหารือกันเท่านั้น แต่ ปิติพงศ์ เคารพนับถือ ปรีดา พัฒนถาบุตร อาของ “เสธ.แมว” ที่เคยประกาศว่าเป็น ครูการเมือง ของทักษิณ ชินวัตร
ทั้งนี้ ปิติพงศ์ มิได้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อของพรรคเป็นธรรมแต่อย่างใด ขณะที่ เสธ.แมว ก็มิได้มาล่มหัวจมท้ายเป็นสมาชิกพรรคนี้แต่อย่างใด โดยเจ้าตัวได้กลับไปทำงานกับพรรคเพื่อไทยอีกครั้ง
เปิดประวัติ"กัณวีร์ สืบแสง"คือใคร ซึ่ง "กัณวีร์ สืบแสง" หรือชื่อเล่น นวล อดีตประธานมูลนิธิสิทธิเพื่อสันติภาพ ก่อนหน้านี้เคยนั่งเก้าอี้หัวหน้าสำนักงานภาคสนาม สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัย แห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ใน 8 ประเทศ เช่น ประเทศไทย (แม่ฮ่องสอน) เมียนมา บังคลาเทศ ซูดาน ซูดานใต้ และ ฟิลิปปินส์
ซึ่ง"นวล กัณวีร์" มีประสบการณ์ทำงานด้านสิทธิมนุษยชน และพื้นที่สงคราม การช่วยเหลือผู้พลัดถิ่นและผู้ลี้ภัย รวมถึงมีชั่วโมงบินสูงในการทำงานด้าน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีทัศนคติแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนใต้ที่คล้ายคลึงกับพรรคก้าวไกล
กางนโยบายพรรคเป็นธรรม (นโยบายหลักๆ) อาทิเช่น
- ยุบการปกครองส่วนภูมิภาค เห็นด้วยกับการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดมาจากการเลือกตั้ง
- พัฒนาเศรษฐกิจชายแดน
- สร้างสันติภาพในปาตานี
- ยกเลิกกฎหมายพิเศษทุกฉบับที่ใช้ในปาตานี
- แก้ไขกฎหมายความมั่นคง
- ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ
- ปฎิรูปกระบวนการยุติธรรม
- ปฎิรูปกองทัพ
- ถอนทหารออกจากพื้นที่ปาตานี
- ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร
- ยุบ ศอ.บต.และ กอ.รมน.
- สร้างรัฐสวัสดิการถ้วนหน้า เป็นต้น
โดยทางด้าน กัณวีร์ สืบแสง ได้เคลื่อนไหวด้วยการโพสต์ว่า ขอขอบคุณทุกคะแนนเสียง ที่เลือก พรรคเป็นธรรม ผม จะทำหน้าที่เป็นผู้แทนราษฎร เป็นผู้แทนของประชาชน
ผู้เป็นเจ้าของอำนาจที่แท้จริง และขอบคุณพรรคก้าวไกล ที่เชิญร่วมรัฐบาล
จากผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ พรรคเป็นธรรม ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 1 ที่นั่ง คือ ผม นายกัณวีร์ สืบแสง ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1
ผมขอขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่เลือกพรรคเป็นธรรม ผมขอยืนยันที่จะทำหน้าที่เป็นผู้แทนราษฎร เป็นผู้แทนของประชาชน ตามที่ได้ประกาศนโยบายไว้ภายใต้หลักการ มนุษยธรรมการเมือง การกระจายอำนาจ จังหวัดจัดการตนเอง ปาตานีจัดการตนเอง พาทหารกลับบ้าน ยกระดับกระบวนการสันติภาพปาตานี
นอกจากนี้ ผม ขอขอบคุณ คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล ที่กล่าวเชิญพรรคเป็นธรรม ร่วมรัฐบาล ในฐานะ ว่า ที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ เลขาธิการพรรคเป็นธรรม ผมยินดีที่ร่วมรัฐบาลกับพรรคก้าวไกล ที่มีอุดมการณ์เพื่อประชาธิปไตย และมีนโยบายที่ตรงกันในหลายด้าน จึงเชื่อมั่นว่าจะเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันนโยบายที่เป็นประโยชน์กับประชาชนร่วมกันต่อไป
(กัณวีร์ สืบแสง)
ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเป็นธรรม