โบราณเชื่อกันว่า..ธรรมชาติให้มา!! "จิ้งจก ๒ หาง"๑๐๐ ตัว..เจอเพียง ๒-๓ ตัว เท่านั้น ไว้เรียกทรัพย์ ค้าขาย เสี่ยงโชค..

 จิ้งจกสองหาง

แม้แต่จิ้งจกที่เกาะแปะอยู่ตามฝาผนังบ้านก็อดไม่ได้ที่จะขึ้นทำเนียบเครื่องรางของขลังกับเขาเหมือนกันแต่ก็ใช่ว่าจะเป็นจิ้งจกธรรมดาๆ เสียเมื่อไหร่เพราะจิ้งจกชนิดนี้เป็นจิ้งจกแปลกที่มีหางสองหาง

เครื่องรางชนิดนี้ก็คือ ซากจิ้งจกที่มีส่วนหางเป็นแฉก มีความเชื่อว่าจิ้งจกนี้จะนำลาภมาให้ คนสมัยโบราณมักจะนำซากจิ้งจกนี้ไปถักเชือกลงรักเลี่ยมกรอบใช้เป็นเครื่องรางพกพาติดตัว โดยหางที่สองอาจเกิดจากความผิดปกติของยีนในตัวจิ้งจก จึงมีกระดูกอ่อนเล็กๆอีกชิ้นหนึ่งยื่นออกมจากบริเวณปลายหางเล็กน้อยมองเห็นเป็นสองแฉก ซึ่งในร้อยตัวอาจจะพบเจอจิ้งจกพิสดารนี้สัก ๒-๓ ตัว จึงกลายเป็นเรื่องมหัศจรรย์ไปเสียเฉยๆ ตามธรรมชาติของหางจิ้งจกนั้นเมื่อขาดไปแล้วจะสามารถงอกใหม่ได้ จิ้งจกจะสละหางเพื่ออำพรางศัตรูแล้วตัวมันก็หนีไป แต่ในทางความเชื่อเรื่องอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์จิ้งจกสองหางถือว่าเป็นความโชคดีอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีไว้ในครอบครอง

ความเป็นมาของเรื่องราวชนิดนี้ว่ากันว่าเป็นวิชาเวทโบราณเป็นวิชาแก้วสารพัดนึก สามารถเรียกโชคลาภและเด่นไปในทางเสน่ห์กามคุณ กล่าวกันว่าเมื่อจิ้งจกพิสดารนี้ตายซากจะไม่เน่าแต่จะแห้งแข็งคล้ายหิน อย่างไรก็ดีก็ยังมีผู้ที่ทำของปลอมเลียนแบบเข้าใจว่าเป็นเพราะจิ้งจกที่มีลักษณะพิกลนี้เป็นของหายาก ทำเลียนแบบนั้นง่ายกว่ากันเยอะเอาจิ้งจกทั่วไปมารีดหางออกให้เป็นสองแฉกแล้วนำไปเลี่ยมกรอบแล้วกล่าวอ้างสรรพคุณให้ดูสมจริง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผู้ที่จะเช่าเขาจะแยกแยะของจริงของปลอมไม่ออก

การสร้างเครื่องรางชนิดนี้ก็ไม่ได้จำกัดแค่ซากของจิ้งจกที่มีสองหางเท่านั้นยังมีทั้งการแกะงา กะลาตาเดียว และไม้กัลปังหาดำเป็นรูปจิ้งจกสองหางอุดด้วยผงยันต์จากหางของจิ้งจกตัวผู้กับตัวเมียธรรมดาอย่างละหนึ่งตัวบดกับยันต์ใบไม้ชนิดหนึ่งที่เขียนรูปจิ้งจกแล้วชุบน้ำมันอีกวิธีหนึ่งคือ สร้างมาจากเนื้อผสมบ้าง ทองแดงบริสุทธิ์บ้างและโลหะอาถรรพ์ต่างๆ หล่อเป็นรูปจิ้งจกตัวอ้วนท้วนมีหางสองแฉกแล้วลงอักขระชุบน้ำมันเสน่ห์ นอกจากนี้ยังมีผ้ายันต์ แผ่นยันต์โลหะและการสักยันต์รูปจิ้งจกด้วยสีดำ แดง และน้ำมัน โดยการสักนั้นมีทั้งการสักเป็นตัวจิ้งจกสองหาง จิ้งจกธรรมดาแบบตัวเดียว หรือสองตัวซึ่งมีลักษณะของหางเกี่ยวรัดกัน อันเป็นความเชื่อในเรื่องกามคุณทางนี้โดยเฉพาะ นิยมสักไว้ในที่ลับหรือตามแขนขาเชื่อกันว่าเป็นเสน่ห์เมตตามหานิยม เจรจาธุระสิ่งใดก็คล่องแคล่วไม่มีอุปสรรค

คาถาบูชาจิ้งจกสองหาง

ตั้งนะโม ๓ จบ

อะอิ อะมะ อะมะอะ อิ อะอิจะหัง

อะมะสวาหะ เอหิ อะมะปิ ยะ ธิ ตา มานิ มานะ นะมะพะทะ

เมื่อว่าคาถาแล้ว ต้องทำเสียง “จุ๊ จุ๊ ... จุ๊ จุ๊” แล้วเคาะที่ตัวจิ้งจกเบาๆ

จิ้งจก ๒ หาง ...หลวงพ่อจ้อย วัดศรีอุทุมพร นครสวรรค์

จิ้งจกสองหาง ไว้เรียกทรัพย์ ค้าขาย เสี่ยงโชค นิยมเก็บไว้ในกระเป๋าเงิน และในตะกร้าเงิน
ส่วนสรรพคุณของจิ้งจก ๒ หางนั้นช่วยในเรื่องของโชคลาภ เงินทอง และค้าขายดีครับผม ส่วนที่ว่าใครบูชาจิ้งจก # หางไปแล้วจะมีโชคลาภหรือว่าการเงินจะดีขึ้นหรือเปล่านั้น ตรงนี้ก็ขึ้นอยู่กับวาสนาบารมีของแต่ละคนด้วยนะครับ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้โชคลาภใหญ่ แต่ได้ลาภลอยเล็กๆน้อย หรือเรื่องการเงินอาจจะไม่ถึงขั้นเศรษฐี แต่ก็มีใช้จ่ายให้พอดีและมีเก็บบ้างแบบพอดีๆ จิ้งจกพรหม ๒ หาง ดีทางเมตตามหานิยมเจรจากับใครก็ให้ความเมตตารักไคร่เอ็นดู ค้าขายเรียกลูกค้า โชคลาภ เรียกเงินเรียกทอง เงินไม่ขาดกระเป๋าลาภลอย มหาเสน่ย์ มหานิยม
พุทธคุณ เรียกโชค เรียกลาภ ค้าขาย การพนันเป็นหนึ่ง ยังรวมไปถึงเมตตามหานิยมดียิ่งนัก
คาถาปลุก
นะเรียกเงิน โมเรียกทอง พุทเรียกเข้า ทาเรียกของ ยะไหลมากอง เงินไหลมา จิ้งจกเรียกมา จุ๊ก จุ๊ก จุ๊ก
หรือ
ค้าแม้น ขายหมาน ซื้อง่ายขายคล่อง พาเงินพาทอง ไหลมาเทมา จุ๊ก จุ๊ก จุ๊ก

อ่านเพิ่มเติม..."ตะปูสังฆวานร"ของทนสิทธิ์ที่ขลังในตัวเอง

ขอขอบพระคุณท่านเจ้าของภาพ เจ้าของบทความ และที่มาเนื้อหาบทความมา ณ ที่นี้

http://เครื่องรางโชคลาภ.blogspot.com

http://www.g-pra.com/

เพื่อเผยแผ่เป็นสังฆบูชา