- 18 มี.ค. 2562
"จั้ม เอกวิชช์"หนุ่มนักธุรกิจร้องโดนปลอมลายเซนต์ถอน8ล้านขอโทษธ.กรุงไทยวอนเข้าใจความเดือดร้อนชี้ไร้เจตนาทำให้เสียชื่อ
จากกรณีที่ นายเอกวิชช์ เกษเจริญ หนุ่มนักธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง วัย 39 ปี ชาวจังหวัดนครสวรรค์ ที่เคยแจ้งเรื่องร้องเรียนกับเพจ "123 คนดีมีน้ำใจ" ว่าเมื่อช่วงปลายปี 2551 ถูกปลอมลายชื่อใบมอบฉันทะ ไปถอนเงินจากธนาคารกรุงไทย สาขาปากน้ำโพ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ จำนวน 2 ครั้ง เป็นเงินจำนวน 8,377,371 บาท ซึ่งนายเอกวิชช์ ได้ติดตามทวงถามและต่อสู้เรียกร้องกรณีมาเป็นเวลานานร่วม 10 ปี
ล่าสุด วันนี้ (18 มี.ค.) นายเอกวิชช์ เดินทางไปที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ กระทรวงการคลัง ยื่นหนังสือร้องเรียน ขอความเป็นธรรม และต้องการให้ธนาคารกรุงไทย ตรวจสอบกรณีที่เกิดขึ้น และใครต้องเป็นผู้รับชอบ จากนั้น เดินทางไปที่ ธนาคารกรุงไทย พร้อมรับฟังคำชี้แจงจากทางธนาคาร
โดยฝ่ายสื่อสารองค์กรและภาพลักษณ์ธนาคารกรุงไทยแจ้งว่าจากกรณีที่ นายเอกวิชช์ เกษเจริญ ลูกค้าธนาคารกรุงไทยสาขาสวรรค์วิถีและปากน้ำโพจังหวัดนครสวรรค์ ได้ร้องเรียนถูกปลอมลายเซ็นชื่อในเอกสารประกอบการถอนเงินจำนวนกว่า 8 ล้านบาทโดยได้นำผู้มาร้องเรียนที่ธนาคารกรุงไทยอาคารสำนักงานใหญ่และที่สาขาในจังหวัดนครสวรรค์ รวมทั้งปีนเสาสัญญาณสื่อสารและล่าสุดได้มาพบกับผู้บริหารธนาคารกรุงไทยนั้น
ทางธนาคารขอเรียนว่ากรณีดังกล่าวลูกค้าได้ยื่นฟ้องธนาคารในคดีความแพ่ง ต่อศาลชั้นต้นศาลชั้นต้นได้พิจารณาและมีคำพิพากษายกฟ้องเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2560 ออกมาลูกค้าได้ยื่นอุทธรณ์ ได้พิจารณาและมีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2561 โดยขณะนี้ นายเอกวิชช์ เกษเจริญ ได้ยื่นฎีกาและอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา
ที่ผ่านมาธนาคารกรุงไทยได้ชี้แจงกระบวนการตรวจสอบและให้ข้อมูลกับลูกค้ามาอย่างต่อเนื่องทั้งนี้ธนาคารได้ให้บริการลูกค้าตามแนวทางของหลัก Market Conduct และไม่เคยละเว้นการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดต่อธนาคารในฐานะธนาคารพาณิชย์ของรัฐทางธนาคารยึดมั่นในการปฏิบัติงานตามหลัก บรรษัทภิบาลดำเนินงานอย่างมืออาชีพด้วยความซื่อสัตย์และโปร่งใส ซึ่งเมื่อศาลฎีกามีคำพิพากษาเป็นเช่นใดทางธนาคารน้อมรับคำปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดเนื่องจากศาลได้วินิจฉัยตามพยานเอกสารและหลักฐานต่างๆรวมทั้งพยานบุคคลที่คู่ความทั้งสองฝ่ายนำสืบพยานแสดงต่อศาลซึ่งทุกฝ่ายไม่ควรรล่วงละเมิดคำตัดสินของศาล
ภายหลังนายเอกวิชช์ การเข้าพบกับคณะผู้บริหารธนาคารกรุงไทยแล้ว นายเอกวิชช์ ได้กล่าวว่า "สิ่งที่ทำไปลงไปด้วยไม่ทันยั้งคิด เนื่องจากความเดือดร้อนของตนเอง ขอให้ทุกคนเข้าใจว่า ตนไม่มีเจตนาที่จะทำให้ใครต้องเดือดร้อนจากเรื่องนี้ แต่ที่มาด้วยต้องการให้พิจารณาเรื่องของตนว่าเกิดจากสาเหตุอะไร ขอให้ความเป็นธรรมกับตนด้วย ที่ผ่านมาขอโทษต่อทางธนาคาร ที่สร้างความวุ่นวาย ทำให้ภาพลักษณ์ของธนาคารเสียหาย แล้วก็ได้ขอโทษเป็นที่เรียบร้อย ทำให้รู้สึกสบายใจอย่างมาก และต่อจากนี้ไป จะไม่ทำสร้างความวุ่นวายและพฤติกรรมเช่นนี้อีก จากนี้ต่อไปปล่อยให้เป็นกระบวนการของธนาคาร เพื่อตรวจสอบหาข้อผิดพลาด และรอการติดต่อเพื่อคำชี้แจงให้ทราบต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
หนุ่มนักธุรกิจ สุดทน บุกทวงเงิน 8.3 ล้าน..โวยโดนปลอมลายเซ็นเบิกเงิน ร้อง 10 ปี คดีไม่คืบ(คลิป)
นักธุรกิจหนุ่มโดนปลอมลายเซ็นเครียดหนัก ปีนเสาสูงเขียนป้ายผ้าประจานธนาคารดังปล่อยเงิน 8 ล้านทำหมดตัว