- 01 ก.ย. 2563
หนุ่มชอบกินของดิบ ตัดสินใจเข้าตรวจ หลังเสียประสาทสัมผัสทั่วร่างกายซีกขวาท่อนบน ก่อนเจอเต็มๆ พยาธิไชสมอง มานาน 17 ปีแล้ว
เว็บไซต์เดลี่เมล รายงานว่า หนุ่มจีนแซ่เฉิน วัย 23 ปี เข้ารับการผ่าตัดใหญ่ครั้งสำคัญในชีวิต เพื่อนำพยาธิออกจากสมอง หลังจากที่มันอาศัยอยู่ในร่างกายเขามาเป็นระยะเวลานานถึง 17 ปี เรียกได้ว่าเติบโตมาด้วยกัน โดยที่ผ่านมาเขามีอาการเจ็บป่วยมาโดยตลอด แต่ไม่เคยคิดเลยว่าต้นเหตุคือปรสิตที่ฝังตัวอยู่ในสมอง
เฉิน เริ่มมีอาการมือเท้าชามาตั้งแต่ตอนอายุ 6 ขวบ รวมทั้งประสบภาวะคลื่นไส้อาเจียนและวิงเวียนศีรษะอยู่เป็นประจำ ด้วยความที่พ่อแม่ของเขาต่างมีปัญหาเรื่องการขยับแขนขาด้วยกันทั้งคู่ เขาจึงคิดว่าอาการของตัวเองเป็นปัญหาทางกรรมพันธุ์จากพ่อแม่ ไม่คิดว่าเป็นโรคอันตรายร้ายแรงอะไร แต่เขาคิดผิด
จนกระทั่งในปี 2558 ตอนที่เฉินอายุ 18 ปี อาการชาของเฉินก็ไม่แค่ชาแบบธรรมดา โดยเฉินสูญเสียประสาทสัมผัสทั่วร่างกายซีกขวาท่อนบน เขาคิดว่ามันไม่ปกติแล้ว และตัดสินใจไปพบแพทย์ในที่สุด
แพทย์ได้ทำการตรวจซีทีสแกนและเอกซเรย์ กระทั่งพบว่ามี พยาธิตัวแบน (tape worm) อยู่ในสมองของเขา แต่แพทย์ยังไม่ตัดสินใจผ่าตัดในทันที เนื่องจากมีความเสี่ยงสูง และจุดที่พยาธิฝังตัวอยู่ มันยากมากที่จะผ่าเอาออกมาได้
หลังจากผ่านไป 5 ปี ในที่สุดเฉินก็ได้เข้าห้องผ่าตัด ที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยอู๋ฉาง มณฑลเจียงซู ทางตะวันออกของจีน โดยทีมศัลพยแพทย์สามารถนำพยาธิออกมาได้สำเร็จ วัดความยาวได้ 12 เซนติเมตร ยังมีชีวิตอยู่และดิ้นดุกดิก ส่วนเฉินผ่านพ้นการผ่าตัดมาได้ด้วยดี และขณะนี้กำลังพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาล
ส่วนสาเหตุที่เฉินติดเชื้อพยาธินั้น แพทย์สันนิฐานว่า น่าจะเป็นเพราะดื่มน้ำที่ปนเปื้อนไข่พยาธิ หรือเกิดจากการบริโภคเนื้อสัตว์แปลก คือ กบ และ งู ที่ปรุงแบบสุก ๆ ดิบ ๆ รวมทั้งบริโภคแบบดิบ ไม่มีการปรุง ซึ่งอันตรายมาก เพราะเมื่อพยาธิเข้าสู่ร่างกายแล้ว ผู้ป่วยอาจประสบภาวะติดเชื้ออย่างรุนแรงได้
สำหรับกรณีของเฉิน การที่เขาประสบปัญหามือเท้าชาและสูญเสียประสาทสัมผัส เป็นเพราะพยาธิฝังตัวกัดกินเนื้อสมองของเขา จนได้รับความเสียหาย
อย่างไรก็ตาม นับว่าโชคดีที่เขาตัดสินใจไปหาหมอในที่สุด จนพ้นขีดอันตราย เพราะหากเขาปล่อยปละละเลย อาการของเขาอาจรุนแรงหนักมากกว่านี้หลายเท่าก็เป็นได้