เทียบอาการ โควิดโอไมครอนกลายพันธุ์ทั้ง 5 เหมือนหรือต่างกัน ตัวไหนร้ายสุด

เทียบอาการ โควิดโอไมครอนกลายพันธุ์ทั้ง 5 เหมือนหรือต่างกัน แน่นอนผู้ที่มีโรคประจำตัวไม่ควรชะล่าใจ ต้องระวังมากที่สุด

ยังต้องป้องกันอย่างเข้มงวดและระวังอยู่ทุกฝีก้าว กับการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ที่ล่าสุดจากรายงานผู้ติดเชื้อโควิดในไทยล่าสุดนั้น ทางสธ.ได้ให้ข้อมูลว่า พบผู้ป่วยในไทยรายใหม่ยืนยันแล้ว 24,252 ราย สำหรับผู้ป่วยที่รู้ผลจากการตรวจด้วย ATK 26,941 ราย มีผู้เสียชีวิต 94 ราย ผู้ป่วยอาการหนัก 1,845 ราย และใส่เครื่องช่วยหายใจ 782 ราย

 

เทียบอาการ โควิดโอไมครอนกลายพันธุ์ทั้ง 5 เหมือนหรือต่างกัน ตัวไหนร้ายที่สุด
 

โดย โควิด ที่กำลังระบาดอยู่ในประเทศไทยนั้น ส่วนใหญ่เป็น โควิดกลายพันธุ์ ที่ แพร่กระจายมากที่สุด อย่างโอไมครอน ทว่า เจ้า โอไมครอนโควิด ตอนนี้ได้ แตกออกเป็น 5 สายพันธุ์แล้ว ซึ่งแต่ละสายพันธุ์มีอาการและความรุนแรงเหมือนและแตกต่างกันอย่างไร ประชาชนต้องเฝ้าระวังอย่างไรบ้าง วันนี้ทีมข่าวไทยนิวส์จะพาไปศึกษาเพื่อจะได้สังเกตอาการตัวเองถูก หากมีความเสี่ยงสูง


เริ่มกันที่ โอไมครอน สายพันธุ์ BA.1 ที่ ค้นพบครั้งแรกที่ทวีปแอฟริกาใต้เมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2564 โดยองค์การอนามัยโลก หรือ WHO จัดให้เป็นสายพันธุ์ที่อยู่ในระดับน่ากังวล มีรหัสไวรัสคือ BA.1 ปัจจุบันมีการระบาดลามไปในหลายประเทศทั่วโลกแล้วและมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง เพราะสามารถแพร่เชื้อและเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายขึ้น เมื่อเทียบกับสายพันธุ์เบตา และเดลตา รวมทั้งยังมีแนวโน้มต้านประสิทธิภาพวัคซีนอีกด้วย คนที่เคยติดเชื้อโควิด มีโอกาสที่จะติดเชื้อซ้ำได้จากโควิดสายพันธุ์โอมิครอน

เทียบอาการ โควิดโอไมครอนกลายพันธุ์ทั้ง 5 เหมือนหรือต่างกัน ตัวไหนร้ายที่สุด

ต่อมาคือ โอไมครอน สายพันธุ์ BA.2 สายพันธุ์นี้ ถูกค้นพบเมื่อเดือนมกราคม 2565 ซึ่งองค์การอนามัยโลก ได้ออกมาเผยว่าไวรัสโควิดสายพันธุ์โอมิครอน BA.2 แม้จะแพร่ระบาดได้ง่ายกว่าสายพันธุ์ BA.1 แต่ไม่พบความรุนแรงที่แตกต่าง หรือมากไปกว่าสายพันธุ์ BA.1 แต่อย่างใด


แต่ สิ่งที่น่ากังวลก็คือโอไมครอน สายพันธุ์ BA.2 แพร่เชื้อได้มากกว่าโอมิครอนตัวแม่ถึง 30% และยังหลบหลีกภูมิคุ้มกันจากการฉีดวัคซีนได้ดีมากขึ้นกว่าโอมิครอนตัวแม่ จนเป็นที่มาของฉายา โอมิครอนล่องหน ทำให้ขณะนี้ โอมิครอน BA.2 กลายเป็นเชื้อโควิดสายพันธุ์หลักที่ครองโลก พบผู้ติดเชื้อมากที่สุดเกือบ 86% ของผู้ติดโควิดทั้งหมดทั่วโลก

เทียบอาการ โควิดโอไมครอนกลายพันธุ์ทั้ง 5 เหมือนหรือต่างกัน ตัวไหนร้ายที่สุด

ถัดมาอีกสายพันธุ์คือ โอไมครอน สายพันธุ์ BA.2.2 ตัวนี้ ถูกค้นพบเมื่อเดือนมีนาคม 2565 ที่ฮ่องกง ซึ่งเกิดจากการกลายพันธุ์ของโอมิครอนเดิมที่ระบาดอย่างหนักในฮ่องกงจนพัฒนาเป็นสายพันธุ์ใหม่ เป็นสายพันธุ์ที่หลายคนกังวล เพราะมีผู้เสียชีวิตในฮ่องกงเพิ่มสูงขึ้น จนมีสถิติสูงสุดในโลก

 

ทว่าจากการที่พบผู้ป่วยสายพันธุ์ BA.2.2 ในไทย ไม่มีอาการรุนแรง และไม่พบผู้เสียชีวิตมากไปกว่าสายพันธุ์อื่นๆ รวมถึงการแพร่เชื้อก็ไม่รวดเร็วกว่าสายพันธุ์อื่นๆ ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังไม่มีข้อมูลว่าทำให้ประสิทธิภาพของวัคซีนลดลง หรือหลีกหนีวัคซีนได้มากกว่าสายพันธุ์โอมิครอนอื่นๆ เหตุผลที่ทำให้สายพันธุ์ BA.2.2 ในไทยไม่ระบาดหนักเหมือนที่ฮ่องกง เป็นเพราะว่ามีสายพันธุ์ BA.1 และ BA.2 มาจับจองพื้นที่ระบาดไปก่อนแล้วนั่นเอง

เทียบอาการ โควิดโอไมครอนกลายพันธุ์ทั้ง 5 เหมือนหรือต่างกัน ตัวไหนร้ายที่สุด


สายพันธุ์ที่หลายคนได้ยินชื่อเมื่อเร็วๆ นี้ก็คือ โอไมครอนสายพันธุ์ XE ซึ่งเมื่อวันที่ 31 มีนาคม ที่ผ่านมา ทางองค์การอนามัยโลก ได้ประกาศเตือนเกี่ยวกับโอมิครอนลูกผสมสายพันธุ์ใหม่ XE ที่ผสมกันระหว่างโอมิครอน  BA.1+BA.2 ว่าอาจเป็นเชื้อโควิด ที่แพร่กระจายรวดเร็วที่สุด โดยถูกพบครั้งแรกในสหราชอาณาจักร ตั้งแต่เดือนมกราคม 2565 ขณะนี้มีคนติดเชื้อแล้วกว่า 600 ราย ขณะที่ฮ่องกงยืนยันพบผู้ติดเชื้อโอมิครอน XE แล้ว 2 ราย และพบผู้ติดเชื้อที่ไทยแล้ว 1 ราย

 

และสิ่งที่ต้องเฝ้าระวังคือ โอมิครอนสายพันธุ์ XE พัฒนาความสามารถด้านการแพร่เชื้อได้เร็วขึ้นกว่าสายพันธุ์ BA.2 ถึง 10% และแพร่ได้รวดเร็วกว่าโอมิครอนสายพันธุ์ดั้งเดิม (BA.1) ถึง 43% จากนี้ไปต้องใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าสายพันธุ์ลูกผสม "XE" จะกลายเป็นคลื่นระลอกใหม่ที่ระบาดไปทั่วโลก และเข้ามาแทนที่ BA.2 ได้หรือไม่

เทียบอาการ โควิดโอไมครอนกลายพันธุ์ทั้ง 5 เหมือนหรือต่างกัน ตัวไหนร้ายที่สุด


โอไมครอน สายพันธุ์ XJ นอกจากสายพันธุ์ XE แล้ว ตอนนี้ยังมีโอมิครอนสายพันธุ์ XJ ซึ่งเป็นโควิดลูกผสมระหว่างสายพันธุ์ย่อยโอไมครอน BA.1 และ BA.2 ซึ่งพบครั้งแรกที่ประเทศฟินแลนด์ และพบผู้ติดเชื้อในไทยแล้ว 1 ราย จุดเด่นคือมีความสามารถในการหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกัน ส่วนความสามารถในการแพร่ระบาด ความรุนแรงของอาการในสายพันธุ์ XJ เมื่อดูจากรหัสพันธุกรรมบนจีโนมแล้ว ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านลงความเห็นว่าไม่น่าจะแตกต่างไปจากโอมิครอน สายพันธุ์ BA.1 และ BA.2

 

- อาการโควิดโอไมครอนเป็นอย่างไร
สำหรับ โควิดโอมิครอนทั้ง 5 สายพันธุ์ที่พบนี้โดยทั่วไปแล้วมีอาการไม่ต่างกัน เว้นแต่ความสามารถในการแพร่เชื้อที่รวดเร็วแตกต่างกันไป จากการเก็บข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขไทย พบว่าใน 100 คน หากติดเชื้อโควิดโอมิครอน จะแสดงอาการดังต่อไปนี้

54% มีอาการไอ
37% มีอาการเจ็บคอ
29% มีอาการมีไข้
15% มีอาการปวดกล้ามเนื้อ
12% มีอาการมีน้ำมูก
10% มีอาการปวดศีรษะ
5% มีอาการหายใจลำบาก
2% มีอาการได้กลิ่นลดลง

เทียบอาการ โควิดโอไมครอนกลายพันธุ์ทั้ง 5 เหมือนหรือต่างกัน ตัวไหนร้ายที่สุด


แต่แม้ว่าอาการในช่วงแรกที่ติดเชื้อจะไม่รุนแรง แต่ก็สามารถพัฒนาอาการรุนแรงขึ้นได้ โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง มีโรคประจำตัว ดังนั้นจึงไม่ควรชะล่าใจ ยังต้องระมัดระวังป้องกันความเสี่ยงจากการติดเชื้อโควิด คือสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่ออยู่ในที่แออัดหรือมีผู้คนจำนวนมาก เพราะโอมิครอนสามารถแพร่เชื้อได้ง่าย พยายามหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารร่วมกัน และเว้นระยะห่าง

 

อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิดโอไมครอนส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ดังนั้นการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดจึงยังมีความจำเป็นและสำคัญอย่างยิ่ง ถึงแม้จะไม่ได้ช่วยป้องกันการติดเชื้อ แต่ก็ช่วยลดความรุนแรงของโรคได้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

 

เทียบอาการ โควิดโอไมครอนกลายพันธุ์ทั้ง 5 เหมือนหรือต่างกัน ตัวไหนร้ายที่สุด


ข้อมูลจาก WHO, กระทรวงสาธารณะสุข, ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี และ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์