- 19 ก.ค. 2567
"เจอผู้ได้รับสารไซยาไนด์ ห้ามเป่าปากช่วยหายใจ เด็ดขาด" อ.เจษฎ์ รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ เผยชัดการช่วยเหลือที่ถูกต้องควรทำอย่างไร
อ.เจษฎ์ รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ โพสต์ข้อความระบุ
"เจอผู้ได้รับสารไซยาไนด์ ห้ามเป่าปากช่วยหายใจ เด็ดขาด"
คงได้เห็นข่าว คดีฆาตกรรมชาวเวียดนาม 6 ศพ ถูกวางยาพิษในโรงแรมหรู ย่านราชประสงค์ และมีคำสรุปว่าเป็นการเสียชีวิตจากสารพิษ "ไซยาไนด์"
ประเด็นที่อยากจะเน้นเตือนกันคือ ไซยาไนด์เป็นสารพิษที่เมื่อผู้ได้รับเข้าไปแล้ว และจะออกฤทธิ์ตามเซลล์และเนื้อเยื่อต่างๆ ของร่างกายที่กระแสเลือดพาไซยาไนด์ไป ..
โดยมันยังมีเรื่องต้องระวังมากๆ อีกเรื่องคือ ถ้าพบผู้ที่ได้รับไซยาไนด์เข้าไป หมดสติ หัวใจหยุดเต้น หยุดหายใจ และจำเป็นต้องทำการปฐมพยาบาล ด้วยวิธี CPR นั้น ...
"ห้ามทำการผายปอด เป่าปาก เป่าจมูก โดยเด็ดขาด" ครับ ...
เพราะเราอาจจะได้อันตรายจากการรับสารไซยาไนด์เข้าไปได้ !
ขอเอาความรู้เกี่ยวกับสารพิษไซยาไนด์ จากโรงพยาบาลบำรุงราษฎ์ มาให้อ่านกันด้วยครับ
ไซยาไนด์คืออะไร?
- "ไซยาไนด์" คือสารเคมีอันตราย ที่ออกฤทธิ์ได้อย่างรวดเร็ว เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะทำให้เซลล์ใช้ออกซิเจนไม่ได้ (ยับยั้งการหายใจระดับเซลล์) จนอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต
- ไซยาไนด์เป็นสารเคมีที่มักนำมาใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตกระดาษ สิ่งทอ และพลาสติก ทอง จิลเวลรี่ การทำขั้วโลหะ สามารถปนเปื้อนได้ทั้งในอากาศ ดิน น้ำ และอาหาร
- ไซยาไนด์สามารถเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ โดยพบในพืชบางชนิด เช่น เมล็ดของแอพพริคอท (Apricot) และเชอรรี่ดำ (Black cherry) และสารลินามาริน (Linamarin) ซึ่งพบได้ในหัวและใบของมันสำปะหลัง (Cassava)
- นอกจากนี้ กระบวนการเผาผลาญภายในร่างกายมนุษย์ ก็สามารถก่อให้เกิดสารไซยาไนต์ได้เช่นกัน
- อย่างไรก็ตาม ไซยาไนด์ปริมาณเพียงเล็กน้อยที่พบในพืชและกระบวนการเผาผลาญนั้นไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต
#อันตรายจากสารพิษไซยาไนด์
- ไซยาไนด์สามารถเข้าสู่ร่างกายได้หลายวิธี ทั้งการสัมผัส การสูดดม รับประทาน เป็นต้น
- อาการแสดงหลังได้รับไซยาไนด์ ตัวอย่างเช่น ระคายเคืองบริเวณที่สัมผัสอย่างผิวหนังหรือดวงตา ร่างกายอ่อนแรง เวียนศีรษะ คลื่นไส้ หายใจติดขัด หมดสติ และหัวใจหยุดเต้น เป็นต้น
- โดยความรุนแรงของอาการนั้น อาจขึ้นอยู่กับชนิดของไซยาไนด์ ปริมาณ และระยะเวลาในการได้รับ
- ไซยาไนด์เป็นสารพิษที่ยับยั้งการหายใจระดับเซลล์ ทำให้เซลล์ไม่สามารถใช้ออกซิเจนในการสร้างพลังงาน จึงส่งผลกับอวัยวะที่ใช้ออกซิเจนและพลังงานสูง เช่น สมอง และหัวใจ เป็นลำดับแรก
- หากได้รับสารพิษในขนาดที่มากเพียงพอ สามารถทำให้เสียชีวิตเฉียบพลันได้ ไม่ว่าจะเกิดจากการรับสารด้วยวิธีใดก็ตาม
#ลักษณะอาการเมื่อถูกสารพิษ
- อาการของผู้ได้รับสารพิษ อาจมีอาการ หัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน หัวใจเต้นผิดจังหวะ หมดสติ ชัก เลือดเป็นกรดรุนแรง และเสียชีวิตได้
- โดยผลกระทบจากการได้รับไซยาไนด์อาจแบ่งได้ 2 ประเภท ดังนี้
1. ภาวะเป็นพิษจากไซยาไนด์แบบเฉียบพลัน : เป็นอาการที่เกิดขึ้นในทันที เช่น หายใจติดขัด เลือดไหลเวียนผิดปกติ ภาวะหัวใจหยุดเต้น สมองบวม ชัก และหมดสติ เป็นต้น
2. ภาวะเป็นพิษจากไซยาไนด์แบบเรื้อรัง : เกิดจากการได้รับไซยาไนด์ ปริมาณเล็กน้อยต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน ในเบื้องต้นอาจทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ ง่วงซึม คลื่นไส้ อาเจียน เกิดผื่นแดง และอาจมีอาการอื่น ๆ เกิดขึ้นตามมา เช่น รูม่านตาขยาย ตัวเย็น อ่อนแรง หายใจช้า เป็นต้น
หากไม่ได้รับการรักษา อาจทำให้หัวใจเต้นช้าหรือเต้นผิดปกติ ผิวหนังบริเวณใบหน้าและแขนขากลายเป็นสีม่วง หมดสติ และเสียชีวิตในที่สุด
#หากสัมผัสกับไซยาไนด์ควรรับมืออย่างไร ?
- ไซยาไนด์เป็นสารเคมีอันตราย หากสัมผัสกับสารชนิดนี้ควรรีบลดปริมาณสารดังกล่าวให้ได้มากที่สุด ซึ่งวิธีการรับมือกับ ไซยาไนด์ อาจทำได้ ดังนี้
- การสัมผัสทางผิวหนัง : หากร่างกายสัมผัสกับไซยาไนด์ ให้ถอดเสื้อผ้าที่ปนเปื้อนออกด้วยการใช้กรรไกรตัดเสื้อผ้าออกเป็นชิ้น ๆ และนำออกจากลำตัว โดยวิธีนี้จะช่วยทำให้เสื้อผ้าที่ปนเปื้อน ไซยาไนด์ ไม่ไปสัมผัสกับผิวหนังส่วนอื่น เช่น ศีรษะ และไม่ควรให้ผู้อื่นสัมผัสร่างกายหรือเสื้อผ้าโดยตรงเพราะอาจได้รับพิษจาก ไซยาไนด์ ไปด้วย จากนั้นจึงทำความสะอาดร่างกายด้วยน้ำและสบู่เพื่อลดปริมาณสารพิษให้ได้มากที่สุด ก่อนรีบนำส่งโรงพยาบาล
- การสูดดมและรับประทาน : หากสูดดมอากาศที่มีไซยาไนด์ปนเปื้อน ควรออกจากพื้นที่บริเวณนั้น หากไม่สามารถออกจากสถานที่ได้ควรก้มต่ำลงบนพื้น ในกรณีที่ผู้ป่วยหายใจลำบากหรือหยุดหายใจ ต้องทำ ช่วยชีวิต (CPR) เพื่อปฐมพยาบาลเบื้องต้นและรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่ห้ามใช้วิธีเป่าปากหรือวิธีผายปอด เพื่อหลีกเลี่ยงการได้รับสารพิษ
- การสัมผัสทางดวงตา : ควรถอดแว่นตาหรือคอนแทคเลนส์ออก จากนั้นให้ใช้น้ำสะอาดล้างตาต่อเนื่องกันอย่างน้อย 10 นาที และเดินทางไปยังโรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการตรวจรักษา
- สิ่งของบางอย่างที่ปนเปื้อนไซยาไนด์ อาจนำกลับมาใช้ใหม่ได้ แต่ต้องทำความสะอาดเพื่อกำจัดสารพิษอย่างถูกวิธีก่อนนำกลับมาใช้ สำหรับคอนแทคเลนส์ หรือเสื้อผ้าที่ปนเปื้อนควรเก็บใส่ถุงพลาสติกที่มิดชิดและทิ้งให้เหมาะสมตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ
#วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น
- ห้ามผายปอด เพราะผู้ช่วยเหลือมีโอกาสได้รับสารพิษ จากการเป่าปอด
เนื่องจากไซยาไนด์เป็นสารพิษที่รุนแรง และสามารถทำให้เสียชีวิตได้ในหลักนาที หากได้รับในปริมาณมาก อาจเสียชีวิตฉับพลันได้
- ดังนั้น จึงไม่มีวิธีการปฐมพยาบาลแบบจำเพาะเจาะจง กับการถูกสารพิษชนิดนี้ และควรรีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด