ปีนต้นงิ้วยังน้อยไป! ผลกรรมของคนคบชู้น่ากลัวนัก แม้อดีตชาติพระอานนท์ยังเคยตกนรกขุมใหญ่ เกิดเป็นสัตว์ถูกตอนหลายชาติ เพราะล่วงศีลข้อกาเมฯ

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

กรรมจากการเป็นคบชู้ ผิดลูกผิดเมียผู้อื่นนั้น ถือเป็นกรรมที่ร้ายแรง แสดงผลได้ทั้งในปัจจุบันชาติและชาติต่อไป ซึ่งการให้ผลของกรรมอยู่ที่ความหนักเบาของการกระทำ หากทำให้มากและสม่ำเสมอโดยไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี อีกทั้งยังยินดีในการกระทำของตนว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง  เมื่อตายไปย่อมลงสู่นรกขุมใหญ่  หากหมดกรรมแล้ว เศษกรรมที่หลงเหลืออยู่ก็จะนำพาให้เกิดเป็นเปรต เป็นสัตว์เดรัจฉาน หรือหากมีโอกาสได้เกิดเป็นมนุษย์ เศษกรรมจากการคบชู้ก็ยังตามมาให้ผลได้ เช่น ทำให้แวดล้อมไปด้วยศัตรู เป็นผู้อาภัพรัก ครอบครัวแตกแยก ถูกแย่งของรัก ไม่มีความสุขในชีวิตคู่ เป็นต้น

ปีนต้นงิ้วยังน้อยไป! ผลกรรมของคนคบชู้น่ากลัวนัก แม้อดีตชาติพระอานนท์ยังเคยตกนรกขุมใหญ่ เกิดเป็นสัตว์ถูกตอนหลายชาติ เพราะล่วงศีลข้อกาเมฯ

พระพุทธองค์ได้ทรงตรัสถึงผลกรรมแห่งการล่วงศีลข้อสาม กาเมสุมิจฉาจาราฯ ไว้ใน  สัพพลหุสสูตร พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๓  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๕  ใจความว่า

"ดูกรภิกษุทั้งหลาย กาเมสุมิจฉาจารอันบุคคลเสพแล้ว เจริญแล้ว กระทำ

ให้มากแล้ว ย่อมยังสัตว์ให้เป็นไปในนรก ในกำเนิดสัตว์ดิรัจฉาน ในเปรตวิสัย

วิบากแห่งกาเมสุมิจฉาจารอย่างเบาที่สุด ย่อมยังศัตรูและเวรให้เป็นไปแก่ผู้มาเกิด

เป็นมนุษย์ ฯ"

ผลกรรมของคนคบชู้ ประพฤติผิดในกามอย่างสม่ำเสมอ หากกรรมนั้นมีกำลังมากเพียงพอ เมื่อตายไปแล้วตามความเชื่อที่ปรากฎในไตรภูมิกถา ก็ย่อมลงสู่นรกขุมใหญ่ คือ “ โรรุวนรก”   หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "นรกแห่งเสียงหวีดร้อง"  เป็นนรุกขุมที่ 4 ใน นรกขุมใหญ่ทั้ง 8 ขุม โดยการลงทัณฑ์ต่อสัตว์นรกขุมนี้ก็จะเพิ่มโทษให้มากขึ้นจากนรกขุมที่สาม  บริเวณใจกลางขุมนรกจะมีดอกบัวเหล็ก มีเปลวไฟลุกโชนตลอด  กรรมก็จะดลบันดาลให้สัตว์นรก กระโดดลงไปในดอกบัวเหล็ก แล้วกลีบดอกบัวก็จะหุบลงงับอวัยวะภายในร่างกาย เช่น แขน ขา ศรีษะ และส่วนต่างๆ เปลวไฟเผาผลาญให้สัตว์ต้องตายอย่างทุกข์ทรมาน และกลับมามีชีวิตเป็นสัตว์นรกใหม่ และชดใช้กรรมในลักษณะเดิมวนเวียนอยู่เช่นนี้ จนกว่าจะหมดกรรม

สำหรับระยะเวลาของการชดใช้กรรมในโรรุวนรก ใช้เวลานาน ๔,๐๐๐ ปีนรก หรือ เก้าแสนสามหมื่นหกพันล้าน (๙๓๖,๐๐๐,๐๐๐,๐๐๐) ปีมนุษย์

เศษกรรมที่เหลือจากนรกขุมใหญ่ ยังต้องชดใช้ในนรกบริวาร คือ  “อุสสทนรก” ซึ่งเป็นนรกบริวาร ที่มีอยู่ ๑๒๘ ขุม อยู่รอบๆ ๔ ทิศของมหานรก โดยความแรงของไฟนรกจะมีกำลังน้อยกว่ามหานรก   หากสิ้นกรรมจาก “อุสสทนรก” แล้ว เศษกรรมที่เหลืออยู่ก็จะนำพาให้เกิดใน “ยมโลก” ที่มีอยู่ ๓๒๐ ขุม ซึ่งอยู่รอบ ๔ ทิศ ทิศละ ๑๐ ขุม ของมหานรกแต่ละขุม  ตามแต่กรรมของสัตว์นรกแต่ละตน ว่าจะต้องชดใช้ในนรกขุมใด

ในยมโลกนี้ ก็จะมีขุมนรกที่รองรับสัตว์นรกที่กระทำผิดศีลข้อสาม คือ สิมพลีนรก หรือ นรกป่างิ้ว  มีต้นงิ้วสูง หนามแหลมคมเป็นกรดยาวประมาณ ๓๖ องคุลี และลุกเป็นไฟอยู่ตลอดเวลา สัตว์นรกทั้งชายหญิงจะต้องปีนต้นงิ้วให้ถึงยอดงิ้ว ระหว่างทางก็จะเจ็บปวดด้วยหนามที่คอยทิ่มตำจนเลือดไหลเป็นทาง เมื่อถึงยอดงิ้ว จะมีอีกาสีดำมาจิกลูกตาจนต้องปีนลงมาเพื่อหนีความตาย เมื่อปีนลงมาก็ต้องมาเจอกับนายนิรยบาลที่คอยเอาหอก เอาหลาวมาทิ่มแทงให้เจ็บปวดจนต้องปีนขึ้นไปบนต้นงิ้วอีก และถูกอีกาจิกอีกเช่นนี้ จนกว่าจะหมดวาระกรรม สัตว์นรกทั้งชายและหญิงต่างก็ปีนต้นงิ้วสลับกันไปมา เช่น เมื่อชายปีนขึ้น หญิงก็ปีนลง ไม่มีวันพบกันได้

เมื่อหมดวาระกรรมจากนรกในยมโลก เศษกรรมที่เหลือก็จะนำส่งให้เกิดเป็นเปรต อสุรกาย หรือสัตว์เดรัจฉานต่อไปตามแรงกรรม หากได้มีโอกาสเกิดมาเป็นมนุษย์เศษกรรมนั้นก็จะส่งผลให้เป็นคนอาภัพรัก ถูกทอดทิ้งจากพ่อแม่ ถูกทอดทิ้งจากสามีภรรยา ภรรยาหรือสามีมีชู้ ลูกไม่รักดี ครอบครัวแตกแยก เป็นต้น

กรรมของผู้ที่กระทำผิดศีลข้อสามนั้นจะมีน้ำหนักมากน้อยต่างกันตามเจตนา และความสม่ำเสมอในการกระทำ หากทำให้มาก ทำให้บ่อยก็แน่นอนว่ามีโอกาสลงมหานรกขุมที่ 4 คือ โรรุวนรกทันที แล้วก็ลงนรกบริวารอีกหลายๆขุมจนกว่าจะหมดกรรม  แต่สำหรับบางคนตายแล้ว ไปเกิดเป็นเปรตในทันทีก็มี เป็นต้น  ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างด้วยกัน ว่ากำลังของบาปกรรมจะเหมาะกับการไปเกิดในภพภูมิไหน

สำหรับตัวอย่างของผู้กระทำผิดศีลข้อสามนั้นมีอยู่มาก แต่จะขอยกเรื่องราวในอดีตชาติของ “พระอานนท์  ซึ่งตัวท่านเองก็เคยกระทำผิดศีลข้อสามโดยการคบชู้กับภรรยาของคนอื่นจนต้องตกนรกหมกไหม้และเกิดเป็นสัตว์หลายชาติ  เรื่องนี้ ปรากฏใน  “มหานารทกัสสปชาดก”  ซึ่งจะขอกล่าวโดยย่อคือ  ครั้งหนึ่งอดีตชาติพระอานนท์เคยเกิดเป็นพระราชธิดา ของพระเจ้าวิเวทหราช (หรืออังคติราช) พระนางมีนามว่า พระนางรุจาราชธิดา สามารถระลึกชาติย้อนหลังได้ 7 ชาติ และรู้ถึงชาติอนาคตได้อีก 7 ชาติ  นางทรงเล่าถึงอดีตชาติให้พระบิดาฟัง เพื่อให้พระบิดาคลายจากความเห็นผิดว่าผลของกรรมนั้นไม่มีจริง  นางเล่าว่า อดีตนางเคยเกิดเป็นบุตรนายช่างทองในแคว้นมคธราชคฤห์  ได้กระทำบาปหยาบช้า คบชู้กับภรรยาของชายอื่น แต่กรรมนั้นยังไม่ให้ผลในทันใด เพราะยังมีกรรมอื่นที่ให้ผลอยู่ เมื่อสิ้นจากชาตินี้กรรมอื่นๆจึงให้ผลก่อน ในชาติต่อไป นางได้เกิดเป็นบุตรของเศรษฐี และมีโอกาสคบมิตรสหายที่ดี จึงถูกชักชวนให้ถืออุโบสถศีล เมื่อสิ้นจากภพนี้แล้ว กรรมที่นางเคยทำไว้โดยการคบชู้กับภรรยาของผู้อื่นในชาติก่อนกลับย้อนมาให้ผล ทำให้ นางตกนรกใน “ โรรุวนรก”  เป็นเวลายาวนาน

เมื่อหมดกรรมจากนรก  ก็ได้เกิดเป็นลาถูกตอน ชาติต่อๆไปก็เกิดเป็นสัตว์ คือ เกิดเป็นลิงในป่า ถูกนายฝูงขบกัดลูกอัณฑะ ,เกิดเป็นโค ถูกตอน เมื่อสิ้นภพชาติของสัตว์เดรัจฉาน นางได้เกิดเป็นกระเทยในตระกูลที่มีสมบัติมาก แห่งแคว้นวัชชี ต่อมานางได้เกิดเป็นนางอัปสรในนันทวัน ณ ดาวดึงส์ มีทิพยสมบัติอันเพรียบพร้อม เป็นผู้ชำนาญด้านการฟ้อนรำ เป็นบาทบจาริกาของพระอินทร์ ขณะที่นางอยู่ในดาวดิงส์ก็ได้ระลึกอีก 7 ชาติ โดย 6 ชาติ นางก็ยังเกิดเป็นผู้หญิงอยู่  ส่วนชาติที่ 7 นางได้เกิดเป็นเทวดาผู้ชายผู้มีฤทธิ์มาก (ศึกษาอย่างละเอียดได้ที่  http://84000.org/tipitaka/atita/s.php?B=28&A=5180&Z=5625#863)

พระนางรุจาราชธิดาได้แสดงอดีตชาติ เพื่อให้บิดาเห็นว่า กรรมที่กระทำนั้นไม่ได้หายไปไหนยังคงติดตามไปทุกภพทุกชาติ แต่การให้ผลของกรรมบางประเภท อาจไม่ได้เห็นผลทันที เนื่องจากกรรมอื่นๆที่ทำไว้ให้ผลก่อน ฉะนั้นจึงไม่ควรประมาท หรือเห็นผิดว่า กรรมที่ทำแล้วไม่ให้ผล

ฉะนั้นกรรมจากการล่วงศีลข้อสาม กาเมสุมิจฉาจาราฯจึงน่ากลัวนัก แม้ในชาติปัจจุบันที่เห็นกันอยู่ ว่ามีภัยหลายประการที่เกิดกับคนคบชู้ นอกใจ นอกจากจะเสื่อมเสียชื่อเสียง แวดล้อมไปด้วยศัตรู ก็ยังมีผลอีกมาก โดยเฉพาะผลกรรมหลังความตาย!!

 

ปีนต้นงิ้วยังน้อยไป! ผลกรรมของคนคบชู้น่ากลัวนัก แม้อดีตชาติพระอานนท์ยังเคยตกนรกขุมใหญ่ เกิดเป็นสัตว์ถูกตอนหลายชาติ เพราะล่วงศีลข้อกาเมฯ

 

 

 

อ้างอิงข้อมูลจาก : พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๘  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒๐ ขุททกนิกาย ชาดก ภาค ๒

ว่าด้วย มหานารทกัสสปชาดก พระมหานารทกัสสปะ ทรงบำเพ็ญอุเบกขาบารมี

http://84000.org/tipitaka/atita/s.php?B=28&A=5180&Z=5625#863

เพจ : สาระน่ารู้จากพระไตรปิฏก

https://web.facebook.com/SARATRIPITAKA/posts/704469823032641?_rdc=1&_rdr

และ ไตรภูมิกถา